วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โรงหนังชั้นสองกับเทพบุตรของผม

ประสบการณ์ของผม เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง ตอนนั้นประมาณห้าโมงได้ หลังจากผมเลิกงานแล้ว ผมไปดูหนังที่โรงหนังชั้นสองแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ฉายหนังปลุกใจหนุ่ม ๆ แต่อย่างใด เป็นหนังสองเรื่องควบเพิ่งออกจากโรงหนังชั้นหนึ่งไม่เท่าไร อารมณ์ตอนนั้นอยากเข้าไปดูหนังจริง ๆ พอเข้าไปในโรง หนังกำลังฉายประมาณปลายเรื่องแล้ว ผมก็เลือกนั่งเก้าอี้แถวท้ายสุด ผมเข้าไปนั่งได้สักครู่ สายตาเริ่มชินกับความมืด มองถัดไปสักสามเก้าอี้ ก็เห็นวัยรุ่นคนหนึ่ง นั่งดูหนังอยู่เช่นกัน ผมก็ดูหนังไปสายตาก็เหลือบมองไปที่น้องคนนั้นอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้หันหน้าไปมอง แต่น้องกลับหันหน้ามามองที่ผมบ่อย ๆ จนผมเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ อยู่ตามประสาคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาพอสมควร ผมก็เลยหันหน้าไปมองน้องเขาบ้าง แต่เขาก็หันหน้ากลับไปทันที เป้นอย่างนี้อยู่หลายหน จนหนังจบเรื่อง ผมก็เดินออกมายืนสูบบุหรี่ด้านนอกโรงหนัง น้องเขาก้ออกมานั่งสูบบุหรี่เหมือนกัน พอเห็นหน้าเขาชัด ๆ ผมก็เกิดความรุ้สึกอย่างว่าขึ้นมาทันที เพราะน้องเขาหน้าตาดีมาก ผิวขาว เหมือนดาราเกาหลีที่แสดงเป็นพระเอกเรื่องจูมง รูปร่างสูงประมาณเกือบร้อยแปดสิบ ผิวขาวใส่เสื้อยือคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขาดมากหลายแห่ง ที่สำคัญบริเวณขาพับด้านในขาดมากถึงขนาดที่ว่าเห็นกางเกงในสีแดงแลบออกมานิด หน่อย พอน้องเขาเห็นผมจ้องอยู่ เขาก็จัดระเบียบกางเกงใหม่ แล้วยิ้มน้อย ๆ โอว ผมเห้นแคนั้นก็สติขาดผึง เดินเข้ามาพูดกับเขาอย่างไม่ลังเล
"
น้องมาดูหนังคนเดียวหรือครับ"
แต่ น้องเขาไม่ตอบได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้ม ในตอนนั้นน้องเขาสูบบุหรี่หมดพอดี เขาก็เดินกลับเข้าไปในโรงหนัง ผมก็ยืนรีรออยู่สักพักเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเล่นกับเราหรือเปล่า แต่ความอยากมีมากกว่าความกลัว ผมเลยเดินกลับเข้าไปในโรงหนัง แล้วตรงไปที่ห้องน้ำทันที แต่แล้วสายตาผมก็เห็นวัยรุ่นคนนั้นกำลังยืนฉี่อยู่ ทันทีที่เขาหันมาเห็นผมเข้า เขาก็รีบเก็บของเข้ากางเกง แล้วเดินออกจากห้องน้ำทันที อารมณ์ตอนนั้นของผมรู้สึกฉุนนิด ๆ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำเหมือนกลัวผมจะไปควักอะไรเขาอย่างนั้นหละ (เขาเข้าใจไม่ผิดเลย อิอิ) ทั้งที่ผมก็ไม่ได้แสดงท่าทางออกสาวสักนิด การแต่งเนื้อแต่งตัวก็ไม่ได้ไปในแนวทางนั้น เพียงแต่มีกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ เท่านั้นเอง วิญญาณแวมไพร์ของผมก็เริ่มเปิดเผยออกมาทันที ผมจึงเดินออกมาแหวกผ้าม่านกั้นห้องน้ำแล้วมองตามหลังน้องเขา ว่าเขานั่งตรงแถวไหน เดี๋ยวเถอะให้ตูฉี่เสร็จก่อนจะตามไปดูดเลือด(ขาว) ของเอ็งให้ได้ แฮ่
