ผมขับไอ้ป๊อกไปช้าๆ อย่างสบายใจมองโน่นมองนี่ไปทั่ว
แต่แล้วกระแสความนึกคิดของผมก็ต้องหยุดลงเมื่อสายตาไม่สะดุดกับชายหนุ่มหุ่นทะมัดทะแมงนายหนึ่งซึ่งกำลังเดินทอดน่องสบายใจโดยไม่กังวลกับดวงอาทิตย์ที่เริ่มลอยตัวต่ำลงทุกขณะผมชะลอรถถามเขาว่ากำลังจะไปที่ไหน
เขาบอกว่ากำลังจะกลับเข้าตัวเมืองหลังจากออกมาวิ่งจนเหนื่อยดูมันก็น่าเหนื่อยอยู่ไม่น้อยเพราะถนนมีความยาวร่วม
5 กิโลเมตรได้
ผมเลยบอกเขาไปว่าหากไม่รังเกียจจะกลับเข้าตัวเมืองพร้อมกับผมไหม เขาไม่ตอบแต่ยิ้มสวยแล้วเดินฉากวูบอ้อมมาด้านหลังมอเตอร์ไซค์แล้ววาดขาคร่อมช้อนท้ายทันที
กลิ่นเหงื่อปนสาบหนุ่มโชยมาอ่อนๆทำให้ผมมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทันที
ตลอดระยะทางเราคุยกันน้อยมากเพราะเขาเป็นคนค่อนข้างเงียบ
ก็เลยทราบเพียงแค่ว่าเขาเพิ่งมาเริ่มชีวิตการรับราชการที่นี่
เขาบอกว่าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปอยากจะรบกวนให้ผมไปส่งที่บ้านพักหลังกองกำกับด้วย
ผมปฏิบัติตามด้วยความยินดี
บ้านพักของเขาอยู่ด้านหลังกองกำกับซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างมืดแต่เป็นสัดส่วนดี
ตัวบ้านเป็นเรือนไม้เดี่ยวสองชั้น ทาสีเทาคร่ำแต่ยังดูแข็งแรง เขาพักอยู่กับเพื่อนนายตำรวจอีกสองคนซึ่งอยู่ชั้นบน
ส่วนเขาของห้องเดี่ยวข้างล่างด้วยเหตุผลว่ามันสะดวก
เขาขอให้ผมอยู่คุยกับเขาก่อนเพราะเหงา
โดยให้เหตุผลว่าก็ไปเข้าเวรกันหมดพรุ่งนี้สายๆถึงจะกลับ ตาโศกกลมโตจ้องผมนิ่ง
ผมมีโอกาสพิจารณาเขาอย่างชัดเจนก็ตอนนี้เอง ตัดผมสั้นดูสะอาด
โครงร่างสวยได้สัดส่วนเนื้อหนังแน่น ช่วงชาแข็งแรง
แววตาโศกแต่ใสเหมือนตาเด็กความคิดของผมเตลิดไปไกลแล้ว…เขายังจ้องผมนิ่ง…เออนะ ..คนไกลบ้านไกลเพื่อนต้องมาอยู่ในที่นี่ตัวไม่คุ้ยเคย
แปลกใหม่ทั้งที่อยู่ที่กินไปตลอดจนผู้คนด้วย ผมเองเคยรู้รสไกลบ้านเมื่อครั้งยังเยาว์
ความรู้สึกของผมมันย้อนวูบไปถึงตอนนั้นทันที ผมโอบไหล่เขาเบาๆ อย่างปลอบใจ เขาผวาซุกกับอกผมแน่น
ตัวสะท้าน ‘’ เป็นอะไรไปครับ’’ ผมกระซิบถามเขาเบาๆ ‘’ พี่ครับ…ผมคิดถึงบ้าน’’
ด้วยคำตอบนี้
ผมรวบตัวเขาเข้ามากอดแน่นแล้วลูบหัวเบาๆ อย่างปลอบโยน ผมขบกรามแน่น….เมื่อหลายปีก่อนผมเคยมีสภาพอย่างนี้
ต้องระเห็จไปเรียนไกลบ้าน
ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากครอบครัวขาดหายไปในช่วงหนึ่งของชีวิต
ผมโหยหาสิ่งนี้มาตลอด เขาเองก็คงไม่แตกต่างกันนัก
ในโลกของความเป็นจริงคนคงมองเขาอย่างขื่มขมในความเข้มแข็งและความมีเสน่ห์ต้องตาของนายตำรวจหนุ่มน้อย
