ผมกับอ้าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก
เราเรียนหนังสืออยู่ชั้นเดียวกันแต่ต่างโรงเรียน
เรารู้จักกันเพราะพ่อแม่ของเราต่างนับถือในตัวซือหู(เจ้าอาวาสวัดจีน)
เราซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดเดียวกัน ยามเมื่อมีงานวัด
(วันคล้ายวันเกิดเจ้าพ่อประจำวัด) เราก็มีหน้าที่ที่ต้องช่วยกันทำความสะอาด
และในวันงานเรามีหน้าที่ที่ต้องดูแลความสะอาดกระถางธูป รวมทั้งธูปในกระถาง
ซึ่งเราจะต้องจัดให้มีพื้นที่ว่างสำหรับผู้มาไหว้ใหม่เสมอ บ่อยครั้งที่อ้าต้องเข้ามาช่วยผมทั้งที่เขาเองก็เหนื่อย
เพียงเห็นน้ำตาผมไหลพรากเพราะธูป ผมตอบแทนเขาด้วยการติววิชาคณิตศาสตร์ที่ผมถนัดให้
เพราะเรื่องการเรียนเขาอ่อนมาก วันและเวลาเรียนของเราไม่ตรงกัน
อ้าจึงขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับไปส่งผมบ่อยๆ เมื่อถึงสอบไล่มัธยมต้น เพื่อเลื่อนขั้นขึ้นมัธยมปลาย
อ้าสอบตก ส่วนผมนอกจากจะสอบเลื่อนขึ้นได้แล้ว
ผมยังสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้ด้วยนอกจากระยะทางทำให้เราห่างเหินกันแล้ว
เรายังมาผิดใจกันเรื่องผู้หญิงคนหนึ่ง มันไม่เกี่ยวกับความรักความหึงหวง
แต่มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี หลังจากนั้นทุกครั้งที่พบกัน
รอยยิ้มที่เคยมีให้กันกลับเป็นหน้าบึงตึงใส่กัน
ต่อมาผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯได้
ส่วนอ้าผมรู้ทีหลังว่าติดทหารและเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ผมรู้เพราะทราบจากเพื่อนที่มาบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ และทีนี้ผมได้พบกับอ้าอีก
นอกจากจะดูหล่อขึ้น ยังดูเป็นชายชาตรีมากขึ้น คงเป็นผลจากการฝึกทหารนั่นเอง
ผมยังคงเป็นเด็กอยู่คงจะงอน ส่วนอ้าคงจะผ่านชีวิตเองความเป็นผู้ใหญ่ในช่วงเป็นทหาร
เขาจึงเข้ามาทักผมก่อน ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่จะยิ้มตอบคืน
ให้รอยยิ้มที่มาจากใจของเขา ผมชวนเขาไปทานข้าวเย็นและฉลองสัมพันธ์ไมตรีของเรา
เขาคงดีใจมากที่ผมยอมคืนดี เลยดื่มจนต้องคายของเก่าออกหลังจากที่หาน้ำให้บ้วนปาก
เขาบอกว่าปากเขายังขมๆอยู่ ผมลองหยิบลูกอมที่ผสมน้ำผึ้งและมะนาวให้เขาเม็ดหนึ่ง
ก่อนที่จะหาชุดนอนและอุปกรณ์ในการเช็ดตัวให้อ้า
อาจเป็นเพราะสมัยเป็นเด็กวัดเราเคยอาบน้ำในห้องเดียวกัน
และผมเคยพยาบาลเขาตอนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ล้มคราวหนึ่งที่จะไปรับผมที่โรงเรียน
ผมเลยกล้าและไม่รังเกียจจะทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมให้เขา
ครั้งแรกดูคล้ายว่าเขาจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะช่วยตนเองอ่อนปวกเปียก
พอปืนสั้นประจำขยายออกเป็นปืนยาวแล้ว มือที่เคยสงบกลับดึงผมให้ล้มตัวลงนอนกับอกของเขา
จากนั้นเขาก็ผลักกายให้ตนเองหงายอยู่บน เขาไม่ปล่อยให้ผมตั้งตัว
ใช้โอกาสที่เป็นต่อและพละกำลังที่มากกว่ากดตัวผมไม่ให้ขัดขืน
จากนั้นก็ใช้ปากปลดกระดุมเสื้อและปลุกเร้าจนอารมณ์ผมปั่นป่วนรสเสน่ห็หาครั้งแรกในชีวิต
ทำให้ผมอ่อนปวกเปียกโดยอ้าไม่ต้องใช้กำลังบังคับ
อีกแล้วจากนั้นเขาก็ใช้ปากปลดกางเกงได้สะดวกขึ้น เมื่อปราการด่านนอกผ่านไปได้
ปราการสุดท้ายจะเหลืออะไร
ในที่สุดเราทั้งคู่ก็อยู่ในชุดวันเกิดอ้าเก่งมากเขาใช้ปากกับผมจนผมต้องคายของเหลวในปากออกมา
เท่านั้นยังไม่พอ อ้ายังใช้ลิ้นซอกซอนไปถึงร่องก้นผมเคลิ้มจนรู้สึกได้ว่ามีท่อนอะไรแข็งๆ
กำลังทะลวงเข้ามาในตัวผม ความกลัวกับขนาดเกินมาตรฐานของคนเอเชีย
ทำให้ผมดี้นจนหลุดออกมาได้ เขาเข้ามาขอโทษพร้อมกับขอให้ช่วยเขามีความสุขบ้าง
ผมปฏิเสธลูกเดียว จนเขาเข้ามาถามผมว่าเคยเข้าประตูหลังไหม อยากลองหรือปล่าว
หลังจากลังเลสักครู่จึงพยักหน้า อ้าก้มลงเป่าคาถาพรวดเดียว
ท่อนเอ็นของผมก็ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้ง อ้าคงกล้วว่าจะไม่ราบรื่น
จึงบ้วนน้ำลายใส่ท่อนเอ็นผม อ้าใช้มือละเลงจนทั่วก้น
มันเหนียวเหนอะเลยทำให้ท่อนเอ็นของผมเข้าไปในก้นของเขาอย่างง่ายสะดวก
จากนั้นเขาก็ผลักให้ผมนอนลงและเขาก็นั่งขย่ม เท่านั้นยังไม่พอ
เขาดึงมือผมไปจับท่อนเอ็นของเขาด้วย เราช่วยกันอยู่พักใหญ่
ผมก็ทนไม่ไหวปล่อยน้ำออกมาอยากไม่ขาดสาย ในที่สุดอ้าก็อดใจไม่ไหว
ขอเข้าถ้ำผมบ้าผมเลี่ยงบอกว่าให้เรียนจบก่อน
แล้วถามว่าทำใมเขาถึงกล้าใช้ลิ้นกับถ้ำของผม ไม่กล้วสกปรกหรือ เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ
ผมเลยถามว่ารสชาติมันเป็นยังไง เขาคิดชั่วครู่ก่อนตอบว่า ‘’หวานอมเปรี้ยว’’ เมื่อเห็นผมทำหน้างงๆ
เขาเลยอ้าปากให้เห็นลูกอมที่ยังเหลืออยู่ในปากแล้วเขาก็ฮัมเพลงว่า ‘’นี่แหละรสชาติของชีวิต
บางครั้งเปรี้ยวอย่างมะนาว บางครั้งหวานปานน้ำผึ้ง’’ แล้วเราก็ระเบิดหัวเราะใส่กัน…….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น