วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

ความหวังของตุ๊ก






ตุ๊ก เพื่อนรัก
       

 เกือบสองเดือนที่ข้าจากบ้านมา เพื่อมาทำงานในกรุงเทพฯ ตอนนี้ข้าได้งานแล้วล่ะ งาน สบาย เงินดี ข้าว่าดีกว่าอยู่กับความแห้งแล้งที่บ้านเป็นไหนๆ ข้าทำงานได้เดือนกว่า ข้ามีรถใช้ด้วย หากเอ็งเกิดเปลี่ยนใจ อยากมาทำงานบ้าง เอ็งเขียนมาบอกข้าได้ อย่างเอ็งต้องทำได้และอาจจะดีกว่าข้า งานสุจริตด้วย ผีซักผ้าอ้อมตากที่เงื้อมฟ้าตะวันตกนานแล้ว ไอแดดที่ร้อนเร่าตั้งแต่กลางวันเริ่มอุ่นจนจวนจะเย็น ท้องนาปีนี้ ไม่เหมือนท้องนาเมื่อปีก่อนๆ ไม่มีต้นข้าว ไม่มีแม้เสียงนกกา มีเพียงความแห้งแล้งที่แผ่ปกคลุมอยู่ทั้งทุ่งกว้างตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ตุ๊กถอนหายใจลึกๆ หลังจากจับตามองกระดาษสีขาวแผ่นนั้นมาเนินนาน เขามองผ่านความว่างเปล่าที่ไร้ขอบเขตนั้น ถ้อยคำที่เขาเคยบอกกับสายบัวยังก้องอยู่ในความทรงจำ ครั้งที่เพื่อนหลายคนในหมู่บ้านได้ทอดทิ้งความแห้งแล้ง และยากเข็ญเข้ากรุงว่า’’ ข้าเกิดและเติบโตที่นี่ ที่ท้องนาแห่งนี้ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ข้าจะอยู่ที่นี่ อยู่ต่อสู้กับมัน อยู่ข้างๆสายบัว …’’’  เมื่อนึกถึงสายบัว เขาก็อดที่จะกลุ้มใจไม่ได้ !  ความหวังที่เคยวาดเอาไว้ บัดนี้มันสูญสลายไปเสียสิ้นแล้ว ท้องนาแห่งความหวัง สองปีเข้านี่แล้วสิมันไม่มีต้นข้าวงอกเงยเลย สักต้น ตุ๊กมันโกรธฟ้า โกรธฝน โกรธธรรมชาติ ที่กลั่นแกล้งมัน สองปีที่มันได้สัญญากับพ่อของสายบัวว่ามันจะไปสู่ขอสายบัว สองปีแห่งความว่างเปล่า มันจวนจะหมดความหวังอยู่แล้วครั้นจะไปบอกกับพ่อสายบัว ขอเวลามันอีกสักนิด ขอเวลาให้มันหาเงินให้ได้ก่อน มันหรือจะกล้า พ่อของสายบัวคงไม่สนใจที่จะพูดกับมัน ‘’ข้ามีแต่สายบัวคนเดียว ข้าก็อยากให้มันมีความสุข แล้วสมัยนี้น่ะความสุขมันอยู่ที่การมีเงิน ข้าไม่เคยเห็นเคยมีความสุขโดยปราศจากเงินหากเอ็งรักสายบัวข้าไม่ว่า แต่ข้าก็อยากเห็นเอ็งมีเงินด้วย ..’’  ‘’ นาแล้วปีนี้ … ข้าคิดว่าขายข้าวทั้งหมดคงพอมีเงินบ้าง…’’ นั่นมันคือความหวังเมื่อสองปีที่แล้ว ตุ๊กมันกลุ้ม กลุ้มเสียจนไม่อยากจะทำอะไร มันทำอะไรไม่ถูก มันคิดถึงสายบัว หากมันยังไม่มีเงิน อีกไม่นานสายบัวก็คง … มันไม่อยากติดต่อ มันปวดแปลบเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจ ท่าทางเมินเฉยของพ่อสายบัวเมื่อยามที่มันไปหาสายบัวที่บ้าน…  ตุ๊กก้มมองดูจดหมายอีกครั้ง …’’ข้าทำงานเดือนกว่า ได้เงินเกือบห้าหมื่น…มันเป็นงานสุจริต หนทางสุดท้ายที่พอจะจุดความหวังของตุ๊กให้เรืองรองขึ้นได้บ้าง หากยังอยู่ที่นี่ก็คงไม่มีทางที่จะมีเงินขึ้นมาได้ แล้วสายบัวก็คงตกเป็นของคนอื่นอย่างไม่มีปัญหา ….   