วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผัวเขาเราอย่าแตะ

ผมมีประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของผมที่เข้ามาในกรุงเทพ ผมอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ชอบใฝ่สูงทะเยอทะยาน อยากทำงานที่ดีๆ แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้กลับไม่ได้ดังนั้นผมจึงต้องไปสมัครงานตามร้านอาหารเพื่อค่าเช่าบ้านและค่าจิปาถะประจำวัน ผมทำอยู่ไม่ถึงเดือนก็มีแขกประจำมากขึ้นทุกวันล้วนเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งดีๆ มาชอบอย่างเช่นประสบการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นจากมาม่าชัง หรือกัปตันที่เชียร์แขกมาติดผมให้ผมไปนั่งคุย เอาใจแขกทุกอย่าง ผมก็ทำตามหน้าที่จนมีทหารอากาศคนหนึ่งมาชอบจนได้เสียกัน คนแรกที่ผมยอมมาม่าชังให้ไปข้างนอก ผมจำได้ว่าประตูหลังความรู้สึกทั้งเจ็บและเสียว เลือดไหลออกมาเหมือนพรหมจรรย์ ผมตกใจมาก แล้วเขาก็ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ผมจะให้คุณสบายจะไม่ให้ใครมาพรากคุณไปจากผมและจะไม่ให้ คุณทำงานที่นั่นอีก มันไม่ดีหรอกนะซีชีวิตคนกลางคืนสู้คนทำงานกลางวันไม่ได้หรอกผมจะพาคุณไปสมัครงานที่ห้างสรรพสินค้าและผมก็ได้ทำจริงๆเป็นพนักงานขาย ช่วงแรกทดลองงานก่อน ผมเริ่มจะสบายขึ้นทุกวัน ไปทำงานแฟนก็เอารถมารับส่งจะอยู่จะกินแฟนผมก็เอาใจทุกอย่างจนผมลืมนึกว่าเราก็เป็นเด็กบ้านนอกทำตัวจนเรื่องมันอื้อฉาว ออกหน้าออกตาชาวบ้าน จนเรื่องนี้รู้ไปถึงหูลูกชายเขาและเพื่อนที่ทำงานของเขา มีอยู่วันหนึ่งลูกชายของเขามาดักดูผมที่ทางเข้าบ้านผมพอดี ผมกับแฟนเอารถเข้าไปจอดผมก็เดินลงจากรถเพื่อที่จะเข้าบ้าน ลูกชายเขาก็วิ่งเข้ามาหาผมก่อน เขาจะชกผมพ่อเขาห้ามไว้ไม่ให้ทำผมตัวสั่นไปหมด ยืนตะลึงพักใหญ่ลูกชายเขาเตือนผมว่า คุณทำงานอย่างนี้ก็สบายแล้วนี่นา ไม่ควรจะมายุ่งกับผู้ชายรุ่นพ่อ ขอร้องเถอะอย่ามายุ่งกับของเขาเลย  วัยรุ่นอายุเท่าๆคุณมีอยู่ถมเถไปคุณก็ไปหาเอาเองซิ ผมวิ่งเข้าบ้านโดยไม่ฟังเสียงใครทั้งสิ้น คืนนั้นผมหดหู่มาก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวร้องไห้ทั้งคืน รุ่งเช้าผมก็ออกไปทำงานตามปกติ ผมเริ่มกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวโดยไม่ฟังเสียงใคร ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน งานก็หยุดบ่อยจนเบื่อชีวิตที่ผจญมาก เลยผมบอกเขาว่าผมจะไปจากที่นี้เร็วที่สุดไม่อยากรองรับอารมณ์ของใครที่มีเมียมีลูกแล้ว