วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ความรักคือการให้

              ผมขับไอ้ป๊อกไปช้าๆ อย่างสบายใจมองโน่นมองนี่ไปทั่ว แต่แล้วกระแสความนึกคิดของผมก็ต้องหยุดลงเมื่อสายตาไม่สะดุดกับชายหนุ่มหุ่นทะมัดทะแมงนายหนึ่งซึ่งกำลังเดินทอดน่องสบายใจโดยไม่กังวลกับดวงอาทิตย์ที่เริ่มลอยตัวต่ำลงทุกขณะผมชะลอรถถามเขาว่ากำลังจะไปที่ไหน เขาบอกว่ากำลังจะกลับเข้าตัวเมืองหลังจากออกมาวิ่งจนเหนื่อยดูมันก็น่าเหนื่อยอยู่ไม่น้อยเพราะถนนมีความยาวร่วม 5 กิโลเมตรได้ ผมเลยบอกเขาไปว่าหากไม่รังเกียจจะกลับเข้าตัวเมืองพร้อมกับผมไหม เขาไม่ตอบแต่ยิ้มสวยแล้วเดินฉากวูบอ้อมมาด้านหลังมอเตอร์ไซค์แล้ววาดขาคร่อมช้อนท้ายทันที กลิ่นเหงื่อปนสาบหนุ่มโชยมาอ่อนๆทำให้ผมมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทันที ตลอดระยะทางเราคุยกันน้อยมากเพราะเขาเป็นคนค่อนข้างเงียบ ก็เลยทราบเพียงแค่ว่าเขาเพิ่งมาเริ่มชีวิตการรับราชการที่นี่ เขาบอกว่าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปอยากจะรบกวนให้ผมไปส่งที่บ้านพักหลังกองกำกับด้วย ผมปฏิบัติตามด้วยความยินดี บ้านพักของเขาอยู่ด้านหลังกองกำกับซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างมืดแต่เป็นสัดส่วนดี ตัวบ้านเป็นเรือนไม้เดี่ยวสองชั้น ทาสีเทาคร่ำแต่ยังดูแข็งแรง เขาพักอยู่กับเพื่อนนายตำรวจอีกสองคนซึ่งอยู่ชั้นบน ส่วนเขาของห้องเดี่ยวข้างล่างด้วยเหตุผลว่ามันสะดวก เขาขอให้ผมอยู่คุยกับเขาก่อนเพราะเหงา โดยให้เหตุผลว่าก็ไปเข้าเวรกันหมดพรุ่งนี้สายๆถึงจะกลับ ตาโศกกลมโตจ้องผมนิ่ง ผมมีโอกาสพิจารณาเขาอย่างชัดเจนก็ตอนนี้เอง ตัดผมสั้นดูสะอาด โครงร่างสวยได้สัดส่วนเนื้อหนังแน่น ช่วงชาแข็งแรง แววตาโศกแต่ใสเหมือนตาเด็กความคิดของผมเตลิดไปไกลแล้วเขายังจ้องผมนิ่งเออนะ ..คนไกลบ้านไกลเพื่อนต้องมาอยู่ในที่นี่ตัวไม่คุ้ยเคย แปลกใหม่ทั้งที่อยู่ที่กินไปตลอดจนผู้คนด้วย ผมเองเคยรู้รสไกลบ้านเมื่อครั้งยังเยาว์ ความรู้สึกของผมมันย้อนวูบไปถึงตอนนั้นทันที ผมโอบไหล่เขาเบาๆ อย่างปลอบใจ เขาผวาซุกกับอกผมแน่น ตัวสะท้าน ‘’ เป็นอะไรไปครับ’’ ผมกระซิบถามเขาเบาๆ ‘’ พี่ครับผมคิดถึงบ้าน’’ ด้วยคำตอบนี้ ผมรวบตัวเขาเข้ามากอดแน่นแล้วลูบหัวเบาๆ อย่างปลอบโยน ผมขบกรามแน่น….