วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Goodbye

เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดที่จะมองผู้ชายด้วยกันไม่เคยคิดเลยว่าจะชอบผู้ชายด้วยกัน เป็นคนซ่า ๆ ลุย ไปไหนไปกันผมเองก็เป็นอีกคนที่ผิดพลาดกับการเรียนในระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างมากผมต้องออกจากมหาวิทยาลัยถึง 3 แห่ง เพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ผมต้องหาทำงานทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานโรงงาน เป็น รปภ. พนักงานขายที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า(อันหลังทำนานสุด) ผมเก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่ง ผมก็เลยกลับมาอยู่ที่บ้านและเข้าเรียนมหาลัยอีกครับ ผมเข้าเรียนปี 1 ด้วยอายุ 24 ปี (แก่มากเรื่องอายุ)ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เดินออกมาอีก แต่หลายอย่างก็ไม่เป็นใจทางบ้านพ่อกับแม่ก็อายุมากกันแล้ว ก็ยู่บ้านทำนา ทำสวนไปวัน ๆผมก็ต้องหางานพิเศษทำไปด้วย แรก ๆ นั้นผมทำที่ 7-11 ในตัวอำเภอแต่รายได้อย่างว่าละครับ ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเลย ผมก็เลยเข้ามาหางานในจังหวัดบางแห่งก็ทำเฉพาะเสาร์ อาทิตย์บ้าง บางแห่งก็ 6 โมง ถึง 3 ทุ่มบ้างจะให้ขับรถมาไกล ๆ เพื่อแลกค่าแรงวันละ ร้อยกว่าบาท ไม่คุ้มจนกระทั้งผมมาทำงานที่ร้านอาหารกึ่งผับ เข้างานห้าโมงครึ่งเลิกงานตามสภาพของแขก(บางวันก็หกทุ่ม บางวันก็ตี1)เจ้าของร้านเป็นนายทหารหนุ่ม(อายุไม่น่าจะห่างผมมาก) ชื่อของพี่เขาก็คือ โยกับภรรยาสาวที่เป็นพยาบาลดูแล้วคู่นี้สมกันมากผมต้องเริ่มทำงานตั้งแต่เรียน ปี 1 เทอม 1 กันเลยทีเดียว แรก ๆ ผมก็เป็นเด็กเสิร์ฟพอว่างจากงานเสิร์ฟ ผมก็จะมาทำงานการเรียนตัวเอง บางก็ทำการบ้าน บ้างก็อ่านหนังสือพอพี่โยมาเห็นเขาถามผมว่า เรียนอยู่เหรอเอ / ครับพี่โยให้ผมมาเป็นแคชเชียร์และในทุกเย็นผมก็จะเช็คของภานในร้าน อะไรหมดไปบ้าง อะไรใกล้หมดบ้างทำรายการให้กับพี่เขาเพื่อทำการสั่งซื้อ ผมทำงานอยู่ 3 เดือน ก็สังเกตเห็นว่าพี่โยแปลกไปจากเดิม จากที่เคยยิ้มแย้ม พูดคุยสนุกสนาม กลายมาเป็นคนหน้าบึงเครียด พูดขวานผ่าซาก เริ่มสูบบุหรี่ จนกระทั้งถึงต้นเดือน ธันวาคม 50ผมขับมอไซร์มาถึงบ้าน (ผมขับรถไปกลับครับ 46 กิโล) ตอนตี 2 เศษ ๆ หนาวมาก ๆ โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นพอผมหยิบขึ้นมารับ “ (ร้องให้)เอ ..