แต่พอพ้นสายตาของสังคม
เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองอีกแล้ว ฟ้ามืดแล้ว....อากาศเย็นลงทุกขณะ
แต่ตัวเขากลับอุ่นจัด
ร่างกายของเราทั้งสองใกล้ชิดกันจนผมสามารถรีบรู้ถึงปฏิกิริยาของอวัยวะบางส่วนได้
มันเกร็งอัดแน่นบริเวณต้นขาส่วนหน้าของผมเขาไหลกายน้อยๆคล้ายกับลองเชิงผมประคองใบหน้าเขาให้เงยขึ้นตาใสของเขาหรี่ประสานกับผมนิ่งเหมือนที่เคยเป็นปากหนาอิ่มได้รูปเผยเล็กน้อย
ผมประทับจูบเบาๆไล้แนวจูบไปทั้งเรียวหน้า กระชับร่างหนันหยุ่นเต็มอ้อม
มันเหมือนฝัน…ผมเคยคิดอย่างนั้นนานมาแล้ว ผมเคยปรารถนาอยากจะมีรักกับคนในเครื่องแบบ
แต่นี่มันไวจนผมตั้งตัวไม่ทัน แต่เอาวะ…คืนนี้ขอฟาดตำรวจสักครั้งเป็นไรเป็นกันรสเนื้อจะแผกไปจากเนื้ออื่นใดที่ผมเคยลิ้มมาแค่ไหน
จะเผ็ดร้อน…หรือหวานสนิท…เดี๋ยวก็รู้กัน ผมเลยตอบเขาไปว่า
หากไม่รังเกียจคืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อน เขาตอบรับอย่างดีใจแล้วขอตัวอาบน้ำ
ผมไม่อยากจะให้อารมณ์สะดุดจึงขออาบน้ำพร้อมกัน เขาไม่ตอบ
แต่ถอดรองเท้าถึงเท้ากับชุดวิ่งออกไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นในผมตะลึงไปชั่วขณะ
อืมม์…เห็นเงียบๆอย่างนี้ร้อนน่าดู เพื่อไม่ให้เสียเชิงผมรีบปฏิบัติตามทันที
ไม่เห็นเป็นไรนี่ ช่วงที่ผมเล่นกีฬาเสร็จ
ว่ายน้ำเสร็จก็แก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนๆอยู่แล้ว
ต่างฝ่ายต่างสำรวจกันและกันแล้วหัวเราะ
เราผลัดกันทำความสะอาดน้ำเย็นเฉียบจนโอ้เอ็ไม่ได้
ผมเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบตัวเขาเหมือนเด็กแล้วอุ้มเขาไปโยนลงบนเตียงนุ่ม
เช็ดตัวเช็ดผมของเขาจนแห้งดีแล้วค่อยจัดการกับตัวเอง
ผมสะท้านเพราะความเย็นของอากาศ ‘’เข้ามาในโป่งผ้าห่มกับผมเร็วซิ….เดี๋ยวเป็นไข้ไม่รู้ด้วย’’
ผมรีบมุดเข้าไปทันที
เสียงลมพัดอู้ข้างนอกต้นก้ามปูไหวซ่าๆ แต่มันไม่ทำให้เราสองคนรู้สึกหนาว
มันกลับอุ่นไปถึงหัวใจ ภายใต้ผ้านวมที่มีร่างอุ่นที่ผมคะนึงหามาตลอดในหลายปี
ความอบอุ่นระบายออกมาจากเรือนกายของเราจนเนื้อเนียนให้ความรู้สึกละมุนอ่อนโยน
ผมซึบซาบรสสัมผัสอย่างเป็นสุข เขาเบียดตัวโอบซุกกับอกผมแน่น
อารมณ์ของผมเพริดเกินยั้งแล้ว กลิ่นเนื้อหนุ่มสะอาดโชยกรุ่น
ผมพลิกตัวเขาไว้ด้านหลัง ดูท่าทางเขาอึดอัดกับน้ำหนักตัวของผมที่ทาบสนิทอยู่บนเรือนกาย
แต่ก็ไม่ดิ้นรน ลิ้นอุ่นของผมฉกวูบลงที่ดิ่งยอดอกแน่นได้รูป
เขาหดตัวดิ้นอึกอักแต่ผมกดตรึงไว้แน่น ผมรวบแขนของเขาเอาไว้บนศีรษะ