เมื่อหลายปีก่อนผมเคยมีสภาพอย่างนี้ ต้องระเห็จไปเรียนไกลบ้าน ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากครอบครัวขาดหายไปในช่วงหนึ่งของชีวิต ผมโหยหาสิ่งนี้มาตลอด เขาเองก็คงไม่แตกต่างกันนัก ในโลกของความเป็นจริงคนคงมองเขาอย่างขื่มขมในความเข้มแข็งและความมีเสน่ห์ต้องตาของนายตำรวจหนุ่มน้อย แต่พอพ้นสายตาของสังคม เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองอีกแล้ว ฟ้ามืดแล้ว....อากาศเย็นลงทุกขณะ แต่ตัวเขากลับอุ่นจัด ร่างกายของเราทั้งสองใกล้ชิดกันจนผมสามารถรีบรู้ถึงปฏิกิริยาของอวัยวะบางส่วนได้ มันเกร็งอัดแน่นบริเวณต้นขาส่วนหน้าของผมเขาไหลกายน้อยๆคล้ายกับลองเชิงผมประคองใบหน้าเขาให้เงยขึ้นตาใสของเขาหรี่ประสานกับผมนิ่งเหมือนที่เคยเป็นปากหนาอิ่มได้รูปเผยเล็กน้อย ผมประทับจูบเบาๆไล้แนวจูบไปทั้งเรียวหน้า กระชับร่างหนันหยุ่นเต็มอ้อม มันเหมือนฝันผมเคยคิดอย่างนั้นนานมาแล้ว ผมเคยปรารถนาอยากจะมีรักกับคนในเครื่องแบบ แต่นี่มันไวจนผมตั้งตัวไม่ทัน แต่เอาวะคืนนี้ขอฟาดตำรวจสักครั้งเป็นไรเป็นกันรสเนื้อจะแผกไปจากเนื้ออื่นใดที่ผมเคยลิ้มมาแค่ไหน จะเผ็ดร้อนหรือหวานสนิทเดี๋ยวก็รู้กัน ผมเลยตอบเขาไปว่า หากไม่รังเกียจคืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อน เขาตอบรับอย่างดีใจแล้วขอตัวอาบน้ำ ผมไม่อยากจะให้อารมณ์สะดุดจึงขออาบน้ำพร้อมกัน เขาไม่ตอบ แต่ถอดรองเท้าถึงเท้ากับชุดวิ่งออกไม่เหลือแม้แต่กางเกงชั้นในผมตะลึงไปชั่วขณะ อืมม์เห็นเงียบๆอย่างนี้ร้อนน่าดู เพื่อไม่ให้เสียเชิงผมรีบปฏิบัติตามทันที ไม่เห็นเป็นไรนี่ ช่วงที่ผมเล่นกีฬาเสร็จ ว่ายน้ำเสร็จก็แก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนๆอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างสำรวจกันและกันแล้วหัวเราะ เราผลัดกันทำความสะอาดน้ำเย็นเฉียบจนโอ้เอ็ไม่ได้ ผมเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบตัวเขาเหมือนเด็กแล้วอุ้มเขาไปโยนลงบนเตียงนุ่ม เช็ดตัวเช็ดผมของเขาจนแห้งดีแล้วค่อยจัดการกับตัวเอง ผมสะท้านเพราะความเย็นของอากาศ ‘’เข้ามาในโป่งผ้าห่มกับผมเร็วซิ….เดี๋ยวเป็นไข้ไม่รู้ด้วย’’ ผมรีบมุดเข้าไปทันที เสียงลมพัดอู้ข้างนอกต้นก้ามปูไหวซ่าๆ แต่มันไม่ทำให้เราสองคนรู้สึกหนาว มันกลับอุ่นไปถึงหัวใจ ภายใต้ผ้านวมที่มีร่างอุ่นที่ผมคะนึงหามาตลอดในหลายปี ความอบอุ่นระบายออกมาจากเรือนกายของเราจนเนื้อเนียนให้ความรู้สึกละมุนอ่อนโยน ผมซึบซาบรสสัมผัสอย่างเป็นสุข เขาเบียดตัวโอบซุกกับอกผมแน่น อารมณ์ของผมเพริดเกินยั้งแล้ว กลิ่นเนื้อหนุ่มสะอาดโชยกรุ่น ผมพลิกตัวเขาไว้ด้านหลัง ดูท่าทางเขาอึดอัดกับน้ำหนักตัวของผมที่ทาบสนิทอยู่บนเรือนกาย แต่ก็ไม่ดิ้นรน ลิ้นอุ่นของผมฉกวูบลงที่ดิ่งยอดอกแน่นได้รูป