ผมเบื่อคนกรุงเทพ มีแต่หลอกลวง ผมตัดสินใจไปบ้านพี่สาวผมที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร บังเอิญผมไปรถไฟ ต้องเจอกับเมียเขา และลูกชายเขาอีกสองคน ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ได้เวลารถไฟมาพอดี ผมตัดสินใจไปช่วงระยะเวลาหนึ่งคืน ก็สบายใจแล้วผมถึงบ้าน ตีห้าครึ่ง ผมสบายใจเมื่อไม่มีอะไรมาขัดขวางชีวิตผมอีกแล้ว ผมช่วยพี่สาวขายของอยู่ที่บ้านมีความสุขอยู่กับพี่สาวกับหลาน ผมอยู่อย่างสบายใจไม่มีอะไรเหมือนที่อยู่กรุงเทพ และวันหนึ่งร้านพี่สาวผมปิด ผมอยู่บ้านไม่ไปไหนบังเอิญวันนั้นเขาลงมาตามผม เขาโผล่เข้ามาหาผม อย่างกับคนที่คิดถึงมาก คุณสบายดีหรือ ผมคิดถึงคุณ นั่งทำงานไม่มีความสุขเลยเหมือนคนเหม่อลอย ผมจึงตัดสินใจมาหาคุณนี่แหละ ตอนแรกผมจะให้เขาพักที่บ้านพี่สาวผม แต่เขาไม่ยอม เขาอยากจะอยู่กับผมสองต่อสองต้องไปพักที่สวีการ์เด้น ผมอยู่กับเขาเหมือนไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น เขาขอร้องให้ผมกลับไปอยู่กับเขาที่กรุงเทพ และสัญญาว่าจะไม่ให้ผมเดือดร้อนเป็นอันขาด แค่นี้ผมก็เจ็บพอแล้วคุณอย่าพาผมไปเป็นอีกเลย มันลำบากคุณเปล่าๆ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกผมจะให้คุณเรียนตัดเสื้อผ้า ถ้าคุณไปจริงๆ ผมให้สัญญา ตอนแรกผมจะไม่ไปเขาก็วิงวอนขอร้องผมตลอดเวลา คิดไปคิดมาจะไปหรือไม่ไปดี ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรผมเลยบอกว่าตื่นเช้าจะให้คำตอบ บ้านพี่สาวผมไม่มีใครช่วยของก็ขายดีขึ้นทุกวันงานก็เยอะ ผมไปปรึกษาพี่สาวผม พี่สาวก็ยอมให้มากรุงเทพ พี่สาวบอกว่าถ้าเป็นความสุขของเธอก็ไปเถอะไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก ผมก็มาให้คำตอบเขาว่าอีกสามวันผมจะไปกรุงเทพ ขอให้คุณรอก็แล้วกัน ผมไปส่งเขาขึ้นรถกลับกรุงเทพ เขามองหน้าผมด้วยความห่วงใย ผมมองเขาจนรถวิ่งไปสุดสายตา จากวันนั้นผมรอให้ถึงวันที่นัดกันไว้ ผมขึ้นรถกลับกรุงเทพมาถึงตอนเช้าและมาพักที่บ้านเพื่อนเขาผมมาถึงวันหยุดราชการผมไม่รู้จะทำอย่างไรเขาจะมาหาเราได้หรือ เพื่อนเขาเข้าใจกันมาก เขาบอกให้ผมรอเขา เขาจะไปตามมาให้จนสายแล้วเขาโผล่มาพอดี ผมเห็นเขาดีใจมากในเมื่อผมมาตามสัญญาของเขา เขาพาผมไปเช่าบ้านอยู่ในซอย ไสวสุวรรณเป็นบ้านไม้สองชั้น ผมอยู่ชั้นล่าง พอวันจันทร์ ตอนบ่าย เขามาหาผมว่าไปเอาระเบียบการของโรงเรียนเสร็จก็โอเค พรุ่งนี้ผมจะให้คุณไปเสียค่าเล่าเรียนให้เริ่มเรียนเลยผมเรียนตัดเสื้อผ้ายังไม่ถึงเดือน