ก่อนที่จะขยี้ปากและจมูกลงบนกลุ่มขนนุ่มซอกแขนของเขา
กลิ่นอ่อนของมันที่อวดออกมาทำให้ผมต้องซุกไซ้อย่างเมามันมันเป็นกลิ่นฟีโรโมนที่ผมชอบ
เพราะมันแสดงความเป็นเพศผู้ได้อย่างชัดเจนจนเสียครวญครางของเขาทำให้ผมมั่นใจว่าคลำเป้าเจอแล้ว
เนื้อตัวของเขากระตุกเกร็งแน่น กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นท้องที่เต็มไปด้วยขนอูยเกร็งขึ้นเป็นลูกอย่างชัดเจนอวัยวะบางส่วนผมผงกหงึกกงักอย่างรุนแรง
หัวใจผมแทบหยุดเต้น เมื่อเขาเริ่มตอบโต้ ปากหนาอิ่มได้รูปของเขาควานหาปากผมจนเจอ
เขาประทับปากแนบแน่นอย่างกระหาย ปล่อยให้อารมณ์ก่อตัวขึ้นมาช้าๆ แต่หนักแน่น
ตาสวยหรี่ปรือมืออุ่นของเขาลูบไล้ท่อนลำที่แข็งแกร่งของผมซึ่งแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกขณะ
ตัวผมสั่นเทิ้มด้วยแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน
สะโพกผมเริ่มไหวตามแรงกระตุ้นจากมือแข็งแรงของเขา
เชาเน้นอย่างมีจังหวะจนผมผวาเฮือก ผมโอบรัดเขาแน่น
ค่อยลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเรื่อยไปตามสะโพกแน่นเครียดเหมือนม้าศึก
ผมเน้นมืออย่างมันเขี้ยว ซุกไซ้ทั่วร่างเขาอย่างเมามัน
เขาสะดุ้งเมื่อผมเริ่มดูดดื่มท่อนลำสวยได้รูปของเขา
มันผงกตัวรุนแรงคะนองเหมือนมาหนุ่ม เกรงแน่นเสียจนเส้นเลือดปูดโปนชัดเจน ‘’
พี่ครับ…ผมรักพี่…’’
เขาเพ้อขณะที่มือเขาลูบไล้อยู่บนศีรษะผมอย่างรัญจวน
ผมรุกอย่างได้ใจสะโพกที่ปิดไหวของเขาต้องกระตุกเกร็ง
เมื่อผมสอดนิ้วเข้าตามรอยผ่าด้านหลังลึกเข้าไปจนสุดแล้วขยับเข้าออกอย่างสอดคล้องกับปากผมที่ทำงานอย่างลดล่ะผมค่อยๆหมุนตัวปรับองศาจนข้อลำของผมอยู่ในระดับที่เขาสามารถดูดดื่มของผมได้
เขาเม้มตอบได้อย่างรู้จังหวะ จนคราวนี้ผมต้องเป็นฝ่ายเกร็งบ้าง ‘’ พอ….พอก่อนครับคนดี..พี่…จะไม่ไหวแล้ว’’
ผมคร่ำครวญ
หยุดจองเวรกับเขาชั่วขณะพลิกตัวกลับมาพ่อนฟัดร่างหนั่นหยุ่นของเขาอย่างหลงไหล
ผมใช้ร่างของผมแทนผ้าห่ม คลุมลงไปบนร่างของเขา
เราคุยกันเพื่อยืดเวลาแห่งความสุขออกไปให้นานเท่าที่อดทนของเราจะมี ผมบอกกับเขาว่า
ผมเคยฝันอยากจะมีรักกับตำรวจสักคนมานานแล้วแต่ก็เป็นแค่ความรุ้สึกที่เก็บเอาไว้ภายในเท่านั้น
เขาเป็นตำรวจคนแรกที่ทำให้ความฝันของผมเป็นความจริง ขึ้นมาได้
ไม่นึกว่าจะมีโอกาสกับตำรวจที่มีความชอบอย่างนี้ ผมจูบเขาเบาๆ
เขาเองก็สารภาพกับผมว่า เขาเองก็แอบมองผมมานาน
แต่ผมคงไม่รู้ตัวเขาว่าผมเดี๋ยวโผล่เดี๋ยวหายดูลึกลับ