เขาหดตัวดิ้นอึกอักแต่ผมกดตรึงไว้แน่น ผมรวบแขนของเขาเอาไว้บนศีรษะ ก่อนที่จะขยี้ปากและจมูกลงบนกลุ่มขนนุ่มซอกแขนของเขา กลิ่นอ่อนของมันที่อวดออกมาทำให้ผมต้องซุกไซ้อย่างเมามันมันเป็นกลิ่นฟีโรโมนที่ผมชอบ เพราะมันแสดงความเป็นเพศผู้ได้อย่างชัดเจนจนเสียครวญครางของเขาทำให้ผมมั่นใจว่าคลำเป้าเจอแล้ว เนื้อตัวของเขากระตุกเกร็งแน่น กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นท้องที่เต็มไปด้วยขนอูยเกร็งขึ้นเป็นลูกอย่างชัดเจนอวัยวะบางส่วนผมผงกหงึกกงักอย่างรุนแรง หัวใจผมแทบหยุดเต้น เมื่อเขาเริ่มตอบโต้ ปากหนาอิ่มได้รูปของเขาควานหาปากผมจนเจอ เขาประทับปากแนบแน่นอย่างกระหาย ปล่อยให้อารมณ์ก่อตัวขึ้นมาช้าๆ แต่หนักแน่น ตาสวยหรี่ปรือมืออุ่นของเขาลูบไล้ท่อนลำที่แข็งแกร่งของผมซึ่งแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ทุกขณะ ตัวผมสั่นเทิ้มด้วยแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน สะโพกผมเริ่มไหวตามแรงกระตุ้นจากมือแข็งแรงของเขา เชาเน้นอย่างมีจังหวะจนผมผวาเฮือก ผมโอบรัดเขาแน่น ค่อยลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเรื่อยไปตามสะโพกแน่นเครียดเหมือนม้าศึก ผมเน้นมืออย่างมันเขี้ยว ซุกไซ้ทั่วร่างเขาอย่างเมามัน เขาสะดุ้งเมื่อผมเริ่มดูดดื่มท่อนลำสวยได้รูปของเขา มันผงกตัวรุนแรงคะนองเหมือนมาหนุ่ม เกรงแน่นเสียจนเส้นเลือดปูดโปนชัดเจน ‘’ พี่ครับผมรักพี่…’’ เขาเพ้อขณะที่มือเขาลูบไล้อยู่บนศีรษะผมอย่างรัญจวน ผมรุกอย่างได้ใจสะโพกที่ปิดไหวของเขาต้องกระตุกเกร็ง เมื่อผมสอดนิ้วเข้าตามรอยผ่าด้านหลังลึกเข้าไปจนสุดแล้วขยับเข้าออกอย่างสอดคล้องกับปากผมที่ทำงานอย่างลดล่ะผมค่อยๆหมุนตัวปรับองศาจนข้อลำของผมอยู่ในระดับที่เขาสามารถดูดดื่มของผมได้ เขาเม้มตอบได้อย่างรู้จังหวะ จนคราวนี้ผมต้องเป็นฝ่ายเกร็งบ้าง ‘’ พอ….พอก่อนครับคนดี..พี่จะไม่ไหวแล้ว’’ ผมคร่ำครวญ หยุดจองเวรกับเขาชั่วขณะพลิกตัวกลับมาพ่อนฟัดร่างหนั่นหยุ่นของเขาอย่างหลงไหล ผมใช้ร่างของผมแทนผ้าห่ม คลุมลงไปบนร่างของเขา เราคุยกันเพื่อยืดเวลาแห่งความสุขออกไปให้นานเท่าที่อดทนของเราจะมี ผมบอกกับเขาว่า ผมเคยฝันอยากจะมีรักกับตำรวจสักคนมานานแล้วแต่ก็เป็นแค่ความรุ้สึกที่เก็บเอาไว้ภายในเท่านั้น เขาเป็นตำรวจคนแรกที่ทำให้ความฝันของผมเป็นความจริง ขึ้นมาได้ ไม่นึกว่าจะมีโอกาสกับตำรวจที่มีความชอบอย่างนี้ ผมจูบเขาเบาๆ เขาเองก็สารภาพกับผมว่า เขาเองก็แอบมองผมมานาน แต่ผมคงไม่รู้ตัวเขาว่าผมเดี๋ยวโผล่เดี๋ยวหายดูลึกลับ แต่รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าผมอยู่ในสถานะใดเท่านั้น เขาพูดอายๆว่าอยากจะมีเซ็กซ์กับผมมานาน ‘’ผมอยากจะให้พี่ทำกับผม เอ้อเหมือนกับที่ผมทำกับผู้หญิง..