หลังจากทำธุระเสร็จผมก็เดินไปบริเวณแถวที่น้องเขา นั่ง ซึ่งอยู่ประมาณแถวที่ห้าได้ แล้วก็ไปนั่งห่างจากน้องเขาสองเก้าอี้ น้องเขาก็หันหน้ามามองหน่อยหนึ่งแล้วก็นั่งหลับตาฟังเพลงที่ทางโรงเขาเปิด ให้ฟัง (เพลงรอหนังฉายเรื่องต่อไปอ้ะนะ) พอเห็นดังนั้นผมก็เริ่มส่งเสียงทักทายน้องเขาอีกครั้ง
"
น้องครับโรงหนัง ที่นี่เขาปิดกี่โมงอ้ะ เรื่องที่แล้วพี่ดูไปได้นิดเดียวเอง" ฟอร์มถามไปงั้น ก็หน้าโรงเขาก็ติดกำหนดการฉายหนังไว้ ยังแรดถามผู้ชายอีก อิอิ
"
พมกอไม่รู่เมือนกัน" ผมประหลาดใจนิดหน่อย สำเนียงเขาชาวต่างชาติชัด ๆ เลย
"
น้องมาดูหนังที่นี่บ่อยมั้ย?" ยังไม่ท้อใจอย่างน้อยเขาก็ตอบคำถามเราแล้ว
"
มายเคยเคามาดูเลย เพิงมาดูฮนแรก" สำเนียงกัมพูชาชัดเจน เริ่มแสดงท่าว่ารำคาญ
"
ไม่ทำงานเหรอ มาดูหนังอย่างนี้น่ะ" ถามไปงั้นชักท้อใจนิด ๆ ละ ว่าต้องกินแห้วแน่เลย
"
เลิกงานแลว" พูดห้วน ๆ
"
ทำงานอะไรหรอครับ" พูดเพราะสุดขีดแล้วนะเนี่ย กลัวโดนอวัยวะเบื้องล่างก่อนได้ชิมอวัยวะเบื้องกลาง
"
ซงนำแคง" ทำท่าหันรีหันขวางเหมือนจะหาที่นั่งใหม่
"
อ๋อ ส่งน้ำแข็ง แล้วน้องพักที่ไหนหรือครับ" ถามไปงั้น ในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เค้าลุกหนีไปเลย
"
พีเปนตำรวจรือ พมมีใบทำงานนา" สงสัยเขาจะกลัวผม เพราะว่าผมใส่กางเกงสีกากี และใส่เสื้อคลุมสีดำ คล้ายพวกสืบสวนสอบสวน
"
ไม่ ใช่ ไม่ใช่ พี่เห็นน้องมาคนเดียว พี่ก็มาคนเดียว แล้วโรงหนังนี้ก็ไม่ค่อยมีคนดู น่ากลัวออก" เสียงอ่อนเสียงหวานสุด ๆ แล้วนะเนี่ย อย่าลุกหนีไปเลยนะที่รัก อิอิ ว่าไปนั่น
"
พี่ขอไปนั่ง เก้าอี้ตัวนี้นะ" โดยไม่ต้องรอการอนุญาต รีบไปนั่งเก้าอี้ข้างตัวเขาทันที ขึ้นชื่อว่าปีศาจ ก็ย่อมปรากฏกายออกมาจนได้ อิอิ แฮ่รรรรรร
เขาก็ไม่ม่ทีท่าว่าจะลุกไปไหน แค่ขยับตัวไปนั่งชิดเก้าอี้อีกด้าน แหมกลัวไปได้ ไม่ทำอะไรหรอกกกกก แฮ่รรรร
"
ว่าแต่ยังไม่ตอบพี่เลย ว่าพักแถวไหน?" แน้ ยังจะถามอีก ก็หนังมันยังไม่ฉายนี่นาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะเนี่ย
"
แทวถนน.....กลางซอย.......พักทีโรงนำแค็ง" ควบกล้ำชัดเปรี๊ยะเลยอ้ะ น่าจะไปเป็นครูสอนภาษาไทย
แล้ว ก็เหมือนโกหกว่าโลกกลมเพราะว่าเขาพักซอยเดียวกับผมเลย สงสัยจะทำงานกับโรงน้ำแข็งที่อยู่ในซอยย่อยตรงกันข้ามกับซอยย่อยของผมแน่เลย ผมก็เก็บความคิดนี้ไว้ในใจ พรางคิดว่าเป็นบุพเพฯ แน่เลย อิอิอิอิอิ แฮ่รรรรรร
"
ทำไมไม่ไปดูโรงหนังตรงข้ามโรงหนังนี้ล่ะเขาฉายหนังโป๊นะ" ฮั่นแน่เริ่มหยอดแล้ว แต่ดูเหมือนเขาไม่รู้ตัวเพราะเขาตอบแบบซื่อ ๆ ว่า
"
พมไม่รู ถ้ารูก็ไปดูแลว" ฮึไม่น่าชี้โพรงให้กระรอกเลยตู
"
น้องจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะชวนไปดูหนังเอ๊กซ์ที่ห้องพี่ที่ซอย......"