แต่รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าผมอยู่ในสถานะใดเท่านั้น เขาพูดอายๆว่าอยากจะมีเซ็กซ์กับผมมานาน
‘’ผมอยากจะ…ให้พี่ทำกับผม เอ้อ…เหมือนกับที่ผมทำกับผู้หญิง..จะได้ไหมครับ…’’เขาหลบตาต่ำขณะที่พูดกับผม
‘’เพื่อความสุขของเรา ต้องทนเจ็บนะครับ…ครั้งแรก…เพื่อความสุขของเราสองคน’’
ผมกระซิบเขาเบาๆ
ที่ข้างหู พร้อมกับพลิกตัวเขานอนคว่ำลงกับที่นอนนุ่มผมค่อยๆทาบตัวลงบนเรือนกายของเขา
ใช้คางคลึงทั่วบริเวณแผ่นหลังไม่เว้นแม้แต่บั้นท้าย ผมเน้นฟันเบาๆ อย่างหยอกเอ็น
ดูเขาผ่อนคลายหลับตาพริ้ม
แต่แล้วเขาก็ต้องหายใจถี่ลึกอย่างตื่นเต้นเมื่อผมชโลมเควายเมื่อลิ่นเย็นลงบนช่องทางของเรา
พอผมเริ่มแทรกตัวลงไปเขาดิ้นน้อยๆ
ผมรีบสอดแขนลอดตัวล็อคเขาเอาไว้กันดิ้นเพราะผมรู้ว่าครั้งแรกของเขาอาจจะเจ็บจนดิ้น
ผมใช้คางกดบริเวณขอกคอไว้แน่น อารมณ์ผมตื่นเต้นที่ร่างของเขากางแผ่เต็มเตียงกว้าง
เขานอนคว่ำหน้ากัดหมอนแน่นผมบอกให้เขาทำตัวให้สบาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน
ไม่ต้องกลัว เพราะสิ่งนี้เป็นความสุขที่เขาปรารถนาและผมเองก็ยินดีมอบให้เขา
แต่ไม่ได้ผล เขายังเกร็งแน่นจนช่องทางอันคับแคบของเขาแทบปิดตาย
ผมชะงักการรุกเอาไว้แค่นั้น เขานิ่วหน้าสูดปากอย่างเจ็บปวด ‘’เจ็บมากไหมครับ
..งั้นพี่เอาออกนะคนดี’’ เขาส่ายหน้าน้ำตาปริ่ม ผมจูบปลอบใจเขาอย่างนุ่มนวล
ช่องทางกระตุกเป็นบางครั้ง ผมห่างเหินอารมณ์อย่างนี้มานาน
ผมซุกไซ้แผ่นหลังซอกคอตลอดไปจึงเนื้ออ่อนที่มีขนนุ่มดกหนาบริเวณซอกแชนของเขา
พลิ้วลิ้นเล่นกับใบหูนุ่มจนรู้ถึงการผ่อนคลายจากอาการเกร็ง ผมกระแทกพรวดทันที
บั้นท้ายเขาโยกไปตามแรงกระแทก ท่อนลำของผมฝังเข้าไปในเรือนกายงดงานจนมิด
เขาครางออกมาอย่างสุดทน ผมเสียงแปลบ อา มันแน่นกระชับจริงๆ
ผมแช่ไว้ชั่วขณะเพื่อให้ผมคุ้นเคย พอหายเจ็บเขาไหวกายน้อยๆคล้ายกับจะเตือนผม
ผมค่อยๆ กระโหย่งตัวขึ้นมา มันหนืดหนับตอดตุบๆ ผมเริ่มอย่างเนบช้าแต่หนักหน่วง
ทอดระยะจนเขาคุ้นเคยกับรสสัมผัสแล้วผมก้ห่มร่างลงบนบั้นท้ายเขาไม่ยั้ง
กล้ามเนื้อผมเกร็งไปทั้งตัว เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาทั้งๆที่อากาศเย็น
หูผมเอื้อเสียแล้วไม่สนใจ
เสียงครวญครางของเขาในขณะที่ผมขยับบั้นเอวส่งข้อลำเข้าออกอย่างไม่นับ’’พอ…แล้ว….ผมเจ็บ…เสียว…โอ๊ย’’
ผมยั้งตัวเองไม่ได้เสียแล้ว
กรามผมขบแน่นแต่ไม่ยอมหยุดไหวบั้นเอว ตัวเราทั้งสองร้อนเหมือนไฟ ลมหายใจร้อนผ่าว
ผมโหย่งตัวจนเกือบสุดแล้วกดกระแทกเข้าเต็มตัว
อัดร่างนั้นลงบนฟูกนุ่มอย่างไม่ยั้งปรานี เขาดิ้นพราดอย่างน่าสงสาร