มารับพี่หน่อย พี่จะนั่งรอที่ศาลานะ /ที่ไหนครับ/ (อำเภอบ้านเมียเขา)/ ครับ ๆผมขับรถมากว่าจะถึงตัวจังหวัดก็46 กิโล กว่าจะถึงอำเภอที่พี่เขาอยู่ระยะทางก็เท่า ๆ กัน ผมหนาวจนตัวชาไปหมด เมื่อมาถึง สิ่งที่ผมเห็นก็คือพี่โยนั่งร้องด้วยเสียงที่แหบแห้งอย่างไม่เป็นผู้เป็นคน โดยมือทั้งสองข้างกอดบางอย่างเอาไว้แน่นผมเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ จับไหล่ของพี่เขา พี่โย พี่โยครับพี่โยซบหน้าลงกับไหล่ของผมร้องให้ ผมถึงกับน้ำตาไหลตาม ผมปลดเป้มาแล้วหยิบขวดน้ำดื่ม 
กับผ้าเช็ดหน้า ผมเช็ดหน้าให้พี่โย ปากก็พล่ำบอกให้พี่เขาดื่มน้ำ โดยที่ตาก็พยายามมองในสิ่งที่เขากอดเอาไว้ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง พี่เขาก็บอกให้พาไปที่ร้าน พี่โย เดินมาซ้อนมอไซร์ผม มือก็กอดไว้ที่หน้าอกไม้ยอมปล่อย เหมือนคนเดินกอดอก เพียงแต่ มันต้องมีอะไรข้างใน เพราะแขนทั้งสองข้างไม่ชิดหน้าอก ผมขับรถไปก็สงสัยไปตลอดเส้นทาง พี่โย ฟุบหน้าที่ไหล่ลงแขนทั้งสองข้างกอดเอว (พุงน้อยๆ )ของผมเอาไว้ แต่สิ่งที่โดนหลังผมมันไม่ใช้หน้าอกพี่เขาเพราะมันนูนออกมาอย่างชัดเจน จนขับรถมาถึงที่ร้าน ผมกับพี่โยเข้าไปในร้าน พอผมเดินไปเปิดไฟ เท่านั้นละครับ ทุกอย่างที่ผมสงสัย มันชัดเจนทันที สิ่งที่พี่เขากอดเอาไว้มันเป็นขวดโหลแก้ว ภายในมีซากของเด็กน้อย (ใหญ่กว่ากำปั้นผมนิดหน่อย) 2 คน พอผมผมเดินมาหาพี่โย ที่มองขวดโหล แล้วร้องให้ก่อนที่จะนั่งพิงผนังลงไปร้องให้อีกรอบ ผมนั่งลงข้าง ๆพี่โยและปลอบพี่เขา น้องเอ นี้ลูกชายของพี่ แฝดด้วยนะเอแล้วก็ร้องให้ออกมาเสียงดังลั่นร้านจนเราทั้งคู่หลับกันไป ตื่นเช้ามาพี่โยเป็นไข้ตัวร้อนมาก ผมเองก็มีอาการปวดหัวเหมือนกัน ผมเอาผ้ามาเช็ดหน้า เช็ดแขนพี่โย (เช็ดได้เท่านั้น) แล้วผมก็ไปทำข้าวต้มมาให้พี่โยกิน พอกินเสร็จพี่โยก็ชวนผมไปทำความสะอาดห้องนอนเก่าของพี่เขาที่ชั้น 2 วันนั้นเราหลับกันไปทั้งวัน
ผ่านไป 1 อาทิตย์ วันนั้นผมก็ขับรถมาทำงานตามปกติ แต่เมื่อมาถึงที่ร้าน ทุกอย่างกับนิ่ง และก็ได้รู้ว่า พี่โยรถคว่ำผมรีบไปโรงพยาบาลทันที พี่โยอยู่ในห้อง ICU ผมก็เห็นเพื่อนร่วมงานหลายคน และครอบครัวของพี่โยในครั้งแรก แต่แค่แว็บแรกผมก็รู้สึกได้เลยว่า พี่อยู่ใน ICU แต่ทำไม น้องสองคนถึงมีแต่จะกลับบ้านพี่โยอยู่ ICU สามวัน และก็ออกมาพักฟื้นต้องนอนโรงพยาบาลอีก 1 เดือน ผมมาดูพี่โยทุกวันหลังเลิกเรียน