จะได้ไหมครับ…’’เขาหลบตาต่ำขณะที่พูดกับผม ‘’เพื่อความสุขของเรา ต้องทนเจ็บนะครับครั้งแรกเพื่อความสุขของเราสองคน’’ ผมกระซิบเขาเบาๆ ที่ข้างหู พร้อมกับพลิกตัวเขานอนคว่ำลงกับที่นอนนุ่มผมค่อยๆทาบตัวลงบนเรือนกายของเขา ใช้คางคลึงทั่วบริเวณแผ่นหลังไม่เว้นแม้แต่บั้นท้าย ผมเน้นฟันเบาๆ อย่างหยอกเอ็น ดูเขาผ่อนคลายหลับตาพริ้ม แต่แล้วเขาก็ต้องหายใจถี่ลึกอย่างตื่นเต้นเมื่อผมชโลมเควายเมื่อลิ่นเย็นลงบนช่องทางของเรา พอผมเริ่มแทรกตัวลงไปเขาดิ้นน้อยๆ ผมรีบสอดแขนลอดตัวล็อคเขาเอาไว้กันดิ้นเพราะผมรู้ว่าครั้งแรกของเขาอาจจะเจ็บจนดิ้น ผมใช้คางกดบริเวณขอกคอไว้แน่น อารมณ์ผมตื่นเต้นที่ร่างของเขากางแผ่เต็มเตียงกว้าง เขานอนคว่ำหน้ากัดหมอนแน่นผมบอกให้เขาทำตัวให้สบาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ไม่ต้องกลัว เพราะสิ่งนี้เป็นความสุขที่เขาปรารถนาและผมเองก็ยินดีมอบให้เขา แต่ไม่ได้ผล เขายังเกร็งแน่นจนช่องทางอันคับแคบของเขาแทบปิดตาย ผมชะงักการรุกเอาไว้แค่นั้น เขานิ่วหน้าสูดปากอย่างเจ็บปวด ‘’เจ็บมากไหมครับ ..งั้นพี่เอาออกนะคนดี’’ เขาส่ายหน้าน้ำตาปริ่ม ผมจูบปลอบใจเขาอย่างนุ่มนวล ช่องทางกระตุกเป็นบางครั้ง ผมห่างเหินอารมณ์อย่างนี้มานาน ผมซุกไซ้แผ่นหลังซอกคอตลอดไปจึงเนื้ออ่อนที่มีขนนุ่มดกหนาบริเวณซอกแชนของเขา พลิ้วลิ้นเล่นกับใบหูนุ่มจนรู้ถึงการผ่อนคลายจากอาการเกร็ง ผมกระแทกพรวดทันที บั้นท้ายเขาโยกไปตามแรงกระแทก ท่อนลำของผมฝังเข้าไปในเรือนกายงดงานจนมิด เขาครางออกมาอย่างสุดทน ผมเสียงแปลบ อา มันแน่นกระชับจริงๆ ผมแช่ไว้ชั่วขณะเพื่อให้ผมคุ้นเคย พอหายเจ็บเขาไหวกายน้อยๆคล้ายกับจะเตือนผม ผมค่อยๆ กระโหย่งตัวขึ้นมา มันหนืดหนับตอดตุบๆ ผมเริ่มอย่างเนบช้าแต่หนักหน่วง ทอดระยะจนเขาคุ้นเคยกับรสสัมผัสแล้วผมก้ห่มร่างลงบนบั้นท้ายเขาไม่ยั้ง กล้ามเนื้อผมเกร็งไปทั้งตัว เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาทั้งๆที่อากาศเย็น หูผมเอื้อเสียแล้วไม่สนใจ เสียงครวญครางของเขาในขณะที่ผมขยับบั้นเอวส่งข้อลำเข้าออกอย่างไม่นับ’’พอแล้ว….