วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผีเสื้อปีกหัก

ในวันหนึ่งซึ่งเป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ผมนอนตื่นสายมาก และก็ไปยืนที่หน้าต่างเพื่อสูดอากาศที่อบอุ่น พอมองออกไปเห็นหน้าต่างที่ข้างบ้านเปิดอยู่ ผมก็ต้องขยี้ตาของตัวเองจนหายงัวเงียเพราะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง แต่มันก็เห็นจริงๆ ผมเห็นชายหนุ่มหน้าตาพอไปวัดไปวาได้ รูปร่างถูกสเปค นอนเปลือยกาย กำลังใช้นางทั้งห้า พาตัวเองขึ้นสวรรค์อยู่คนเดียว ผมก็เพิ่งจะอายุ 16 ปีเอง ประสบการณ์ทางเพศก็ไม่มีจึงใจสั่น ปากสั่น และขาก็สั่นไม่เป็นจังหวะ ได้แต่ยืนมองตาไม่กระพริบ พอดูได้สักครู่เขาก็ด่วนขึ้นสวรรค์ไปก่อน ผมยังคงยืนดูเขาอยู่ด้วยความหลงไหล พอดีเขามองมาเห็นผมยืนดูเขาอยู่เขาอายและรีบลุกขึ้นแล้วออกจากห้องนอน ผมยังคงยืนอยู่ที่หน้าต่างด้วยความเสียดายพอตอนเย็นผมกำลังจะอาบน้ำแต่เหตุการณ์เมื่อเช้ามันจูงใจผมให้เดินไปที่หน้าต่างมองออกไปเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังเก็บผ้าที่ราว พอเขาเห็นผม ผมก็ยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรและเขาก็ยิ้มให้ผม ผมได้โอกาสเพราะหัวใจเรียกร้อง ปากจึงโดนใจบังคับให้พูดว่า ‘’ผมชอบดูพี่แบบเมื่อเช้าจังเลย’’ เขายิ้มอีก ตาของเขาทที่มองผมเหมือนกับกำลังจะบอกอะไรสักอย่างแล้วเขาก็พูดขึ้นว่า’’เดี๋ยวมาบ้านพี่นะพี่อยู่คนเดียว ‘’’ ผมดีใจอาบน้ำแต่งตัว และเดินไปกดกริ่งที่บ้านเขา( บ้านเขาเป็นบ้านเช่า พี่พรเขาเช่าอยู่) ผมมองเข้าไปเห็นเขานุ่งผ้าขนหนูสีเขียวอ่อนเดินออกมาเปิดประตูให้ ผมสงสัยจึงถามพี่เขาว่า พี่พรย้ายไปแล้วหรือคับ เขาตอบว่า ‘’ พี่เป็นน้องของพี่พร ชื่อต้อม อยู่นครพนมตอนนี้มาเยี่ยมพี่’’ พอพูดจบเขาก็จัดการกับเสื้อผ้าผม ผมใจหวิวๆบอกไม่ถูกแล้วก็ดึงผ้าขนหนูของเขาหลุดลงไปกองกับพื้น ทำให้ผมเห็นร่างกายอันงดงานของเขาแล้ว เขาก็ทำแบบเมื่อเช้าให้ผมดู ผมจึงเกิดอารมณ์ร้อนแรงขึ้นมาแล้วพี่ต้อมก็ยืนขึ้นกอดผม เขาสอนการจูบให้ผม และพี่ต้อมก็บอกให้ผมนั่งคุกเข่าแล้วใช้ปากกับของเขาผมมองความใหญ๋โตที่เขาจะให้ผมทำให้แต่ผมทำไม่เป็นเขาบอกให้ผมใช้ลิ้นและอมผมจึงทำตาม และเริ่มชำนาญขึ้นและเร็วขึ้นจนพี่ต้อมบิดตัวแล้วครางเบาๆ แล้วพี่ต้อมก็ทำให้ผมบ้าง เขาทำเก่งมากผมลืมตัวจิกหัวพี่ต้อมจนพี่ต้อมร้องว่าเจ็บ และแล้วเราทั้งสองก็พากันขึ้นสวรรค์หลายครั้ง เราทั้งสองล้มตัวลงนอนแต่พอผมเห็นนาฬิกาบอกเวลา 3 ทุ่มกว่าจึงขอพี่ต้อมกลับบ้าน แต่ใจยังไม่อยากกลับ ผมมีความสุขมาก ทั้งคืนผมนอนไม่หลับ ‘’ หลงรักพี่ต้อมแล้วซิเรา’’ พอวันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ผมต้องรีบไปโรงเรียน เรียนก็ไม่สนใจ นั่งใจลอย เวลามันช่างช้าเหลือเกิน พอโรงเรียนเลิกผม ก็รีบกลับบ้าน พอลงรถเมล์ผมพบกับพี่ต้อมยืนคอยผมแต่ถือกระเป๋าใบใหญ่ ผมจึงถามว่า ‘’พี่ต้อมจะกลับบ้านแล้วหรือคับ ‘’ พี่ต้อมบอกว่า’’พี่ต้องกลับเพราะหมดธุระทางนี้แล้ว ขอบใจมากเรื่องเมื่อวานนี้’’ ผมตอบว่า ‘’ผมไม่มีวันลืมเรื่องเมื่อวานเลยคับ ‘’ พี่ต้อมมองตามผมด้วยความสงสารแล้วพูดว่า’’ขอให้น้องลืมพี่เสียเถิด เพราะพี่มีลูกเมียแล้ว’’ ผมยืนนิ่งมองตาพี่ต้อม และผมก็ระงับอารมณ์พูดกับพี่ต้อมว่า ไม่เป็นไรคับมันบังเอิญ พี่ต้อมอำลาผม และเดินขึ้นรถเมล์ไปผมก็ระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่น้ำตาไหลออกมาในขณะที่พี่ต้อมกำลังมองลงมาจากรถด้วยความอาลัย ผมยืนมองจนรถเมล์แล่นออกไปสุดสายตา ผมได้แต่โทษว่า’’ หน้าต่างข้างบ้านเป็นเหตุที่ทำให้ฉันมีความสุขและความเศร้า’’ แต่ก็คงจะมีสักวันหนึ่ง ผมคงจะพบคนที่รักผมจริง ไม่ทอดทิ้งผมไปอย่างพี่ต้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น