"
จริงรือ" ไม่รู้ว่าน้องเขาประหลาดใจที่ผมพักอยู่แยกตรงข้ามกับแยกที่โรงน้ำแข็งของน้องเขาตั้งอยู่ หรือว่าประหลาดใจที่ผมชวนไปดูหนัง
"
อือ นะไปดูหนังอย่างว่าที่ห้องพี่เหอะนะ หนุกกว่านี้เยอะ" แฮ่รรรรรร
ทำท่าคิดนิดนึง
"
กอได แตดูนังอีกเรืองให้จบกอนนะ"
"
ได้ พี่ก็ว่าจะดูหนังก่อนเหมือนกัน" แต่ใจผมเตลิดไปไกลแล้ว แฮ่รรรรรรร
ระหว่าง นั่งดูหนังใจผมก็เต้นไม่เป็นส่ำ ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย กลัวน้องเขาจะเปลี่ยนใจ ระหว่างหนังฉายเขาลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ต้องชะเง้อดูกลัวว่าเขาจะออกไปเลย พอเขาออกจากห้องน้ำมาผมก็ทำท่าดูหนังอย่างตั้งใจ พอเขากลับมานั่งผมก็พยายามจะให้แขนชนกัน เขาก็ขยับหนี อยู่เรื่อย เฮ้อ เหนื่อยใจจริง ๆ
พอดูหนังจบเราก็นั่งรถเมล์กลับมาที่ห้องผม เขาบอกว่าเขาชื่อวิน (นามสมมุติ) อายุสิบแปดปี มาทำงานตั้งแต่อายุสิบเจ็ด เพิ่งได้ใบต่างด้าวอนุญาติให้ทำงานมาได้เพียงหกเดือน พอถึงเซเว่นแถวบ้านผมก็ซื้อเบียร์มาสามขวดกะจะมอมเขาให้ได้ เขาบอกว่าไม่เคยกิน ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กินเป็นเพื่อนพี่ก็แล้วกัน
ทุกท่าทางของเขาไม่รอดพ้นสายตาผมไปได้
พอมาถึงที่ห้องผมก็ไล่เขาให้ไปอาบน้ำ แล้วหากางเกงบ๊อกเซอร์ให้เขาใส่ ในระหว่างที่เรานั่งกินเบียร์ แกล้มหนังเอ็กซ์ กางเกงที่เขาใส่อยู่ก็โป่งขึ้นมาอย่างชัดเจน ผมชำเลืองตามองจนเขาสังเกตเห็น แล้วก็เอาหมอนอิงมาปิดเป้าเขาไว้ อดทนไว้เดี๋ยวไก่ตื่น ผมได้แต่ปลอบใจตัวเอง
สักพักเขาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่าง นั้นผมก็ลุกขึ้นเดินไปสำรวจเสื้อผ้าเขา หยิบกางเกงในสีแดงของเขาขึ้นมาดม อารมณ์ผมก็คุกรุ่นเกินห้ามใจ ประกอบกับเริ่มมึนเบียร์นิด ๆ ความยับยั้งชั่งของผมก็ขาดผึงลงไปทันที ผมเดินไปที่ห้องน้ำ หาเหรียญห้าบาทในกระเป๋าแล้วไขลูกบิดประตูห้องน้ำเข้าไปทันที
ภาพที่ผม เห็นท่อนล่างเขาเปลือยเปล่า มือกำท่อนลำของเขาอยู่ เขาผงะ แล้วรีบเอามือบังแท่งทวนยักษ์ของเขาทันที ซึ่งอย่างไรเสียมันก็ปิดไม่มิด เพราะมันกำลังแข็งปั๋ง ผงาดง้ำเสียขนาดนั้น
เท่านั้นเองผมก็วีนแตกทันที
"
ทำไมวินทำอย่างนี้ ไม่ไว้หน้าพี่เลย เห็นพี่เป็นอะไร" อารมณ์ของผมตอนนั้นมันน้อยใจสุดๆ
"
กอพีเปนพูชายเมือนพม" ดู ๆ มันตอบแบบซื่อๆ เลยโกรธไม่ลงจริง ๆ
"