เรื่องก็แดงขึ้นมาจนถึงหูเมียเขาเขามาไต่ถามมาม่าชังร้านเก่าที่ผมเคยทำอยู่ มาม่าชังเล่าเรื่องทุกอย่างให้เมียเขาฟังหมด จนเมียเขาถึงกับเป็นลม เพราะสามีเขามีเมียน้อยเป็นผู้ชาย ผัวเขาหลงผู้ชายจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เขากลับบ้านเอาใจผัวผิดปกติ เย็นมาเข้าขู่สามีโดยใช้ปืนจ่อขมับสามีเขา เพื่อให้รับเรื่องที่สามีเขากระทำไว้ช่วงเวลาเดียวกับที่ผมจะเริ่มทำงานห้องอาหารเก่า ผมเลิกงานพอดีมีเพื่อนมาด้วย ผมตกตะลึง เอ๊ะ เขามาทำอะไรนี่ก็ตีสามแล้ว หรือว่าเขาคิดถึงเราถึงได้มารอเราจนป่านนี้ ทำไมไม่ไปหาเราที่ร้าน มาจอดรถรอเราทำไมแถวนี้ ผมเห็นเมียเขาคนแรก เดินลงมาจากรถพร้อมกับลูกชายอีกสองคน และผัวเขาด้วย เขากรูเข้ามาด่าผมให้เลิกกับผัวเขาลูกชายเขาชกผมหนึ่งที ผมไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรดี เพื่อนผมได้เข้ามาขอร้อง เขาว่า อย่าทำผมเลย คนทำงานกลางคืนย่อมต้องมีแขกมาติดพัน แต่เขาไม่ยอมยืนด่าผมเกือบชั่วโมง ผมพูดไม่ออกน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจที่ไปรักผัวชาวบ้าน ส่วนเขาก็พากันกลับบ้าน ผมนอนไม่หลับทั้งคืน เช้ามาผมทานข้าวไม่ได้ได้แต่สูบบุหรี่ แม้กระทั่งน้ำยังดื่มไม่ลงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมคิดแล้วว่าเรามาถึงขณะนี้จะเลิกทำไม ผมโทรศัพท์ไปหาเขาแอบไปหาความสุขตามชานเมืองโดยการไปทานข้าวดื่มเหล้าจนถึงที่สุดเรื่องการเรียนผมก็มาถึงปลายภาคใกล้จะจบแล้ว เมียเขาตามสืบผม ผมย้ายบ้านย้ายที่ทำงาน เรื่องเรียนก็เปลี่ยนจากภาคเช้าเป็นภาคค่ำ โดยที่จะเอาชนะเขาทุกอย่างที่เขาเคยพูดไว้ ลูกชายเขาก็ลาออกจากโรงเรียน ผมยิ่งได้ใจเมียเขาตามผมมาดักดูว่าผมจะเข้าเรียนภาคไหนวันนั้นวันหยุดผมจึงเข้าภาคเช้า เมียเขาเจอผมพอดีเขาด่าผมอีก ผมจึงโต้ตอบไปบ้างว่าเรายอมมามากแล้วถึงเวลาของเราบ้างไหนๆ ก็จะเรียนจบแล้วจะไม่ให้ใครมาข่มเราอีกแล้ว ผมย้อนได้ดั่งไฟที่กำลังลุกไหม้ ไม่ฟังเหตุผลอะไร วันนั้นสงครามปาก ผมชนะ จนบางครั้งคำฟังไม่ได้ เพราะผมด่าชนิดที่เกย์บางคนใช้คำพูดเหมือนปากตลาดผมหัวเราะ เยาะเย้ยจนเมียเขาร้องไห้กลับไป และทุกวันนี้เขาก็เลิกราไป ถึงจะเป็นเกย์ก็มีดี ไม่ใช่ผู้หญิงที่คอยติดตามสามีออกหน้าออกตาคอยบังคับให้สามีต้องอยู่ในโอวาท เห็นใจผู้ชายบ้างเขาทำงานเหนื่อย เขาจะมีใครที่ไม่ใช่ผู้หญิงก็ให้เขาไปเถอะ เกย์ทุกคน อย่าได้ไปยุ่งกับสามีชาวบ้านเขาเลย เดี๋ยวเป็นแบบผม เดี๋ยวจะยุ่งใจซะเปล่านะ สวัสดี ….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น