วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อย่านะพี่จะบ้าเหรอ

ผมหรือครับ เป็นนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดพิษณุโลกนะสิ เรียนเกี่ยวกับเรื่องยาๆทั้งหลาย เหตุการณ์ประทับใจของผมเกิดขึ้นตอนผมเรียนอยู่ปี สอง จึงเป้นหน้าที่ของชั้นปีที่ผมที่ต้องเตรียมงานรับน้องใหม่ที่จะเข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ในคณะเดียวกันคือ กิจกรรมในช่วงแรกของความโหดก็ผ่านไปด้วยดี จนเลยล่วงมาถึงการเอาใจน้องๆบ้างในตอนท้ายๆก็กิจกรรมการรับน้องที่คงเหมือนกันเกือบทุกสถาบันทั่วประเทศที่ใช้สูตรตบหัวลูบหลัง วันหนึ่งวันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมจึงออกไอเดียพาน้องใหม่แห่งคณะไปเที่ยวน้ำตกกันโดยนั่งโดยสารกันไป คณะกรรมการของชั้นปีก็เห็นดีเห็นงามไปกับไอเดียของผมโดยไม่มีใครยกมือคัดค้านเลยสักคนเดียว แล้วเรื่องมันเกิดยังไงน่ะหรือครับ ก็มันเกิดตรงที่ว่ามีรุ่นน้องอยู่คนหนึ่งเขามาขออนุญาตผม พาเพื่อนต่างคณะของเขาไปด้วยคนหนึ่งชื่อ ตั้ม ตอนแรกผมก็คิดจะใส่อแหลกกำลังจะอ้าปากด่า ว่ารับน้องของคณะจะเอาเพื่อนต่างคณะไปด้วยได้ยังไงแต่เมื่อหันหลังไปเห็นหน้านายคนตั้มเข้าให้เท่านั้นปากคอมันก็สั่นไปหมด คำด่าหดหายเข้าไปในลำคอไปไหนไม่รู้ ตะลึงค้างอยู่อย่างนั้นพูดอะไรไม่ออก ก็ไอ้เด็กชื่อตั้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมก็มันเทพบุตรชัดๆโหย….พระเจ้าช่างปั้นจริงๆ ‘’ก็ได้นี่ไม่มีปัญหา’’ ผมตอบน้องเสียงอ่อย ไปก่อนที่จะกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่พอไปถึงน้ำตกผมก็เปิดกรงปล่อยฝูงทโมนทั้งหลายให้มันไปลงเล่นน้ำส่วนผมไม่ไหวแล้วมัวแต่วิ่งกับกิจกรรม เลยไม่ได้กินข้าวเช้ามา สวรรค์ก็เขกกะโหลกโปรดผมเข้าให้ เมื่อนายตั้มอะไรเนี่ยเขาก็ไม่ได้กินเหมือนกันจึงขอตามผมไปกินข้าวด้วยคน ผมเลยเดินหาร้านกินข้าวไปสั่นไป หิวก็หิวไหนก็ต้องมาเก๊กหน้าให้ดูดีในสายตาไอ้รูปหล่อนี่อีก เพราะเผื่อมันจะสนใจผมบ้าง เมื่อได้ที่ได้ทางจนอิ่มหนำสำราญแล้วเราจึงถือโอกาสต่อด้วยเบียร์อีกขวด มันทำให้ผมสบายตัวขึ้นและกล้ามองสบตาคุยกับเขาได้อย่างถูกคอและสนิทสนมขึ้นอย่างเร็วมาก เราทานข้าวกันเสร็จผมก็ชวนตั้มตามพวกน้องปีหนึ่ง ลงไปเล่นน้ำคงเพราะฤทธิ์เบียร์ที่ทำให้มึนๆผมจึงหาโอกาสกอดตั้มเอาไว้เสมอด้วยลีลาอย่างไม่น่าเกลียดตั้มก็ดูไม่ว่าอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ในยามเกือบจะนุ่งลมห่มฟ้าลงมาเล่นน้ำ เย็นๆอย่างนี้ แหมมันก็ต้องมีหนาวกันบ้างแหละ พอจวนค่ำก็เป็นหน้าที่ของผมและเพื่อนๆปีสองที่ต้องต้อนรับน้องปีหนึ่งทั้งหลายขึ้นรถกลับบ้านกันให้ครบผมเองมัวแต่เก็บโน่นเก็บนี่ จึงขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย สวรรค์เขกกะโหลกเป็นใจอีกครั้ง แล้วเมื่อมันเหลือที่นั่งว่างอยู่ที่เดียวทั้งรถ ก็ตรงข้างๆ นายตั้มนั่นแหละ เขายิ้มให้และกวักมือเรียกผมไปนั่งด้วยกันเพราะความเหนื่อยและความเพลียตั้มจึงนอนหลับซบไหล่ผมมาตลอดทางใจผมตอนนั้นรู้สึกเป็นสุขมากไม่อยากให้เวลาที่รถแล่นนี้ถึงจุดหมายเลย อยากให้มันแล่นอยู่อย่างนี้ตลอดไป แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ พอกลับไปผมก็สั่งให้น้องปีหนึ่ง ทั้งหลายอาบน้ำนอนกันได้แล้วเพราะเหนื่อยกันมามาก ส่วนผมก็ถือโอกาสชวนตั้มไปกินเหล้ากันต่อที่หอสองคน เพราะใจยังไม่อยากจากเขาในเวลานี้โดยผมอ้างว่าดึกๆ จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งให้ ตั้มลังเลนิดหน่อยแต่ก็ตอบตกลงผมอย่างว่าง่ายทำไมสวรรค์ช่างเข้าข้างผมอย่างนี้ก็ไม่รู้ เมื่อฝนเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาในขณะที่เราเพิ่งเริ่มจะมึนๆ เป็นโอกาสของผมแล้วผมจึงเอ่ยปากชวนตั้มให้ค้างเสี่ยที่นี่เลย ‘’ นอนนี่แหละตั้มฝนตกหนักคงกลับไม่ได้’’ ‘’ ไม่เป็นไรมั้งพี่ เดี๋ยวก็หยุดมั้ง’’ เขายังลังเลไม่รับปากผม ‘’ เฮ้ย..ไม่เป็นไรหรอกนอนนี่แหละ จะได้คุยกันต่อ’’ คงเพราะแรงยื้อยุดจากปากคำของผมไม่ไหว ตั้มจึงปลดซิบแกะกางเกงออกและบอกว่าอยากอาบน้ำก่อนนอน ผมจีงบอกทางไปห้องน้ำของหอให้ ตั้มเดินหายออกจากห้องไปพักหนึ่งเท่านั้นก็กลับเข้ามาและบอกผมว่าไม่กล้าเดินไปห้องน้ำ เพราะมันอยู่ข้างหลังหอและมืดมากเลยเขาบอกว่าเขากลัว โอ้ยเอาอีกแล้ว นี่สวรรค์กะจะให้ผมฟันไอ้รูปหล่อคนนี้จริงๆหรือนี่ ‘’ งั้นอาบด้วยกันกับพี่ก็ได้ ลงไปอาบพร้อมกัน’’ ผมยื่นข้อเสนอไปตั้มพยักหน้าตอบตกลงกับผมอาจจะเป็นเพราะมึนๆ เมื่อประตูห้องน้ำปิดลงกลอนและเราอยู่ในห้องเล็กๆ ที่ใช้อาบน้ำกันเพียงสองคน ผมจึงไม่เกิดอาการลำกระโดงขยายขึ้นมาให้ขายหน้าเท่าไหร่ เพียงแต่ นูนๆ ดุนๆ กางเกงในอยู่เท่านั้น ความมืดของห้องน้ำทำให้ผมไม่รูปร่างตั้มถนัดนัก เราเห็นกันแต่เงาตะคุ่มตะคุ่มและใส่กางเกงในวักน้ำให้กันซู่ ไปตามเรื่องผมแกล้งตั้มเข้าให้ด้วยอารมณ์สนุกโดยเอาแชมพูป้ายหน้าเขา แล้วดึงขันน้ำมาจากมือไม่ให้เขาล้างออกได้ตั้มยืนนิ่งเชิดหน้าคงเพราะแสบตาบอกให้ผมเอาน้ำล้างออกให้เขาเดี๋ยวนี้ ผมหัวเราะก่อนที่จะราดน้ำล้างหน้าและคืนขันให้เขา ตั้มรับไปแล้วก็ยังเชิดหน้าด้วยความแสบตาอยู่อย่างนั้นสายตาผมเริ่มชินกับความมืดจีงเห็นอะไรต่อมิอะไรในตัวเขาได้มากขึ้น กางเกงในสีขาวเวลาเปียกน้ำมันส่งลำกระโดงนูนเด่นจนเห็นเป็นสีเนื้ออยู่ในมุ่นไหมดำๆ ที่โผล่พ้นขอบกางเกงออกมาตั้มเห็นผมมองเป้ากางเกงในเขาอย่างนั้นนานไปหน่อยเลยจ้องหน้าผมเหมือนจะหาคำตอบ ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เข้าไปกอดและเอาริมฝีปากฉกไปบดขยี้ริมฝีปากบนใบหน้าหล่อเหลาเขาอย่างยั้งใจไม่อยู่ ตั้มขัดขืนผม ‘’ อย่าพี่..จะบ้าเหรอ’’ เขาดิ้นรนได้พักเดียวก็สู้แรงผมไม่ได้ และคงทนแรงสยิวจากปากผมไม่ได้เหมือนกันร่างของตั้มจึงอ่อนระทวยลง ก่อนที่จะเริ่มตอบสนองผมในอาการบดคลึงส่วนล่างของลำตัวที่เริ่มขยายใหญ่เข้ามาของผมในระดับเดียวกันอารมณ์ปรารถนาของเขาลามเลื้อยโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมาตุงโด่ในเวลาไม่นานเช่นเดียวกับของผม ผมถอนปากออกจากปากเขาเมื่อเห็นว่าตั้มมีอาการตอบรับและหลับตาพริ้มด้วยความอยากเห็นสวรรค์เช่นกันไปแล้ว ริมฝีปากผมเริ่มทำงานไซ้ติ่งหู ซอกคอ ‘’ซี้ดโอ้ย’’ ตั้มร้องออกมาอย่างนั้นเมื่อผมฉกปากเข้าให้ที่หัวนมตัวเขาเกร็งแล้วแอ่นร่างครางกระเส่าหน้าตาเหยเก ผมไม่รอเวลาอีกต่อไปลากลิ้นลงไปสูดดมความเป็นชายจากกางเกงในเปียกชุ่มที่บัดนี้มันปิดบังพวงสงวนไว้ไม่มิดอีกต่อไปแล้ว ผมรูดกางเกงในตั้มออกทางปลายขาฉับพลันเจ้ามังกรตัวน้อยน่ารักสมวัยของเขาก็ดีดผึงออกมาแม้มันจะถูกชำระล้างด้วยสบู่ไปแล้วแต่กลิ่นสาปอ่อนๆหอมหวานของอวัยวะเพศชายส่งกลิ่นยั่วจมูกผมจนอดใจให้ซุกจมูกลงไปสูดดม อดใจไม่ได้ อุบัติการณ์รีดพิษเจ้ามังกรน้อยของพ่อตั้มสุดหล่อด้วยปากของผมกำลังจะเริ่มขึ้นผมดูดดุนขบเลียจนตั้มแอ่นก้นเผยยืนพิงหลลังไม่ติดห้องน้ำ ร่างกายประกอบกับหน้าตาเขาเซ็กส์ซี่มากในเวลานี้ ยิ่งปากที่สูดซี้ดซ้าดมันเพิ่มอารมณ์ให้ผมได้อีกมากมากน่ารักเหลือเกิน ในยามที่คนรูปหล่อเกร็งเสียวเช่นนี้ ผมดูดไปได้พักใหญ่ก็ถึงกาลอวสานของเจ้ามังกรตัวนั้นที่จะอมพิษอยู่ต่อไปได้’’ทนไม่ไหวแล้วพี่’’ เสียงเขาสั่นจนเกือบเป็นหอบกระดกก้นกระแทกเข้าปากผมจนพิษของเจ้ามังกรฉีดพุ่งลงไปเกือบหมด พ่อรูปหล่อก็สิ้นฤทธิ์สงบร่างด้วยท่าทีที่อ่อนแรงลงไป จากนั้นผมถามเขาว่าจะทำให้พี่บ้างไหมเขาส่ายหน้าและบอกว่าไม่เคยชวนผมรีบล้างตัวและขึ้นนอนกัน ผมเดินตามเขาขึ้นมาบนหออย่างผิดหวังนิดๆโดยที่ตั้มเดินดุ่มๆขึ้นบันไดมาไม่พูดกับผมสักคำ ผมไม่ลำความพยายามแค่นั้นตอนนอนผมพยายามสวมกอดตั้มทางด้านหลังและทำให้ตั้มมีอารมณ์ขึ้นมาอีก ผมเอาเสากระโดงที่หว่างขาของตนเองไปถูไถกับร่องก้นของตั้ม ตั้มคงไม่เคยเจออย่างนี้ ตัวเขาเลยเกร็งไปหมดผมถามเขาไปตามตรงว่าพี่ทนไม่ไหวแล้วช่วยพี่หน่อยขอประตูหลังตั้มได้ไหมตั้มตอบอย่างเห็นใจผมและแบ่งรับแบ่งสู้บอกผมว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์ทางนี้มาก่อนเขากลัวเจ็บผมก็บอกเขาไปว่าไม่ต้องกลัวหรอก ผมเรียนเภสัช ผมมียาชื่อ ‘’ ไซโลเคน’’ แอบเอามาจากแลปห้องทดลองเป็นตัวยาหล่อลื่นผสมยาชาตั้มจะไม่มีความเจ็บสักนิดเดียว ตั้มลุกขึ้นมานั่งฟังสรรพคุณด้วยยาจากอนาคตหมอยาอย่างผมก่อนที่จะยอมผมอย่างง่ายๆ ผมหยิบงถุงยางอนามัยมาสวมให้ตัวเอง และเอาไซโลเคนทาที่หัวอวัยวะไว้และทาให้ตั้มที่ถ้ำสวาทด้วยอวัยวะไว้และทาให้ตั้มที่ถ้ำสวาทด้วย เมื่อเขารุ้สึกชาๆ เพราะฤทธิ์ยาออกฤทธิ์ ผมก็จับให้ตั้มนอนหงาย ยกขาพาดบ่าผมเอาไว้ ท่าทางพ่อรูปหล่อในตอนนี้น่ารักมากน่าฟันอย่าบอกใครเชียวครับ ผมเอาหมอนสอดเข้าไปในร่องก้นขาวๆ ของเขาให้สูงขึ้นมาก่อนที่บรรจงเสียบเสากระโดงลงไปที่ร่องสวาทที่ยังไม่เคยผ่านชายใดมาก่อนของเขา ความรู้สึกของครั้งแรกทำให้ตั้มหลับตาปี๋ส่วนผมอารมณ์ที่จะได้เสพของบริสุทธิ์มันจุดประกายสวาทจนลุกโชกอัดแน่นไปทั้งลำผมเริ่มขยับเข้าขยับออกช้าๆ ตั้มคงไม่รู้สึกอะไรเพราะฤทธิ์ของไซโลเคน ส่วนผมเสียวซ่านจนบอกไม่ถูก เริ่มเร็วขึ้นๆ เรื่อยๆ อย่างกับควบม้าตั้มลืมตามองหน้าผมนิ่งแล้วยิ้มให้ขยับสะโพกรับจังหวะการโยกของผมเป็นระยะๆ เขาเริ่มส่งเสียงครางออกมาแข่งกับผม เพราะคงเริ่มเสียว ในที่สุดผมก็หลั่งออกมาจนเต็มสตรีม และฟุบลงกับอกตั้ม ตั้มลุกขึ้นมาอ้อนขอเล่นรักกับหลังบ้านผมบ้างเพราะไอ้ลูกชายสุดหล่อของเขามันลุกขึ้นมายืนตรงอีกครั้งแล้วผมก็โอเค ส่งไซโลเคนและถุงยางอนามัยให้เขาปฏิบัติการบ้าง สี่ครั้งครับ พังกันคนละสี่ประตูในคืนนั้น เที่ยวหลังๆ นี่ไม่ต้องใช้ยาแล้ว เพราะพอเริ่มตีสี่ตีห้ามันก็เริ่มหลวมแบบโครกครากรูดผ่านเข้าไปได้อย่างลื่นๆ แต่เราไม่ลืมที่จะสวมถุงยางกันเสมอ จากวันนั้นถึงวันนี้ตั้มกับผมก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และวันไหนที่มีโอกาสพ่อสุดหล่อก็จะมาหอผมเพื่อเป็นลูกค้าประจำของไซโลเคนในห้องแลปมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ นี่ถ้าอาจารย์เช็คยาเมื่อไหร่ ยาตัวนี้คงไม่เหลือไว้ทำการทดลองแน่ๆเลย5555……

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น