ออกมาเลย" ผมพูดพร้อมกับดึงแขนวินออกมา เขาก็เดินตามมาโทง ๆ ครึ่งตัวแบบนั้น แท่งทวนกลายเป็นหนอนน้อยไปเสียแล้ว
เมื่อ กลับมานั่งหน้าโทรทัศน์ ซึ่งมิยาเบะกำลังส่งเสียงอ๊า ๆ ๆ อยู่ ผมก็อธิบายให้วินฟังว่าที่ผมชวนเขามาเพราะอะไร สอนเขาเรื่องเกย์ ซึ่งเขาบอกว่ารู้จัก แต่ไม่เขาไม่เคยมีประสบการณ์อย่างว่ากับใครเลยไม่ว่ากับเกย์ หรือผู้หญิง ท่าทางเขาตอบแบบซื่อ ๆ แต่ผมก็ยังแย็บกับไป
"
ไม่เชื่อหรอก แล้วเวลาที่วินอยาก วินทำไงล่ะ" มันก็ทำแบบที่ทำในห้องน้ำเมื่อสักครู่นั่นไง ถามแบบโง่ ๆ ไปได้ ตุ
"
พมกอชวยตัวเอง"
"
ช่วยยังไง" แน้ ตูนี่โง่จริงวุ้ย ตอนนั้นเริ่มเมาเบียร์แล้ว เลยถามแบบไม่คิด
"
ฉักวาว" วินตอบหน้าตาเฉย เขาเป็นผู้ชายก็เลยตอบสวนมาแบบนั้น
ผมนิ่งไปสักครู่ แล้วก็รินเบียร์ใส่แก้วทั้งสองใบ
"
อย่า โกรธพี่เลยนะ พี่น้อยใจนิดหน่อยที่วินไม่ให้ความสำคัญกับพี่ แล้วไป "ฉักวาว" ในห้องน้ำน่ะ อ้ะ กินเบียร์ซะ แล้วคืนนี้นอนกับพี่ที่นี่แหละนะ"
"
แตพม ตองไปซงนำแค็ง ตังแต่ตีซาม" เขาตอบแบบเกรงใจผม แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ เลย ผมอาจเห็นแก่ตัวไปสักนิด เพราะตอนนั้นคิดว่าเขาจะหลุดมือผมไป แหมก็หล่อเสียขนาดนั้น จะยอมให้เขาไปจากชีวิตผมได้ยังไงล่ะ ผมพูดแบบออกคำสั่งทันที
"
พรุ่งนี้ไปลาออก พี่จะพาไป"
วินทำหน้าเหวอ แล้วตอบกลับมาแบบคนเริ่มมึนเบียร์
"
อ๊า ๆ ๆ ๆ ๆ อิกกือ ๆๆๆๆ" แหมตูรำคาญเสียงอีมิยาเบะจริงๆ เลย
"
ไมได ไมได พมจะเอาอะไรกิน แลวพมจะยูทีไหน" ก็จริงของมันเนาะ
"
พี่ จะพาไปสมัครงานใหม่ เพื่อนพี่มันทำร้านขายเหล็ก แถวนนทบุรี พี่จะฝากงานให้ แล้ววินก็มาอยู่กับพี่นี่หละ ถึงแม้ว่าที่ทำงานมันจะไกลไปสักหน่อย แต่วินก็ตื่นแต่เช้า แล้วก็นั่งรถเมล์ไป จากบ้านพี่ก็นั่งรถเมล์สายเดียวก็ถึง นะนะนะ" มันเป็นการพนันที่ผมทุ่มสุดตัว เพราะว่าผมพนันมันด้วยชีวิตของผมทีเดียว ผมเพิ่งรู้จักกับวินได้ไม่ถึงวัน ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า แล้วเขาก็เป็นคนต่างชาติเสียด้วย ถ้าเขาไม่ซื่อกับผม แทนที่คุณจะได้อ่านประสบการณ์ของผมกับครั้งแรกของวิน คุณก็คงจะหาอ่านได้จากข่าวหน้าหนึ่งนั่นแหละ
วินทำท่าคิดอยู่สักพัก ผมรีบรินเบียร์ใส่แก้วให้ เขายกขึ้นดื่มที่เดียวหมดแก้ว แล้วหันมาจ้องหน้าผม
"
พีรักพมรือ" เขาถามเสียงเบา ๆ
"
อย่า เพิ่งพูดว่ารักเลย เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ชอบวินนะ เราเพิ่งจะรู้จักกัน ไม่รู้ว่าวันหน้าจะเป็นอย่างไร แต่พี่ขอรับรองได้ในตอนนี้ว่า ถ้าวินดีกับพี่ พี่ก็จะดีกับวินก็แล้วกัน" ผมพูดออกมาจากใจจริง
"
แลวทาพีไมรักพม พมจะทำยังไง" ผมเดาเอาว่าเขาก็พูดจากใจจริง
"
เอา เป็นว่าเรื่องนี้เราต้องเสี่ยงกันล่ะ มันเหมือนกับซื้อล็อดเตอรี่นะ รู้จักมั้ยหวยน่ะ ขณะที่เราซื้อล็อตเตอร์รี่มา เราไม่รู้หรอกเราจะถูกรางวัลหรือไม่ แต่พี่ขอให้วินเชื่อพี่เถอะว่า ถ้าวินดีกับพี่ พี่ก็จะดีกับวิน" อนาคตเราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับว่ามะ ตอนนั้นผมอยากให้เขาเป็นของผม ผมจะพูดอย่างไรก็ได้ คุณ ๆ คงไม่ว่าผมนะ ในสถานการณ์แบบนี้ ผมคงพูดได้หมดนั่นหละ จะยกสวรรค์มาให้ยังได้เลย เราทุกคนก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? แต่ผมคิดว่าผมพูดได้ดีที่สุด และเป็นกลางที่สุดแล้วนะ ทั้งวินและผมอายุยังไม่มากเท่าไร ผมเรียนจบปริญญาตรี และทำงานได้เพียงสองปีเอง แต่ผมก็เช่าซื้อคอนโดแห่งนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผมเอง ซึ่งผมก็สามารถผ่อนได้อย่างสบาย ๆ ยังมีเงินเอาไว้เลี่ยงผู้ชายได้อีกเยอะ อิอิอิอิอิ แฮ่รรรร
วินหน้าแดงมาก ๆ คงใช้ความคิดอย่างหนัก เอหรือว่ามันเมาเบียร์กันแน่หว่า อิอิ
"
พมตกลง ก็แลวกัน พมอยู่ทีนีคนเดียว เพือนทีมาดวยกัน กอโดนจับซงกลับไปหมดแล้ว พมไมมีใครแลว พีอย่าทิงพมนา" เขาพูดแบบเริ่มลิ้นพันกันแล้ว แต่ก็เป็นการพูดที่ยาวที่สุดตั้งแต่ผมรู้จักกับเขา
"
อ้าว ทำไมล่ะ เขาไม่ได้ใบอนุญาติเหรอ" ตอนนี้นังมิยาเบะ เสร็จกับผู้ชายคนที่สามแล้ว
"
มัน ไมไดทำโรงนำแค็งเมือนพม มันบอกว่างานหนัก เจ้านายมันไมพาไปทำ แตเจ้าคองโรงนำแค็งเคาดีกับพม เคาพาพมไปทำ นี่พมยังไมรูว่าจะบอกเคายังไงดี ว่าจะออก" พูดแบบตาแดง ๆ
"
ไม่เป็นไรหรอกนะ พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะไปพูดให้ ถ้าเขาจะเรียกเงินอะไรพี่จะออกให้ก่อน นะทำใจให้สบายดูหนัง กินเบียร์กันดีกว่านะ" คุณว่าผมเห็นแก่ตัวไหมเนี่ย จะ(ให้เขา)เอาถ้าเดียว
ตอนนี้มิยาเบะกำลังบัวให้กับชายหนุ่มสุดหล่อคนที่สี่อยู่พอดี ผมเริ่มหื่นขึ้นมาอีกครั้ง ขยับตัวเข้าไปนั่งติดกับวินทันที
วินซึ่งใส่แต่เสื้ออยู่ เอาหมอนมาปิดหนอนน้อยซึ่งกำลังเป็นมังกรยักษ์อีกแล้ว อิอิ
"