ตะวันลับไปนานแล้ว ตุ๊กยังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่เดิม เขายังตัดสินใจไม่ได้ หากไปกรุงเทพฯ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ทำงานอย่างที่เพื่อนเขียนมาบอก แล้วสายบัวละ หากไม่มีเขา สายบัวอาจถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับใครก็ได้ ….   คืนนี้ทั้งคืนตุ๊กนอนไม่หลับ ใช่ว่ารถจะแน่นจนไม่มีที่ให้เอน แต่ความหวัง ความสบายใจในบางส่วน สบายใจที่สายบัวสัญญาที่จะรอเขาคนเดียว สบายใจที่พ่อของสายบัวให้โอกาสเขา และความตื่นเต้นที่จะต้องไปจากบ้าน ต้องไปผจญกับสิ่งต่างๆ ที่กรุงเทพฯ คิดถึงบุญส่ง เพื่อนที่อาสาหางานให้และจะมารับที่สถานนีขนส่ง หากบุญส่งไม่มา เขาจะทำอย่างไร กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร เขาเคยมาเพียงไม่กี่ครั้ง เขาจะต้องเคว้งคว้างหากบุญส่งไม่มารับ แล้วจะบากหน้ากลับไปหาสายบัวได้อีกหรือ…. หลายอย่างที่มันเที่ยวผุดขึ้นในสมอง….ทั้งหนักใจ ทั้งสบายใจ  ……  เมื่อรถเข้าจอดที่สถานี ตุ๊กมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อหาบุญส่ง ภาพบุญส่งปรากฏในห้วงความคิด ชายร่างสมส่วน แต่งกายอย่างเชย ๆ จนต๊กลงมาจากรถ ตุ๊กยังหาบุญส่งไม่พบ ตุ๊กเริ่มร้อนใจ มองซ้าย ขวา ตุ๊กเริ่มสับสน….จนเมื่อมีใครคนหนึ่งเอื้อมมือมาจับที่บ่าตุ๊กด้านหลัง .   ‘’ ตุ๊ก….’’   ตุ๊กหันกลับไปดู ตุ๊กต้องตกตะลึงอยู่เป็นครู่ ‘’ไอ้ส่ง…’’  ตุ๊กพูดคล้ายละเมอ ไอ้ส่งของตุ๊ก มันเป็นไปได้เพียงนี้หรือ จากเด็กบ้านนอกที่ตุ๊กเห็นจนชินตา แต่ไอ้ส่งคนนี้ไม่มีวี่แววไอ้ส่งคนเดิมเหลือไว้เลย ไม่ว่าการแต่งกายทรงผม บุคลิก ไอ้ส่งมันหล่อขึ้น หล่ออย่างกับพระเอกหนังไทย ที่ตุ๊กเคยเห็นรูปตามหนังสือดารา…. บุญส่งพาตุ๊กไปที่รถยนต์ญี่ปุ่นคันงามซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ตุ๊กตื่นเต้น งง และบอกตัวเองไม่ถูกว่าเป็นอย่างไร เขานั่งมองดูรถที่คลานตามกันไปอย่างเลื่อนลอย ‘’ เป็นไงวะ ตุ๊ก ข้าเห็นเอ็งท่าทางงงๆ ตื่นเต้นหรือเพื่อน…’’   ‘’ ข้า…บอกไม่ถูก เอ็งเปลี่ยนไปมากจริงๆ หล่อจนข้าแทบจำไม่ได้…’’   ‘’ทำงานอย่างข้า ไม่หล่อก็ไม่ได้เงิน เอ็งก็เหมือนกันแหละวะอีกหน่อยก็ขี้คร้านจะหล่อ… วันนี้พักผ่อนก่อน แล้วข้าจะพาไปทำหล่อ แล้วจะได้ทำงาน…’’   ‘’ ส่ง…เอ็งทำงานอะไรกันแน่ ต้องหล่อจึงจะทำได้ แล้วข้าจะทำได้หรือวะ…’’     ‘’ได้ซิน่า …. เชื่อข้าเฮอะ…’’  บุญส่งพาตุ๊กมาที่อพาร์ตเมนท์ที่พักของเขา ‘’พักตามสบายนะตุ๊ก…ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าที่เอ็งเอามาแต่บ้านนอกทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ เอาของข้าใช้ก่อน บ่ายๆข้าจะพาไปซื้อใหม่ จะได้ไปถอดคราบบ้านนอกออกด้วย ข้าไปทำงานก่อน…’’ ตุ๊กเดินดูความงดงามของที่พัก ความสะดวกสบาย มันอยากได้แบบนี้สักห้อง อยากให้สายบัวได้เห็น อยากให้สายบัวมาอยู่ด้วย ….’’ ไอ้ส่งมันมีเงิน มันจึงทำได้ ข้าก็ต้องทำได้บ้าง สิ มันบอกว่าอย่างข้าก็ทำได้’’  … ตุ๊กคิดคนเดียว จนหลับไป บ่ายมากแล้ว กว่าตุ๊กจะรู้สึกตัว บุญส่งกลับมาพร้อมด้วยอาหารใส่ถุงพลาสติก ‘’รองท้องเสียก่อนแล้วข้าจะพาไปลอกคราบบ้านนอกหากเอ็งอยากหล่อ และรวยอย่างข้า เอ็งต้องทำตามข้า…’’   สบายมาก ….สายบัวเอ๋ย รอข้าก่อนเถอะ ข้ากำลังจะได้ทำงาน ข้ากำลังจะมีเงิน ไว้ข้าได้เงิน ก่อน ข้าจะต้องไปสู่ขอเอ็งแน่ๆ ….ตุ๊กคิดในใจ บุญส่งพาตุ๊กเข้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ผู้คนพลุกพล่านทั้งชายและหญิง บุญส่งเป็นคนกำกับแทบทุกอย่าง ตุ๊กไม่กล้าขัดขืนหรือแสดงความคิดเห็นอะไร เพราะบุญส่งเคยบอกว่า ‘’อยากได้เงิน ให้ทำตามที่บุญส่งบอก แล้วไม่นานก็จะได้อย่างอย่างบุญส่ง…’’  แม้บางอย่างตุ๊กไม่เคยทำ เช่น การแก้ผ้าอาบน้ำในอ่าง แล้วเข้าตู้อบไอน้ำ แต่ตุ๊กก็ต้องฝืนใจทำ คืนนี้แล้วสิที่บุญส่งจะพาตุ๊กไปพบผู้จัดการ ตุ๊กแต่งตัวเสียหล่อ เพราะบุญส่งคอยเป็นพี่เลี้ยง …ตุ๊กมองตัวเองในกระจก ยิ้มอย่างภูมิใจ ภูมิใจในความหล่อ ภูมิใจที่จะได้งานทำภูมิใจที่จะได้เงินไปสู่ขอสายบัว ตุ๊กก้าวลงจากรถตามบุญส่งไปด้วยใจสั่นเทา เข้าไปในร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งตุ๊กก็ไม่รู้ว่าเขาขายอะไรกัน ผ่านเข้าประตูไป ข้างในค่อนข้างมืด อีกมุมหนึ่ง มีผู้ชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ ทุกคนแต่งตัวหล่อ ตามโต๊ะที่มีคนนั่งกันอยู่เป็นกลุ่มๆ มีแก้วเหล้า ตุ๊กไม่ได้สังเกตอะไรมากกว่านี้ เพราะบุญส่งฉุดมือตุ๊กเดินไปอีกทางหนึ่ง บุญส่งพาตุ๊กเข้าไปในห้องแห่งหนึ่ง ซึ่งประดับไปด้วยกระจกเงา สวยงาม แสงไฟเพียงสลัวๆ มุมห้องแห่งหนึ่งมีตู้ที่เต็มไปด้วยขวดเหล้านานาชนิด ซึ่งตุ๊กเองก็ไม่แน่ใจหรอก มีโทรทัศน์เล็กๆ ฝังในผนังห้อง และมีเก้าอี้นวมยาวน่านอนวางอยู่บุญส่งยกมือไหว้ชายวัยกลางคน ‘’ผมพาเพื่อนมาพบท่านครับ….’’   ท่านที่บุญส่งเรียก มองตุ๊ก ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ตุ๊กแปลความหมายไม่ออก ตุ๊กยกมือไหว้ ท่านก็รับไหว้แต่สายตาไม่ได้ละจากตุ๊ก   ‘’ หล่อมาก ฉันดีใจที่ได้เธอมาร่วมงานด้วย เคยทำงานที่ไหนมาก่อนหรือยัง ‘’  ท่านถามขณะที่ตุ๊กอึกอัก บุญส่งตอบแทน ‘’เพิ่งมาจากต่างจังหวัด ….’’   ‘’เอ…แล้วแน่ใจหรือว่าจะทำงานได้’’  ‘’ ได้ครับ ผมต้องทำได้ เพราะผมอยากได้เงิน ผมทำได้ทุกอย่าง…’’ ตุ๊กให้คำมั่น ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่างานที่จะต้องคืออะไร ‘’เอาละ หากเธอแน่ใจ ฉันก็ยินดีที่จะให้เธอร่วมงาน แต่เราต้องมีสัญญากันว่าเธอจะต้องอยู่กับเราอย่างน้อยหนึ่งปี หากเธอพอใจ เงินเดือนขั้นแรกฉันก็จะให้ พักกับฉันที่นี่ มีรถให้ใช้ ….  ตุ๊กฟังอย่างตื่นเต้น ตื่นเต้นกับเงินเดือน….มีรถให้ใช้… ‘’ เธอยังไม่เคยทำงานมาก่อนใช่ไหม …เออ…ดีละ ฉันจะเริ่มฝึกให้เธอตั้งแต่คืนนี้เลย…’’   ‘’ ขอบใจนะบุญส่ง’’ ท่านหันมาพูดกับบุญส่ง ‘’เธอไปได้แล้ว ล็อคประตูด้วยและบอกข้างนอกว่าวันนี้ฉันไม่รับแขก’’ บุญส่งออกไปแล้ว ตุ๊กใจเต้นจนเหงื่อเริ่มซึม ท่านลุกขึ้นเดินมาหาตุ๊ก จับคางตุ๊กเชิดขึ้น ‘’หล่อจริงๆ หากเธอตามใจฉัน ฉันก็จ่ายเธอไม่อั้น เช่นกัน …. ไหนลองถอดเสื้นกางเกงออกซิ เธอแข็งแรงเพียงใด’’  ตุ๊กไม่กล้า ตุ๊กยืนงง ท่านเดินไปหยิบกล่องอะไร ตุ๊กไม่รู้ และซักเดี๋ยวหนึ่งก็มีภาพที่จอโทรทัศน์ ‘’ อ้าวยังไม่ถอดเสื้อกางเกงอีกหรือ งานอย่างนี้อายไม่ได้ ‘’ ตุ๊กไม่รู้จะทำอย่างไร มันเหมือนกับฝัน ท่านเดินเข้ามาจัดการกับเสื้อผ้าตุ๊ก ปากก็พร่ำ… ‘’ เธออยากได้เงิน เธอต้องตามใจฉัน นี่คืองานของเธอ ฉันจะสอนเธอ….ดูที่จอโทรทัศน์สิ…เธอต้องทำอย่างนั้น…กับฉัน….ตุ๊ก…’’ เหมือนโดนมนต์สะกด ตุ๊กไม่ขัดขืน นอกจากหลับตาและมองเห็นเงิน เงิน เงิน ร่างสายบัววิ่งเข้าสู่อ้อมกอด ตุ๊กได้กอดสายบัวไว้แนบอกจริงๆ กอดอยู่เนินนาน….วันนี้บาร์แออัดไปด้วยชาวดอกไม้ ทั้งแก่และอ่อนวัย ทุกคนมาที่นี่เพราะที่นี่มีดาราดาราที่พวกเขาคลั่งไคล้….
   พี่ตุ๊กที่รัก 
       นี่ก็เกือบปีแล้วที่พี่จากบ้านนามา พี่ไม่เคยส่งข่าวคราวถึงสายบัวเลย ไม่รู้ว่าพี่สบายดีหรือเปล่า…หรือพี่ลืมสายบัวเสียแล้ว ทุกวันสายบัวคอยพี่กลับ แต่ไม่มีวี่แวว นี่ก็เป็นจดหมายฉบับที่ 7 แล้ว หากพี่ยังรักสายบัวอยู่เช่นเดิม กลับมาหาสายบัวเถอะ …..   แสงไฟราตรีกรุงเทพฯ ส่งประกายวอมแวม ตุ๊กนั่งอ่านจดหมายด้วยหัวใจที่แตกสลาย สายบัว …พี่ยังรักเอ้งไม่มีเสื่อมคลาย พี่รักเอ็งคนเดียวจริงๆ แต่พี่…พี่เสียใจ พี่จะบอกสายบัวอย่างไรดี พี่…พี่แต่งงานกับสายบัวไม่ได้เสียแล้ว เพราะพี่ พี่…. แสงไฟราตรีโชติช่วงขึ้น แต่หัวใจตุ๊กกลับแหลกสลายเสียแล้ว ….ตุ๊กไม่ใช่ตุ๊กคนเดิม อีกแล้ว …ณ … ที่นี่ไม่มีตุ๊กคนนั้นเสียแล้ว…..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น