ครั้งใดที่ผมเปิดอัลบั้มที่วางอยู่บนหัวที่เตียงนอนของผม
ภาพแรกที่ต้องพบก็คือภาพแห่งความหลังที่แสนสุข
สดชื่นมีทั้งสุขและทั้งเศร้าคละเคล้ากันไป ในภาพนั้นมีผมและพี่นพเพียงสองคน
ผมจำได้อย่างไม่มีวันลืมว่า ‘’ ถ่ายเมื่อเราทั้งสองเริ่มปลูกรัก’’ ในภาพนั้นเป็นภาพพี่นพกำลังหอมแก้มผมและตัวผมเองยิ้มอย่างมีความสุข
สดชื่นและมั่งคงตลอดไป พี่นพเป็นญาติผู้พี่ของผมซึ่งอายุมากกว่าผม 2 ปี
พ่อรับพี่นพมาอยู่ด้วยเมื่อผมเรียนอยู่ ม.ศ.2
บ้านของผมอยู่ในตัวเมืองแต่บ้านพี่นพอยู่นอกเมือง พ่อจึงรับพี่นพมาอยู่ด้วยแล้วพ่อก็ส่งให้พี่นพเรียนต่อ
ม.4 ที่โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ ครั้งแรกที่ผมได้พบกับพี่นพ
ผมรู้สึกว่าผมรักพี่นพมากอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน
พี่นพจัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง
พ่อเห็นว่าห้องผมใหญ่พอสมควรและเตียงก็ใหญ่พอที่จะนอนได้สองคนอย่างสบายๆ
เลยตกลงให้พี่นพอยู่ห้องเดียวกับผม ผมดีใจมากเลยทีเดียว
เราสองคนไปโรงเรียนด้วยกันเป็นประจำ พี่นพและผมรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีมากเลยครับ
พี่นพทำตัวให้ผมนับถืออยู่เสมอ ผมไม่กล้าทำอะไรกับพี่นพตามที่คิดเอาไว้เลย
กลัวว่าพี่นพจะรังเกียจผมและก็กลัวคุณพ่อคุณแม่รู้ด้วย แต่แล้วคืนหนึ่งพี่นพแกล้งยั่วผมหรือไงก็ไม่ทราบ
เพราะว่าพี่นพเข้านอนโดยที่นุ่งกางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ผมตกใจและตะลึงไปหมด
จนแทบไม่เป็นอันทำการบ้านที่กำลังทำอยู่
แต่ก็กลับมามองดูอวัยวะส่วนหนึ่งของพี่นพที่อยู่ในกางเกงในสีขาวตัวนั้น
ผมกลืนน้ำลายอย่างลำบากมาก ผมคงมองอยู่นานเกินไปทำให้พี่นพรู้ตัวแล้วถามผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า’’ชอบเหรอ’’
ทำให้ผมรู้สึกตัว
แล้วก็ได้แต่ยิ้ม’’ ‘’ทำไมต้องอายด้วยอยากดูมั๊ยพี่จะให้ดู’’
พี่นพพูดพลางเลื่อนมือไปดึงกางเกงในออกจากร่างกาย
มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นมากขึ้นหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เนื้อตัวสั่นไปหมดเหงื่อออกท่วมตัว
ร้อนๆ หนาวๆ ยังไงชอบกลบอกไม่ถูก พี่นพพูดพลางยิ้มว่า ‘’ ลองจับดูซิ’’
แล้วเอามือผมทาบลงไปบนอวัยวะส่วนนั้นของพี่นพ
มันอยู่ในสภาพเตรียมเผด็จศึกเต็มที่ ผมมองดูอย่างชื่นชมกับอวัยวะส่วนนั้นยิ่งนัก
ส่วนปลายสีชมพูอ่อนและที่โคนก็มีไรขนขึ้นดกดำ อวัยวะส่วนนี้พอๆกับข้อมือของผมเลยทีเดียว
ผมลูบอวัยวะส่วนนี้อย่างถนอม
ก่อนที่จะใช้ลิ้นของผมทำความสะอาดอวัยวะส่วนนั้นทุกซอกทุกมุม
พี่นพเลื่อนมือมาลูบศรีษะผมเหมือนจะบอกว่าดีมาก
ไม่นานนักอวัยวะส่วนนั้นของพี่นพก็เข้าไปอยู่ในปากของผมทั้งหมดลำ
ศรีษะของผมเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างช้าๆแล้วก็เร็วขึ้นเร็วขึ้น