วิน พี่ถามจริง ๆ วินไม่เคยนอนกับใครจริง ๆ เหรอ" เริ่มส่งเสียงแบบออดอ้อนอีกแล้วตู แฮ่รรรร
"
พมนอนรวมกับเพือนทีซงนำแค็ง" มันตอบตรงคำถามไหมเนี่ย
"
พี่หมายถึงว่าไม่เคยนอนกับผู้หญิง หรือกับเกย์เลยหรือ แบบว่าเอากันอ้ะ" มือเริ่มเลื้อยแล้วตู
"
ยังไมเคยเลย" วินตอบมา ผมสังเกตุเห็นขนแขนวินลุกซู่เลยอ้ะ (อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงมันลุกสู้อยู่แล้น อิอิ)
"
พี่ จะสอนให้นะ" ว่าแล้วมือก็เริ่มแตะที่ขาอ่อนของวิน ลูบไล้ไปมาช้า ๆ วินยิ้มหน้าแดง (มันแดงอยู่แล้ว เพราะเบียร์น่ะ) จับมือผมออก ฮึ! อารมณ์เสีย แต่เค้าคงอายเราน่ะ คิดเข้าข้างตัวเอง
"
วินบอกพี่ว่านอนรวมกับเพื่อน แล้วเวลามีอารมณ์อย่างว่าขึ้นมา แบบว่าเสี้ยนน่ะ ทำไงอ้ะ"
"
พมก็ ฉักวาวเวลาอาบนำในฮองนำ" (ขี้เกียจพิมพ์แบบพูดไม่ชัดแล้วเอาเป็นว่าจะพิมพ์ตามปกติก็แล้วกัน คุณอ่านเป็นเสียงแบบพูดไม่ชัดกันเองนะ อิอิ555)
"
แล้วคนอื่นเขาไม่สงสัย เหรอว่าทำไมเราอาบน้ำนานน่ะ" มือเริ่มลูบไล้หน้าอกของวินแล้ว เรื่อยไปจนถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่น เป็นแพ็คทีเดียว
"
คงไม่มั้ง มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย คนอื่นเขาก็อาบน้ำนานเหมือนกัน ผมยังไม่สนใจเลย" วินพูดเสียงสั่น
ตอนนี้มือผมเริ่มเกาะแกะบริเวณหมอนอิงแล้ว
"
พี่ทำแบบในหนังให้นะ" ตอนนี้มิยาเบะกำลังโดนเอาอยู่
"
ผมกลัวเจ็บ" โถ ๆๆๆๆ เด็กน้อยเอ๊ย พี่ให้เธอมาเป็นสามีพี่ ไม่ได้ให้เป็นภรรยาสักหน่อย
"
ไม่ใช่ แบบว่าพี่จะทำแบบว่าพี่เป็นนางเอกน่ะ" ฮู้ย อายว่ะ แฮ่รรรรรร
วิ นหัวเราะเสียงดัง แล้วเขาก็ดึงหน้าผมไปหอมที่แก้ม ผมเริ่มเลื่อนปากมาประกบปากของวิน เขาอ้าปากรับลิ้นของผมอย่างเก้ๆ กังๆ แต่สักครู่เดียวลีลาจูบของเขาก็เล่นเอาผมเคลิ้มลืมตัวไปเลย
ผมค่อย ๆถอดเสื้อของเราทั้งคู่ แล้วก็ไล้ลิ้นเรื่อยลงไปบริเวณคอ หน้าอก แล้วดูดดุนนมของวินอย่างช้า ๆ วินส่งเสียงครางออกมา
"
เสียว"
"
เดี๋ยว จะเสียวกว่านี้อีก" แล้วหมอนอิงก็ถูกโยนไปไกล ผมเลื่อนหน้าและไล้ลิ้นลงมาบริเวณหน้าท้อง จนไปถึงแท่งทวนซึ่งกำลังผงาดหงึก ๆ อย่างเชื้อเชิญ
"
ซี้ด อาห์ เสียวจริง ๆ ซี้ด อย่าหยุด ๆ เสียวจริง ๆ" วินพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างกระสันสุด ๆ เมื่อผมครอบปากลงไปที่แก่นกลางกายของเขา พร้อมกับผงกหัวขึ้นลง
"