ผมกดตรึงเขาไว้แน่น สักพักเขาหยุดการดิ้นรน ดูเหมือนว่าเขาจะลืมตัวเผลอยกบั้นท้ายงอนขึ้นรับการกระแทกอย่างหนักหน่วงของผมแก้มก้นของเขาโยกไปตามแรงอัด
มือของเขาเอื้อมลงไปคว้าแก่นกายของตัวเองรูดอย่างเร็วและรุนแรงสักครู่ผมมีความสุขเหมือนกับโลกจะหยุดข้อลำของผมสัมผัสถึงการรัดรึงอย่างรุนแรงจากช่องทางของเขาออกแล้วรูดอย่างเร็ว
มันพองตัวคับมือแรงเหวี่ยงสะโพกมากขึ้นเรื่อยๆทำให้แรงดึงดูดในช่องทางของเขารุนแรง
ไม่นานนักสิ่งที่ผมอัดอั้นมานานก็ทะลักออกมาจนล้น
ผมชาวาบไปทั้งร่างเหมือนโดนกระแสไฟอ่อนๆดูด
พร้อมๆกับการเกร็งตัวงอก่อนที่มมือของผมจะเปรอะด้วยเมือกข้นของเขา
ผมซบลงกับแผ่นหลังของเขา เราหายใจหอบฟิดฟาด ความสุขยังแล่นเป็นริ้วๆไปทั่วร่าง
รสหวานเจือเผ็ดร้อนอย่างนี้ผมไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆแน่ผมยังแช่ข้อลำไว้ในช่องอันอบอุ่น
เขาหลับตานิ่งผมก้มลงจูบเขาเบาๆ อย่างเอื้ออาทร
เขาลืมตายิ้มอย่างอ่อนระโหย ผมค่อยๆพลิกตัวเขาให้นอนหงายคนดีของผม …งามเหมือนเทพแกล้งปั้น
ผิวหม่นสวย ดวงตาใสซื่อรับกับเรียวคิ้วหนาเป็นปื้น
หากเป็นไปได้อยากกลืนทั้งตัวเพราะแรงเสน่หา ผมตัดใจจากร่างงามนั้นชั่วคราว
ใช้ผ้าหมาดชำระจนหมดจนสะอาดช่องทางของเขามีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ตามซอกคอและ
แผ่นอกมีรอยช้ำสีแดงผมจูบขอโทษเขาเบาๆ เขาคงเจ็บระบมเพราะเห็นนอนนิ่ง
ผมทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน ค้นเสื้อยืดเนื้อหนาให้กับเราสองคน
แม้จะเพลียบ้างแต่ยังไม่ว่างผมเอาหมอนมาอิงพักหลังที่หัวเตียงพร้อมกับดึงตัวเขามาเอนซบกับอก
ผมสูดกลิ่นหอมอ่อนบนเรือนกายเขาอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
เราอยู่ในอิริยาบถนั้นนานแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาหลับสนิทอยู่กับอกผม
ผมขยับตัวให้เขาเอนนอนในท่าที่สบาย เขาสะดุ้งผมจึงค่อยๆ
ระบายสื่อความรักออกเป็นไออุ่นให้เขากอดนอน ผมไม่กล้ากระดิกตัว เกรงจะรบกวนเขา
แสงไฟจากหัวเตียงส่องต้องวงหน้าอ่อนเยาว์ ผมมองเขาในยามหลับอย่างเอ็นดู
เขาหลับปุ๋ยเหมือนเด็ก หน้าผากเนียนสวยผิดผู้ชายอื่น เขานอนหายใจลึกสม่ำเสมอ
จากความรู้สึกที่ไม่เคยผูกพันกับใครมานานบัดนี้ ผมชักไม่แน่ใจตัวเองแล้ว
การกระทำที่เราร่วมกันทำเมื่อครู่นี้
ทำให้หัวใจผมหวั่นไหว แม้จะไว้ไปบ้างสำหรับคำว่า’’รัก’’ แต่ความรู้สึกนี้ของผมมีให้กับนายตำรวจคนนี้แล้วอย่างเต็มหัวใจ
ไม่ใช่แค่ทางผ่านเหมือนที่เคยเป็น การก่อตัวของความรู้สึกรักปรารถนาดี ห่วง หวง
