คืนหนึ่งที่ผมจำได้แม่นเสมอไม่เคยลืมเลือนไปจากความทรงจำ
ผมซ้อมกีฬากลับหอดึก ทุกคนคงจะหลับกันหมดแล้วเพราะหอเงียบสงัดจริงๆ
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าได้ขึ้นไปยืนอยู่หน้าห้องของพี่เป้าตั้งแต่เมื่อไหร่
‘’พี่เป้าหลับหรือยังครับ’’ ผมกระซิบกับข้างฝาเบาๆ ‘’แก้วใช่ไหม?’’ เสียงพี่เป้าสวนออกมาพร้อมกับบานประตูที่ค่อยเปิดออก
พี่เป้าอยู่ในชุดที่แสนจะเซ็กซี่เช่นทุกครั้ง
‘’ พี่นอนไม่หลับ พี่รอแก้วอยู่ไง อากาศก็ร้อนด้วย
พี่จะอาบน้ำพร้อมกับแก้วอีก วันนี้เราผลัดกันถูขี้ไคลนะ ’’
ในห้องน้ำมีเพียงแค่เราสองคนแสงไฟจากหน้าหอพักสาดเข้ามาสลัวๆ
เราฟอกสบู่ให้กันและกัน พี่เป้าเล่นพิเรนทร์ฟอกสบู่ที่เจ้าหนูของผมจนฟองท่วมไปหมด
เจ้าหนูชูหัวผงาดผมบอกให้เลิกฟอกพี่เป้าก็ไม่เชื่อ
แล้วยังจับมือของผมไปกำกับท่อนเนื้อท่อนใหญ่ของเขาไว้ ผมนึกสนุกจึงเล่นกับเขาบ้างใจผมหวิวๆคล้ายๆกับจะลอยไปจากร่าง
มันมีความรู้สึกดื่มด่ำอย่างประหลาดช่างต่างจากตอนที่ผมไปสนามหลวงด้วยตนเองลิบลับ
ปากเขาพรมจูบไปทั่วใบหน้า แต่มือก็รูดเขารูดออกอยู่อย่างนั้น ปากเขาพร่ำบอกว่า ‘’ พี่รักแก้ว… หลงแก้ว…ตั้งแต่วันแรกเจอ…แต่พี่ไม่กล้า
’’ ผมไม่ได้พูดอะไรเป็นไงเป็นกัน
แรงกดดันภายในพลุ่งพล่านสะท้านไปทั้งร่างในที่สุดก็ระเบิดออกมา
ราดรดเต็มหน้าท้องของเขา สองแขนกอดคอของเขาไว้แน่น หมดแรงที่จะทรงตัวอยู่ได้
แต่พี่เป้ายังไม่เสร็จเขาเอาน้ำราดตัวแล้วค่อยๆกดหัวของผมต่ำลงๆไปจนถึงท่อนเอ็นแต่ช่างลำบากเหลือเกินด้วยไม่เคย
ปากของเขาพร่ำสอนอยู่ตลอดเวลา ’’ ใช่แล้ว…เอ้อ…อย่างนั้น….’’ เขาซี๊ดปากอย่างมีความสุข
มิได้กลัวเลยว่าใครจะได้ยิน บั้นเอวของเขาเด้งหน้าเด้งหลังเป็นจังหวะในขณะที่ปากของผมโลมเลีย
รูดเขารูดออก ทำไมถึงได้สุขอย่างนี้ชาตินี้เราคงไม่วันลืมจนวันตาย
เสียงพี่เป้าซี๊ดปากดังลั่น แต่ทันใดนั้น แสงไฟจากเพดาน หน้าห้องน้ำก็สว่างขึ้น
ผมรีบชักปากออกด้วยความตกใจพร้อมกันนั้นพี่เป้าก็ถึงจุดสุดยอดพอดี น้ำสีขาวขุ่นข้นพุ่งเข้าเต็มใบหน้าโชคดีที่นิสิตคนนั้นไม่ได้มองเข้ามาในห้องน้ำ
ยืนหันหลังยิงกระต่ายอยู่ตรงช่องปัสสาวะ พี่เป้ารีบเทน้ำราดตัว
ผมใช้สบู่ฟอกล้างหน้า คืนนี้ผมไม่ได้กลับห้อง
ผมค้างกับพี่เป้าทั้งคืนได้รับรู้ถึงรสของความเจ็บ ความเสียว การกระแทกกระทั้นที่เป็นจังหวะเนิบช้าและถี่เร็ว