เมียจ๋า อย่างนั้นล่ะ ดีๆๆ ซี้ด อาห์" แน้! ไม่ทันไรมันเรียกตูว่าเมียซะแล้น อิอิ แฮ่รรรรรรร
"
โอ๊ว ซี้ดจะออกแล้ว ซี้ด ออกแล้ว ๆ ๆ" วินพูดไม่ขาดปาก พร้อมกับยกสะโพกขึ้นลงอย่างเร็วกระแทกปากผม ซึ่งเกือบหายใจไม่ออก แล้วน้ำขาวขุ่น ก็กระจายเข้าไปอยู่ในปากผม ผมรู้สึกอุ่นในปาก แล้วก็แสดงความจริงใจอย่างแรกด้วยการกลืนน้ำของเขาไปจนหมด โดยไม่มีท่าทีรังเกียจ เขาเป็นคนแรกที่ผมกลืนน้ำให้ เหมือนกันกับที่ผมเป็นคนแรกที่ช่วยทำให้เขาน้ำแตกเช่นกัน
"
แหม ไวจัง ตื่นเต้นเหรอเรา" ผมถามเขา วินยิ้มอย่างอาย ๆ แล้วก็จับหน้าผมขึ้นไปจูบปาก จากกริยาที่เขาทำผมว่าเราต่างประทับใจซึ่งกันและกันนะ
หลังจากเสร็จกิจผมกับวินก็เข้าไปอาบน้ำกัน ในระหว่างที่ผมถูสบู่ให้กับหนอนน้อยของเขาอยู่นั้นมันก็กลายร่างเป้นงูยักษ์เผือกอีกครั้ง
ผม รีบอาบน้ำล้างตัวให้เขาอย่างรีบเร่ง แล้วก็ดึงตัวเขามาเช็ดตัวให้ แก่นกลางกายของเขาผงกหัวหงึก ๆ ราวกับต้องการหาที่หลบภัยอย่างนั้นล่ะ รอสักครู่นะวินน้อย (แต่ไม่เล็ก) เดี๋ยวจะให้เข้าไปสำรวจถ้ำนะจ๊ะ
หลังจากที่เราเช๊ดตัวเสร็จ ผมรีบดึงวินมาที่เตียงนอน หยิบอุปกรณ์ตำน้ำพริกมาพร้อมสรรพ
"
พี่ อยู่บนแล้วกันนะ วินนอนเฉย ๆ นะ น้องไม่ต้องพี่ทำเอง" ว่าแล้วก็สวมเครื่องป้องกัน และละเลงครืมหล่อลื่นจนเยิ้ม แหมเล็กอยู่ซะเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าไม่ลื่นมีหวังทั้งฉีก ทั้งแสบแน่ ๆ วินสูดปากอย่างเสียวซ่าน แล้วผมก็เริ่มจับแก่นกลางกายอันแข็งแกร่งของวินสอดใส่เข้าไปในตัวผมอย่างช้า ๆ รู้สึกเจ็บวาบ ๆ สงสัยจะฉีกแน่เลยเรา
"
ซี้ด ๆๆๆ อ้าห์ เสียว แน่นไปหมดเลยพี่"
"
อูย พี่ก็เจ็บเหมือนกัน อย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวดีเองหละ" ว่าแล้วผมก็เริ่มขยับช้า ๆ
"
โอ๊ว เสียวดีจริง ๆ เลย อาห์" วินครางเสียงกระเส่าอย่างลืมตัว
"
วิน ช่วยฉักวาวให้พี่ทีสิ" ผมพูดล้อเขา เวลาอย่างนี้ยังตลกอีกนะตู
วินเอามือมาจับอาวุธผมชักเข้าออก ช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะที่ผมขึ้นลงเข้าใส่แท่งทวนของเขา
"
โอ๊วดีจริง ๆ อย่างนั้นหละ เมียจ๋า โอ้ว เร็วขึ้นอีกนะ เร็วขึ้น อย่าช้า เร็วขึ้น นั่นหละ ดีมาก"
วิ นส่งเสียงออกมาอย่างคนที่มีกำหนัดกระสันสุดๆ ผมก็กระหน่ำขึ้นลงตามคำสั่งเขาอย่างว่าง่าย ทั้งที่เปิดแอร์ไว้ แต่จังหวะรักอันเร่าร้อนของเราเล่นเอาเหงื่อโทรมกายเราทั้งคู่ แล้วในที่สุด
