วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รักไม่มีวันดับ

ครั้งใดที่ผมเปิดอัลบั้มที่วางอยู่บนหัวที่เตียงนอนของผม ภาพแรกที่ต้องพบก็คือภาพแห่งความหลังที่แสนสุข สดชื่นมีทั้งสุขและทั้งเศร้าคละเคล้ากันไป ในภาพนั้นมีผมและพี่นพเพียงสองคน ผมจำได้อย่างไม่มีวันลืมว่า ‘’ ถ่ายเมื่อเราทั้งสองเริ่มปลูกรัก’’ ในภาพนั้นเป็นภาพพี่นพกำลังหอมแก้มผมและตัวผมเองยิ้มอย่างมีความสุข สดชื่นและมั่งคงตลอดไป พี่นพเป็นญาติผู้พี่ของผมซึ่งอายุมากกว่าผม 2 ปี พ่อรับพี่นพมาอยู่ด้วยเมื่อผมเรียนอยู่ ม..2 บ้านของผมอยู่ในตัวเมืองแต่บ้านพี่นพอยู่นอกเมือง พ่อจึงรับพี่นพมาอยู่ด้วยแล้วพ่อก็ส่งให้พี่นพเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ ครั้งแรกที่ผมได้พบกับพี่นพ ผมรู้สึกว่าผมรักพี่นพมากอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน พี่นพจัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง พ่อเห็นว่าห้องผมใหญ่พอสมควรและเตียงก็ใหญ่พอที่จะนอนได้สองคนอย่างสบายๆ เลยตกลงให้พี่นพอยู่ห้องเดียวกับผม ผมดีใจมากเลยทีเดียว เราสองคนไปโรงเรียนด้วยกันเป็นประจำ พี่นพและผมรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีมากเลยครับ พี่นพทำตัวให้ผมนับถืออยู่เสมอ ผมไม่กล้าทำอะไรกับพี่นพตามที่คิดเอาไว้เลย กลัวว่าพี่นพจะรังเกียจผมและก็กลัวคุณพ่อคุณแม่รู้ด้วย แต่แล้วคืนหนึ่งพี่นพแกล้งยั่วผมหรือไงก็ไม่ทราบ เพราะว่าพี่นพเข้านอนโดยที่นุ่งกางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ผมตกใจและตะลึงไปหมด จนแทบไม่เป็นอันทำการบ้านที่กำลังทำอยู่ แต่ก็กลับมามองดูอวัยวะส่วนหนึ่งของพี่นพที่อยู่ในกางเกงในสีขาวตัวนั้น ผมกลืนน้ำลายอย่างลำบากมาก ผมคงมองอยู่นานเกินไปทำให้พี่นพรู้ตัวแล้วถามผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า’’ชอบเหรอ’’ ทำให้ผมรู้สึกตัว แล้วก็ได้แต่ยิ้ม’’  ‘’ทำไมต้องอายด้วยอยากดูมั๊ยพี่จะให้ดู’’ พี่นพพูดพลางเลื่อนมือไปดึงกางเกงในออกจากร่างกาย มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นมากขึ้นหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เนื้อตัวสั่นไปหมดเหงื่อออกท่วมตัว ร้อนๆ หนาวๆ ยังไงชอบกลบอกไม่ถูก พี่นพพูดพลางยิ้มว่า ‘’ ลองจับดูซิ’’ แล้วเอามือผมทาบลงไปบนอวัยวะส่วนนั้นของพี่นพ มันอยู่ในสภาพเตรียมเผด็จศึกเต็มที่ ผมมองดูอย่างชื่นชมกับอวัยวะส่วนนั้นยิ่งนัก ส่วนปลายสีชมพูอ่อนและที่โคนก็มีไรขนขึ้นดกดำ อวัยวะส่วนนี้พอๆกับข้อมือของผมเลยทีเดียว ผมลูบอวัยวะส่วนนี้อย่างถนอม ก่อนที่จะใช้ลิ้นของผมทำความสะอาดอวัยวะส่วนนั้นทุกซอกทุกมุม พี่นพเลื่อนมือมาลูบศรีษะผมเหมือนจะบอกว่าดีมาก ไม่นานนักอวัยวะส่วนนั้นของพี่นพก็เข้าไปอยู่ในปากของผมทั้งหมดลำ ศรีษะของผมเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างช้าๆแล้วก็เร็วขึ้นเร็วขึ้น