ผมเจ็บเสียวโอ๊ย’’ ผมยั้งตัวเองไม่ได้เสียแล้ว กรามผมขบแน่นแต่ไม่ยอมหยุดไหวบั้นเอว ตัวเราทั้งสองร้อนเหมือนไฟ ลมหายใจร้อนผ่าว ผมโหย่งตัวจนเกือบสุดแล้วกดกระแทกเข้าเต็มตัว อัดร่างนั้นลงบนฟูกนุ่มอย่างไม่ยั้งปรานี เขาดิ้นพราดอย่างน่าสงสาร ผมกดตรึงเขาไว้แน่น สักพักเขาหยุดการดิ้นรน ดูเหมือนว่าเขาจะลืมตัวเผลอยกบั้นท้ายงอนขึ้นรับการกระแทกอย่างหนักหน่วงของผมแก้มก้นของเขาโยกไปตามแรงอัด มือของเขาเอื้อมลงไปคว้าแก่นกายของตัวเองรูดอย่างเร็วและรุนแรงสักครู่ผมมีความสุขเหมือนกับโลกจะหยุดข้อลำของผมสัมผัสถึงการรัดรึงอย่างรุนแรงจากช่องทางของเขาออกแล้วรูดอย่างเร็ว มันพองตัวคับมือแรงเหวี่ยงสะโพกมากขึ้นเรื่อยๆทำให้แรงดึงดูดในช่องทางของเขารุนแรง ไม่นานนักสิ่งที่ผมอัดอั้นมานานก็ทะลักออกมาจนล้น ผมชาวาบไปทั้งร่างเหมือนโดนกระแสไฟอ่อนๆดูด พร้อมๆกับการเกร็งตัวงอก่อนที่มมือของผมจะเปรอะด้วยเมือกข้นของเขา ผมซบลงกับแผ่นหลังของเขา เราหายใจหอบฟิดฟาด ความสุขยังแล่นเป็นริ้วๆไปทั่วร่าง รสหวานเจือเผ็ดร้อนอย่างนี้ผมไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆแน่ผมยังแช่ข้อลำไว้ในช่องอันอบอุ่น เขาหลับตานิ่งผมก้มลงจูบเขาเบาๆ อย่างเอื้ออาทร  เขาลืมตายิ้มอย่างอ่อนระโหย ผมค่อยๆพลิกตัวเขาให้นอนหงายคนดีของผม งามเหมือนเทพแกล้งปั้น ผิวหม่นสวย ดวงตาใสซื่อรับกับเรียวคิ้วหนาเป็นปื้น หากเป็นไปได้อยากกลืนทั้งตัวเพราะแรงเสน่หา ผมตัดใจจากร่างงามนั้นชั่วคราว ใช้ผ้าหมาดชำระจนหมดจนสะอาดช่องทางของเขามีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ตามซอกคอและ แผ่นอกมีรอยช้ำสีแดงผมจูบขอโทษเขาเบาๆ เขาคงเจ็บระบมเพราะเห็นนอนนิ่ง ผมทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน ค้นเสื้อยืดเนื้อหนาให้กับเราสองคน แม้จะเพลียบ้างแต่ยังไม่ว่างผมเอาหมอนมาอิงพักหลังที่หัวเตียงพร้อมกับดึงตัวเขามาเอนซบกับอก ผมสูดกลิ่นหอมอ่อนบนเรือนกายเขาอย่างไม่รู้สึกเบื่อ เราอยู่ในอิริยาบถนั้นนานแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาหลับสนิทอยู่กับอกผม ผมขยับตัวให้เขาเอนนอนในท่าที่สบาย เขาสะดุ้งผมจึงค่อยๆ ระบายสื่อความรักออกเป็นไออุ่นให้เขากอดนอน ผมไม่กล้ากระดิกตัว เกรงจะรบกวนเขา แสงไฟจากหัวเตียงส่องต้องวงหน้าอ่อนเยาว์ ผมมองเขาในยามหลับอย่างเอ็นดู เขาหลับปุ๋ยเหมือนเด็ก หน้าผากเนียนสวยผิดผู้ชายอื่น เขานอนหายใจลึกสม่ำเสมอ จากความรู้สึกที่ไม่เคยผูกพันกับใครมานานบัดนี้ ผมชักไม่แน่ใจตัวเองแล้ว การกระทำที่เราร่วมกันทำเมื่อครู่นี้  ทำให้หัวใจผมหวั่นไหว แม้จะไว้ไปบ้างสำหรับคำว่า’’รัก’’ แต่ความรู้สึกนี้ของผมมีให้กับนายตำรวจคนนี้แล้วอย่างเต็มหัวใจ ไม่ใช่แค่ทางผ่านเหมือนที่เคยเป็น