"
โอย ทนไม่ไหวแล้ว เร็ว ๆ เลยที่รัก" พูดไม่พูดเปล่าวินลุกขึ้นนั่ง แล้วกระแทกแท่งทวนของเขาเข้าใส่ตัวผมอย่างลืมตาย
"
โอ๊ว ซี้ดสสสสสส์ ออกแล้วๆๆ" ส่วนผมไม่ต้องพูดถึงเสร็จตามเขาไปติด ๆ พุ่งกระฉูดถึงใบหน้าของวิน ติดเลอะผมของวินไปทั่ว
"
พี่รักวินนะ"
"
ผมก็เหมือนกัน" จากนั้นเราก็นอนกอดก่ายกันไปมา มีแต่คำพูดหวาน ๆ พูดใส่กัน สักครู่ใหญ่เราก็ไปล้างตัวกันอีก
"
ผมอยากอีกแล้ว" ถึงวินไม่พูดผมก็รู้ ก็วินน้อยมันบอกผมนี่นา อิอิ
กว่าจะได้นอนเล่นเอาฟ้าเหลืองไปเลยครับ ผมเจ็บแทบแย่ เอาเป็นว่าชาไปทั้งแถบอิอิอิ แฮ่รรรร มีความสุขจัง
บ่าย วันรุ่งขึ้นผมพาวินไปลาออกกับเจ้าของโรงน้ำแข็ง เขาต่อว่าวินเล็กน้อยที่ไม่ยอมมาบอกเขาว่าไม่มาทำงาน พร้อมกับหักเงินงวดสุดท้ายที่จะจ่ายให้วินไปห้าร้อยบาท แต่น้ำเสียงที่ต่อว่า และกริยาท่าทางของเขาก็เจือความเมตตาไว้จนผมรู้สึกได้
"
เดี๋ยวเอ็งไปรอพี่เขาข้างนอก ตูจะพูดกับน้องเขาสักหน่อย" วินเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย
เจ้า ของโรงน้ำแข็ง แต่จิตใจของเขาไม่เย็นชาเลยถามคำถามผมนิดหน่อย ผมเล่าให้เขาฟังอย่างไม่ปิดบัง ว่าผมจะอยู่กับวินฉันท์สามีภรรยา ไม่มีท่าทีแปลกใจแต่อย่างใด
"
ฝากวินมันด้วยนะน้อง มันอยู่กับพี่มาปีกว่าพี่ก็พอดูออกแล้วว่ามันเป็นคนดี เป็นคนว่าง่าย ไม่รู้มาก ไม่เคยอู้งาน" แหมรับรองให้เสร็จ
หลังจากออกจากโรงน้ำแข็งผม ก็พาเขาไปสมัครงานที่ร้านเพื่อนผม ซึ่งเรียนมัธยมมาด้วยกันและไอ้เพื่อนคนนี้ก็รู้ว่าผมเป็นอย่างไร แต่มันไม่ได้เป็นแบบผมนะครับ จะแต่งงานปลายปีนี้แล้ว
มันก็ให้ข้อคิด และตักเตือนผมพอสมควรด้วยความที่มันเป็นห่วงอ้ะครับ
"
ตลอด เวลาที่กูรู้จักมึงมากูก็รู้ว่ามึงเบื่อง่าย เมื่อมึงจะตัดสินใจที่จะมีคู่ กูก็รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย แต่กูก็ขออวยพรให้มึงสมหวังนะ ยังไงซะเมื่อมันทำงานที่นี่กรูจะดูความประพฤติให้ก็แล้วกัน" ซึ้งจริงๆ เลยเพื่อนเอ๋ย
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันเพราะ ผมกับวินเพิ่งเรียนรุ้ซึ่งกันและกันยังไม่ถึงเดือน รู้แต่ว่าวันนี้ผมรักวิน และจะขออยู่กับเขาไป โดยใช้ชีวิตคู่ของเราให้ดำเนินไปอย่างสวัสดิภาพ และจะพยายามรักษามันให้ดีที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น