พี่นพกดศรีษะของผมไว้กับอวัยวะส่วนนั้นพลางซี๊ดปากเพราะความซาบซ่านแล้วพ่นพิษออกมาจากอวัยวะส่วนนั้นลงคอของผมไปอย่างมีความสุข จากนั้นพี่นพก็ปล่อยศรีษะของผมแล้วจูบผมไปทั่วร่างกายทุกซอกทุกมุม เสื้อผ้าของผมหลุดออกจากร่างกายของผมทีละชิ้น ทีละชิ้น จนร่างกายเปลือยเปล่า โชว์อวัยวะความเป็นชายท้าทายพื้นพออยู่อย่างทรนงพี่นพดูเหมือนจะรับคำท้าทายของอวัยวะส่วนนั้นของผม โดยจูบที่ทั่วอวัยวะส่วนนั้นของผม แล้วดูดอวัยวะส่วนนั้นเหมือนกับเด็กที่กำลังดูดไอศกรีมแท่งโปรดของเขาอย่างเอร็ดอร่อย สะโพกของผมไม่อาจอยู่ติดกับฟูกได้เพราะความซาบซ่าน และต้องต่อสู้กับปากของพี่นพ ไม่นานผมก็ปล่อยกะทิออกมาให้พี่นพชิมรสชาติของผม หลังจากนั้นเราก็นอนกอดกันด้วยความเพลียนานพอสมควร ‘’พี่รักและสนใจตั้มตั้งแต่พี่พบตั้มครั้งแรกแล้วล่ะ’’พี่นพกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าอย่างมีความสุข’’ตั้มเองก็รักพี่นพตั้งแต่แรกเจอแล้วครับ รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อนเลยครับ’’ ผมตอบอย่างดีใจที่พี่นพเองก็รักผม’’ งั้นเราก็ใจตรงกัน’’ พี่นพกล่าวพลางหันมามองหน้าผม ‘’ ครับ’’ ผมตอบพลางยิ้มพลางแล้วเราสองคนก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข เราร่วมกันถนอมรักกันอย่างมีความสุข เรารักกันมาก เราเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่เคยคิดนอกใจกันและไม่เคยคิดที่จะไปมีเซ็กส์กับคนอื่น ถ้าที่ไหนมีพี่นพ ที่นั่นก็ต้องมีผมอยู่ด้วยเราสองคนเหมือนเงาตามตัวกัน แต่แล้ววันที่เราต้องจากกันก็มาถึงเพราะในเมื่อพี่นพจบต้องไปศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยซึ่งพี่นพของผมเป็นคนเก่งสามารถสอบเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รู้สึกว่าพี่นพดีใจมากและผมเองก็ดีใจมากที่พี่นพสอบติดมหาวิทยาลัยนี้เพราะอยู่ใกล้กับจังหวัดที่เราอยู่ วันนั้นผมไปส่งพี่นพโดยที่ไม่ได้ร้องไห้เลย ผมไม่ต้องการให้พี่นพเห็นน้ำตาของผมเพราะมันทำให้พี่นพไม่สบายใจ พี่นพไปเพื่ออนาคตของเขา  ผมจึงยินดีไม่สมควรที่จะร้องไห้ ‘’ตั้มไม่กลัวพี่มีใหม่เหรอ’’ พี่นพถามผมผมมองตาพี่นพมันเป็นดวงตาช่างแสนเศร้า ‘’ ไม่ครับตั้มเชื่อใจพี่นพเพราะช่วงเวลาสามปีที่เรารักกัน ตั้มก็รู้เต็มอกแล้วว่า ตั้มไม่ต้องผิดหวังเพราะรักพี่นพ’’ ผมตอบอย่างมีความเชื่อมั่นมาก เราคุยกันได้ไม่นานรถคันนั้นก็ลับสายตาผมไป จนขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมา 2 ปีแล้วที่พี่นพเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย พี่นพก็ยังเหมือนเดิม ผมก็ยังรักพี่นพเหมือนเดิม เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์มาถึงพี่นพก็จะกลับมาหาผมที่บ้านและบางอาทิตย์ผมก็จะไปหาพี่นพที่เชียงใหม่เช่นกันความรักของเราจะไม่มีวันดับลงตราบชั่วฟ้าดินสลาย ‘’ จริงมั๊ยครับพี่นพ’’ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น