การก่อตัวของความรู้สึกรักปรารถนาดี ห่วง หวง เริ่มทวีขึ้นในหัวใจของผม อย่างท่วมท้นนับตั้งแต่วินาทีนั้น โลกของผมเริ่มสว่างสดใส สายสัมพันธ์เป้นไปอย่างต่อเนื่องไร้อุปสรรคแม้ว่าบางช่วงเวลาจะห่างกันบ้างก็เพราะหน้าที่การงาน สิ่งนี้ก็ถือเป็นปกติไม่อาจนับเป็นอุปสรรคได้ เพื่อนนายตำรวจ ก็รับทราบว่าเราเป็น’’อะไร’’กันการวางตัวไม่มากไม่น้อยของเราสองคนจึงเป็นที่ยอมรับได้ ทุกฝ่ายให้เกียรติกัน เขาเป็นคนน่ารัก เป็นนักฟุตบอล ของสถาบันซึ่งเล่นในตำแหน่งประตูเล่นมาตั้งแต่ครั้งยังเรียนที่สามพราน จนเข้ารับราชการเขาก็ยังเล่นให้กับหน่วยงานอยู่ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถร้องเพลงและเล่นดนตรีได้ทั้งไทยและสากลเขาเล่นกีตาร์ได้ดีพอๆกับฝีมือการตีระนาดทุ้ม วันดีคืนดีเขาจะเล่นให้ผมฟังจนดึกดื่นกับหัวเมืองบ้านนอกจะเอาอะไรนักกันเล่าหือสงสารก็แต่เขาเท่านั้นที่ห่างบ้านห่างเพื่อนที่คุ้นเคยมาอยู่เสียไกล ชั้นปีที่สองที่เรามมีสัมพันธ์กันผมคิดถึงเขาจนแม้บัดนี้เราจะห่างกันก็ตาม เขาชอบสื่อความรู้สึกด้วยระนาดทุ้มให้ผมฟังบ่อยๆ เวลาที่ผมกลับไปหาเขาเขาบอกว่า คิดถึงจึงต้องระบายออกอย่างนี้ ฝากความรัก ความคิดถึงไปกับเดือน ดาว กับสายลม เขาถามว่าผมเคยได้รับบ้างไหม
ดึกกำดัดดาวเดือนก็เคลื่อนคล้อย
ความหลังลอยล่องฟ้ามาแผ่วแผ่ว
สว่างไสวในฝันอันวาวแวว
หอมกลิ่นแก้วราตรีที่ริมรั้ว
นานเหลือเกินไกลเหลือเกินที่เหินห่าง
ร่มลานกว้างแสงเดือนเลือนสลัว
ใบฝรั่งทางมะพร้าวเป็นเงามัว
เสาค้างพลูพิงครัวรากพัวพัน
คิดถึงตอนต่อกลอนสอนให้ร้อง
พี่สอนน้องว่าที่นี่มีสวรรค์
จะได้เตียงได้ตั่งเป็นรางวัล
จากพระจันทร์ถ้าจำหมั่นทำดี
เชือกชิงช้าไกวซ้อนผ่อนช้าช้า
เราจากมาไม่รู้อยู่ไหนนี่
ทั้งคนรักไหนจะบ้านอันเคยมี
เช็ดน้ำตาให้ข้าทีเถิดพระจันทร์….
ในที่สุดช่วงเวลาที่เราไม่อยากให้เกิดก็มาถึง เขาแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่จัดหาให้อย่างขัดไม่ได้ เราทั้งสองต้องหม่นหมองกับการจัดการของผู้ใหญ่ในครั้งนี้

‘’ความรักคือการให้’’ ผมเชื่อในวลีนี้ หากจะคงสายสัมพันธ์เช่นเดิมเอาไว้ก็สามารถที่จะกระทำได้ ผมมีรักมีความใคร่ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะขาดสติ การละเมิดของรักของหวงของผู้อื่นรังแต่จะทำให้เกียรติภูมิตนเองตกต่ำ ดังนั้นผมจึงลอยตัวขึ้นเป็นพี่ที่แท้ตามภูมิ …… เดือนปีจะเวียนผ่านไปกี่ครั้ง’’เขา’’จะไม่เป็นที่ลืมเลือนสำหรับผม….ตลอดไป….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น