วันไหนว่างเรียนผมก็มาเฝ้าพี่เขาตลอด จนกระทั้งออกมาอยู่ที่บ้าน พี่โยเข้าเฝือกขาทั้งสองข้าง แขนทั้งสองข้าง และคอด้วย แต่มาอยู่บ้านคออาการดีขึ้น พี่โยขอให้ผมมาอยู่บ้านด้วย ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ผมเห็นแต่ พ่อ พี่โย เท่านั้นที่มาเยี่ยม และเมื่อมาอยู่ที่บ้านก็มีแค่พ่อเขาเท่านั้นที่มาเยี่ยม ผมต้องทุกอย่างครับ ทั้งหนัก ทั้งเบา อาบน้ำเช็ดตัว (พ่อแม่ยังไม่ได้ทำให้เลย) ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไม เราถึงทำ ผมต้องทำไปจนถึงบริหารงานร้านอาหารไปด้วย ผ่านไปจนกุมภา 51 พี่โยอาการดีขึ้น แขนข้างหนึ่งแข็งแรงดีแล้ว ส่วนขาทั้งสองข้างก็ต้องใช้ไม้ค้ำอยู่ ผมขอให้พี่โยเอาลูกไปทำพิธีทางศาสนา แรกพี่โยไม่ยอมครับ พี่โยครับ พี่มาเก็บน้องแฝดไว้แบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับแม่เขานะพี่โยไม่ตอบ เอาแต่เงียบ พี่โย...ผมเรียกพี่เขาอีกครั้ง / ขอเวลาพี่หน่อยนะจนกระทั้งเดือนมีนา 51 ผมสอบปลายภาค วันนั้นสอบเช้า พอผมกับมาถึง เปิดประตูห้องเข้าไป กลิ่นเหม็นมาก ทั้ง...ฉี่
ทั้ง ..ทั้งหนัก ทั้งเบา ละกัน ผมเดินเข้าไปพยุงพี่โยเข้าห้องน้ำ เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาเช็ดที่พื้นห้อง แล้วหาผ้ามาถูพื้นทำความสะอาด ก่อนที่จะมาหาพี่โยอีกครั้ง ผมให้พี่โยนั่งเก้าอี้ในห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำราดตัวพี่โยลงมา (ผมอาบน้ำให้พี่โยตลอด) ผมถอดเสื้อพี่โยออกมา แล้วถอดกางเกงพี่โยออกมาล้างทำความสะอาด ก่อนที่จะมาพยุงพี่โยขึ้นล้างตัวทำความสะอาด ล้างก้นให้พี่เขา ผมให้พี่โยนั่งบนเก้าอี้ แล้วก็ฟอกสบู่ให้พี่เขาทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั้งโยน้อย (แต่มันไม่น้อยเลย) ก็ตาม แต่วันนี้ต่างไปจากเดิม คือ พี่โยหันหน้ามองตามการเคลื่อนไหวของผมตลอดพี่โยถามผมขึ้นมาว่า ไม่รังเกียจพี่เลยเหรอครับ ที่พี่ทำแบบนี้ผมมองหน้าพี่โยก็พี่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากนัก และเอก็รู้สึกดีด้วยที่ได้ทำให้พี่นะครับพออาบน้ำเสร็จผมพยุงตัวพี่เข้ามาในห้อง เช็ดตัวทั้งโยใหญ่ โยน้อย ก่อนที่จะหาเสื้อผ้าให้พี่เขาใส่ พอเสร็จเอก็ลงมาชั้นล่างเพื่อดูแลงานต่าง ๆ วันนั้นดีหน่วยได้ปิดร้านราวเที่ยงคืนกว่า เก็บข้าวเก็บของ เสร็จก็เกือบตี 1 พอเอปิดร้านเรียบร้อย เอขึ้นมาที่ห้องนอน พี่โยยังไม่นอน นั่งดูทีวีอยู่ (เอกับพี่นอนห้องเดียวกัน) พอเสร็จผมก็มาเอาที่นอนปิกนิกมาปุที่พื้นแล้วล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยทันที สักพักได้ยินเสียงพี่โย เอขึ้นนอนบนเตียงเถอะ นอนพื้นมันจะปวดหลังเอานะผมก็ได้แค่ อืม แล้วผมก็หลับไปด้วยความเหนื่อย จนกระทั้งตื่นมาตอนเช้า ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มาทับผมอยู่ (ผมชอบนอนตะแคง) และพอผมลืมตาขึ้นมาพี่โยนอนหมุนหมอนใบเดียวกันกับผม หน้าผมซบอยู่ซอกคอของพี่โย พี่โยกอดผมนอนตัวชิดกัน มันเป็นอะไรที่ทำให้ใจผมสั่น ทั้ง ๆ ที่อยู่กันมา 3 จะ 4 เดือน อาบน้ำให้ ล้างหน้าโยน้อยให้ บางครั้งมันก็แข็งสู้มือ เรายังไม่มีอาการใจสั่นแบบนี้เลย ผมจะลุกแต่พี่โยกับกอดผมไว้แน่น จนกระทั้งเย็น ผมก็ทำหน้าที่ของผมตามปกติ บ่ายมาก็มารับของที่ร้านต่าง ๆ เอามาส่ง เตรียมของ เตรียมร้าน จนกระทั้งปิดร้านไปตอน ตี1 พอผมจะนอนพี่โยก็บอกให้ผมขึ้นนอนบนเตียง แต่ผมไม่ขึ้น ผมก็ปูที่นอนของผมแล้วก็ล้มตัวลงนอน สักพัก พี่โยลงมานอนด้วยข้างล่าง พี่โยนอนอยู่ข้างหลังผม นอนกอดผมจนผมหลับไปด้วยความเหนื่อย มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีอะไรบางอย่าง เปียก ๆ ลื่น ๆ มีถูอยู่ที่ร่องขาหนีบขอผม ผมได้ยินเสียงหายใจที่ดังของพี่โยก็พอจะรู้ได้ว่ามันคืออะไร โยน้อย นั้นเอง ผมนอนนิ่งเพราะผมคิดว่า พี่โย ก็คงมีความต้องการ เพราะตั้งแต่มีเรื่องมา รวมถึงอุบัติเหตุ จนถึงตอนนี้ มันก้จะปาเข้าไป 5 เดือน เมื่อพี่โยหลั่งออกมาขาผมเปียกไปหมด พี่โยกอดผมไว้แน่น เอ ไม่ได้หลับใช่มั้ย / ครับ พี่โยจับผมพลิกหันหน้าไปหาพี่เขา แล้วกอดผมต่อ และขอคบกับผมเป็นแฟน หลังจากวันนั้นผมกับพี่โยคบกันในฐานะแฟน (ในบ้าน) ส่วนฐานะน้องชายนั้นเมื่อมีบุคคลที่สาม หรืออยู่นอกบ้าน
จนกระทั้งมาถึง พฤษภา 55 ที่ผ่านมา ทุกอย่างมันกับหยุดลง เมื่อพี่โย เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุอีกครั้ง พี่เขาให้ผมเยอะครับ (พี่ตัวเองยังไม่เคยหยิบยื่นให้) เพราะถ้าผมไม่มีพี่เขา ผมคงเรียนไม่จบ และที่ผมมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้ เพราะมันเป็นวันคล้ายวันเกิดของพี่เขา ผมมาทำบุญให้พี่เขาที่บ้านครับ ผมเองก็ไม่ได้ปิดตัวเอง ทุกคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นอะไร (นอกจากแม่ผม เพราะพี่โยไปขอผมกับแม่) ทั้งเพื่อน หรือคนรอบข้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น