พี่นพกดศรีษะของผมไว้กับอวัยวะส่วนนั้นพลางซี๊ดปากเพราะความซาบซ่านแล้วพ่นพิษออกมาจากอวัยวะส่วนนั้นลงคอของผมไปอย่างมีความสุข
จากนั้นพี่นพก็ปล่อยศรีษะของผมแล้วจูบผมไปทั่วร่างกายทุกซอกทุกมุม
เสื้อผ้าของผมหลุดออกจากร่างกายของผมทีละชิ้น ทีละชิ้น จนร่างกายเปลือยเปล่า
โชว์อวัยวะความเป็นชายท้าทายพื้นพออยู่อย่างทรนงพี่นพดูเหมือนจะรับคำท้าทายของอวัยวะส่วนนั้นของผม
โดยจูบที่ทั่วอวัยวะส่วนนั้นของผม
แล้วดูดอวัยวะส่วนนั้นเหมือนกับเด็กที่กำลังดูดไอศกรีมแท่งโปรดของเขาอย่างเอร็ดอร่อย
สะโพกของผมไม่อาจอยู่ติดกับฟูกได้เพราะความซาบซ่าน และต้องต่อสู้กับปากของพี่นพ
ไม่นานผมก็ปล่อยกะทิออกมาให้พี่นพชิมรสชาติของผม
หลังจากนั้นเราก็นอนกอดกันด้วยความเพลียนานพอสมควร ‘’พี่รักและสนใจตั้มตั้งแต่พี่พบตั้มครั้งแรกแล้วล่ะ’’พี่นพกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าอย่างมีความสุข’’ตั้มเองก็รักพี่นพตั้งแต่แรกเจอแล้วครับ
รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อนเลยครับ’’ ผมตอบอย่างดีใจที่พี่นพเองก็รักผม’’ งั้นเราก็ใจตรงกัน’’
พี่นพกล่าวพลางหันมามองหน้าผม
‘’ ครับ’’ ผมตอบพลางยิ้มพลางแล้วเราสองคนก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข
เราร่วมกันถนอมรักกันอย่างมีความสุข เรารักกันมาก เราเข้าใจซึ่งกันและกัน
ไม่เคยคิดนอกใจกันและไม่เคยคิดที่จะไปมีเซ็กส์กับคนอื่น ถ้าที่ไหนมีพี่นพ
ที่นั่นก็ต้องมีผมอยู่ด้วยเราสองคนเหมือนเงาตามตัวกัน
แต่แล้ววันที่เราต้องจากกันก็มาถึงเพราะในเมื่อพี่นพจบต้องไปศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยซึ่งพี่นพของผมเป็นคนเก่งสามารถสอบเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รู้สึกว่าพี่นพดีใจมากและผมเองก็ดีใจมากที่พี่นพสอบติดมหาวิทยาลัยนี้เพราะอยู่ใกล้กับจังหวัดที่เราอยู่
วันนั้นผมไปส่งพี่นพโดยที่ไม่ได้ร้องไห้เลย
ผมไม่ต้องการให้พี่นพเห็นน้ำตาของผมเพราะมันทำให้พี่นพไม่สบายใจ
พี่นพไปเพื่ออนาคตของเขา
ผมจึงยินดีไม่สมควรที่จะร้องไห้ ‘’ตั้มไม่กลัวพี่มีใหม่เหรอ’’ พี่นพถามผมผมมองตาพี่นพมันเป็นดวงตาช่างแสนเศร้า
‘’ ไม่ครับตั้มเชื่อใจพี่นพเพราะช่วงเวลาสามปีที่เรารักกัน
ตั้มก็รู้เต็มอกแล้วว่า ตั้มไม่ต้องผิดหวังเพราะรักพี่นพ’’ ผมตอบอย่างมีความเชื่อมั่นมาก
เราคุยกันได้ไม่นานรถคันนั้นก็ลับสายตาผมไป จนขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมา 2 ปีแล้วที่พี่นพเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย
พี่นพก็ยังเหมือนเดิม ผมก็ยังรักพี่นพเหมือนเดิม เมื่อวันเสาร์
อาทิตย์มาถึงพี่นพก็จะกลับมาหาผมที่บ้านและบางอาทิตย์ผมก็จะไปหาพี่นพที่เชียงใหม่เช่นกันความรักของเราจะไม่มีวันดับลงตราบชั่วฟ้าดินสลาย
‘’ จริงมั๊ยครับพี่นพ’’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น