นุ่มนวลและหนักแน่น จากลำอวัยวะขนาดงามที่อัดแน่นกับบั้นท้าย ลูกสูบขักเข้าออกเสื้อสูบสั่นสะท้านด้วยความผิดขนาด
อาศัยโลชั่นยี่ห้อดังเป็นน้ำมันหล่อลื่นเสียงหน้าขากระทบบั้นท้ายเสียงดังน่าฟัง
เหงื่อชุ่มไปทั่วร่างลมหายใจอุ่นราดรดแผ่นหลัง เสียงพร่ำพรรณนาแต่คำหวานหู
ปลานลิ้นฉวัดเฉวียนไปทั่ว เสียงเตียงเล่นเอี๊ยดอ๊าด แต่ไม่มีใครสนใจ
สองเราที่มีหมายร่วมกันคือความสุดยอด
จัวหวะเริ่มเร่งถี่เสียงพูดไม่เป็นภาษาไม่เป็นภาษาแล้วในที่สุดผมก็ได้รับรู้ถึงของเหลวที่พุ่งแทรกเข้าไปในร่างเกิดความอบอุ่นอย่าง
ประหลาด พี่เป้าทุ่มน้ำหนักตัวทั้งหมดที่ตัวของผมซบอยู่อย่างนั้นเป็นนาน
จึงตะแคงตัวทำตาเจ้าชู้ จูบขวัญที่หน้าผาก
เขาไม่เคยเอาเปรียบเลยเขาพรมจูบแล้วใข้ปากช่วยผมด้วยความชำนิชำนาญ
รุ่งเช้าผมรู้สึกเจ็บ พี่เป้าดูจะมีอารมณ์ร่วมอีก เพราะเจ้าเสือร้ายของเขาชูหัวท้าทาย
แต่ผมบอกว่าผมเจ็บมากเขาบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอก เขาอาบน้ำแต่งตัว
ไปฟังเล็คเชอร์ แล้วกลับมาพร้อมกับข้าวห่อ ผมนอนอมยิ้มอยู่ทั้งวัน เขาดีกับผมมาก
เวลาผมไปแข่งกีฬาเขาก็จะไปเชียร์เสมอ ผมจะเล่นได้ดีทุกครั้งที่เขาไปชม
ถึงจะแพ้แต่วันนั้นก็เล่นได้ดีจริงๆ เรามีความสุขด้วยกันเสมอเมื่อมีโอกาส
มันช่างเป็นยาเสพติดชนิดเยี่ยมจริงๆหนึ่งปีที่เรามีอะไรๆกัน
จะติดตราตรึงไปนานเท่านาน หนึ่งปีที่แสนสั้น
ผมไปส่งพี่เป้าที่สถานีประจำทางแล้วพี่เป้าก็ได้พูดในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า
‘’พี่เป้ารักแก้วมากแต่แก้วน่าจะรู้ดีว่ามันผิดธรรมชาติ
เมื่อแก้วไม่มีพี่เป้าแล้ว อย่ามีผู้ชายอื่นอีก รักผู้หญิงที่ถูกตาต้องใจแก้วสักคน
รักหล่อนเหมือนกับที่แก้วรักพี่ เรียนจบแล้วแต่งงานกับหล่อน มีลูกด้วยกัน
สร้างฐานะให้มั่นคง ส่วนพี่จะไม่มีวันลืมแก้ว
น้องชายที่แสนดีคนนี้เลยตราบชั่วชีวิต’’ น้ำตาลูกผู้ชายอย่างผมไหลพรากด้วยความไม่เข้าใจ
พูดอะไรไม่ออก ด้วยความอัดอั้นตันใจ ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้
ในเมื่อเขาสอนให้แก้วได้รู้รสของชีวิตในรูปนี้แล้วเขาก็บอกให้เลิกเสียเอง
เขาจูบลาเบาๆ ก้าวขึ้นรถพร้อมกับสั่งว่าอย่าลืมที่พี่บอก
แล้วอย่าร้องไห้อายคนเขาผมนั่งเหม่อลอยอย่างหมดหวังรถแล่นสุดสายตามองเห็นแต่เพียงม่านน้ำตาที่ไหลริน’’ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้’’….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น