เริ่มทวีขึ้นในหัวใจของผม อย่างท่วมท้นนับตั้งแต่วินาทีนั้น
โลกของผมเริ่มสว่างสดใส
สายสัมพันธ์เป้นไปอย่างต่อเนื่องไร้อุปสรรคแม้ว่าบางช่วงเวลาจะห่างกันบ้างก็เพราะหน้าที่การงาน
สิ่งนี้ก็ถือเป็นปกติไม่อาจนับเป็นอุปสรรคได้ เพื่อนนายตำรวจ ก็รับทราบว่าเราเป็น’’อะไร’’กันการวางตัวไม่มากไม่น้อยของเราสองคนจึงเป็นที่ยอมรับได้
ทุกฝ่ายให้เกียรติกัน เขาเป็นคนน่ารัก เป็นนักฟุตบอล
ของสถาบันซึ่งเล่นในตำแหน่งประตูเล่นมาตั้งแต่ครั้งยังเรียนที่สามพราน
จนเข้ารับราชการเขาก็ยังเล่นให้กับหน่วยงานอยู่ในขณะเดียวกัน
เขาก็สามารถร้องเพลงและเล่นดนตรีได้ทั้งไทยและสากลเขาเล่นกีตาร์ได้ดีพอๆกับฝีมือการตีระนาดทุ้ม
วันดีคืนดีเขาจะเล่นให้ผมฟังจนดึกดื่นกับหัวเมืองบ้านนอกจะเอาอะไรนักกันเล่าหือ…สงสารก็แต่เขาเท่านั้นที่ห่างบ้านห่างเพื่อนที่คุ้นเคยมาอยู่เสียไกล
ชั้นปีที่สองที่เรามมีสัมพันธ์กัน…ผมคิดถึงเขาจนแม้บัดนี้เราจะห่างกันก็ตาม
เขาชอบสื่อความรู้สึกด้วยระนาดทุ้มให้ผมฟังบ่อยๆ เวลาที่ผมกลับไปหาเขาเขาบอกว่า
คิดถึงจึงต้องระบายออกอย่างนี้ ฝากความรัก ความคิดถึงไปกับเดือน ดาว กับสายลม
เขาถามว่าผมเคยได้รับบ้างไหม …
ดึกกำดัดดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อย
ความหลังลอยล่องฟ้ามาแผ่วแผ่ว
สว่างไสวในฝันอันวาวแวว
หอมกลิ่นแก้วราตรีที่ริมรั้ว
นานเหลือเกิน…ไกลเหลือเกินที่เหินห่าง
ร่มลานกว้างแสงเดือนเลือนสลัว
ใบฝรั่งทางมะพร้าวเป็นเงามัว
เสาค้างพลูพิงครัวรากพัวพัน
คิดถึงตอนต่อกลอนสอนให้ร้อง
พี่สอนน้องว่าที่นี่มีสวรรค์
จะได้เตียงได้ตั่งเป็นรางวัล
จากพระจันทร์ถ้าจำหมั่นทำดี
เชือกชิงช้าไกวซ้อนผ่อนช้าช้า
เราจากมาไม่รู้อยู่ไหนนี่
ทั้งคนรักไหนจะบ้านอันเคยมี
เช็ดน้ำตาให้ข้าทีเถิดพระจันทร์….
ในที่สุดช่วงเวลาที่เราไม่อยากให้เกิดก็มาถึง
เขาแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่จัดหาให้อย่างขัดไม่ได้
เราทั้งสองต้องหม่นหมองกับการจัดการของผู้ใหญ่ในครั้งนี้
‘’ความรัก…คือการให้’’
ผมเชื่อในวลีนี้ หากจะคงสายสัมพันธ์เช่นเดิมเอาไว้ก็สามารถที่จะกระทำได้
ผมมีรักมีความใคร่ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะขาดสติ
การละเมิดของรักของหวงของผู้อื่นรังแต่จะทำให้เกียรติภูมิตนเองตกต่ำ
ดังนั้นผมจึงลอยตัวขึ้นเป็นพี่ที่แท้ตามภูมิ ……
เดือนปีจะเวียนผ่านไปกี่ครั้ง’’เขา’’จะไม่เป็นที่ลืมเลือนสำหรับผม….ตลอดไป….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น