วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รักท.ทหาร

ผมถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารประจำการ สังกัดกองเป็นทหารอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันแรกเข้าประจำการ (ทหารเกณฑ์) ออกจากบ้านโดยแต่งชุดพลเรือนไปรวมกันขึ้นรถ ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเพื่อเดินทางไปยังสังกัด พอไปถึงกองร้อยประจำการ ที่รับแจกเสื้อผ้าเครื่องใช้ต่างๆคนละชุด ซึ่งมืเสื้อกางเกง รองเท้าฝึก ไปจนถึง หมอนมุ้ง เมื่อได้รับแล้วให้ยืนเข้าแถวหน้ากระดาน แล้วถอดชุดพลเรือนออกให้หมดเหลือเฉพาะลิงตัวเดียวติดตัว และให้เอาชุดสำรองฝึกมาแต่งพอแต่งเสร็จก็เอาชุดพลเรือนไปฝากไว้กับที่รับฝาก จะเอาไปซักรีดไว้ให้เมื่อเรากลับบ้านค่อยไปขอรับคืนโดยคิดค่าซักรีดคนละสิบบาทพอเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เช็คดูว่าของใช้ที่แจกครบหรือปล่าวเมื่อครบแล้ว ก็มีจ่าเวรพาไปดูที่พัก ซึ่งเป็นกองร้อยเรือนพักทหาร ห้องหนึ่งพักได้ยี่สิบคนสองแถวๆละสิบคนหันเท้าเข้าหากันโดยจัดที่นอนมีเสียงและที่นอนให้พร้อม จัดนอนตามเลขที่ พอได้ที่ของตัวเองและตู้สำหรับเก็บของเรียบร้อยก็ให้จัดของทุกอย่างเข้าที่เข้าไปวันแรกต่างคนต่างก็ไม่รู้จักกันร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างจัดกันไปโดยไม่ได้คุยอะไรกันเลย ผมเป็นคนค่อนข้างขาวและหน้าตาดีพอใช้คนหนึ่งโดยเพื่อนชมและมีคนเคยแนะนำให้ไปเป็นนายแบบ แต่ก็จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปเพราะผมคนภาคอีสานเข้าเมืองกรุงก็กลัว ด้วยเหตุนี้เองมันจึงเรื่องประสบการณ์ที่เล่าให้ฟัง พอผมจัดเครื่องใช้ของผมไปเรื่อยๆ พอมาถึงตอนปูผ้าปูที่นอนผมทำไม่เป็นเพราะที่นอนมันหนักมาก เพราะที่นอนที่ใช้เคยเป็นของทหารอเมริกันใช้มาก่อน ผมจึงยกลำบากผมปูยังไงก็ไม่ตึงสักที จนมีทหารรุ่นเดียวกัน รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำมารู้ทีหลังว่าเป็นคนเรณูนคร จ.สกลนคร เพราะสำเนียงเขาก็ฟ้องในตัวของมันอยู่แล้วชื่อ’’สมศักดิ์’’ เขาจัดของเขาเสร็จแล้วเขามานั่งมองดูผมอยู่เงียบๆ แรกๆผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะคนยิ่งจัดไม่เป็นยังมานั่งยิ้มอยู่ได้ จนจะถึงเวลาเรียกแถวลงไปทานอาหารเที่ยงซึ่งก็บ่ายกว่าแล้วเพราะกว่าทหารทุกคนจะพร้อมจนนานผมก็โมโหเพราะจัดยังไงมันก็ไม่เข้ารูปสักที จนสมศักดิ์มาจัดช่วยจนเสร็จโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลยพอจัดเสร็จก็เรียกแถวทหารทุกคนต้องออกไปเข้าแถว เดินไปทานอาหารที่โรงทานอาหาร ตอนเข้าไปทานดูท่าทางของสมศักดิ์เขาอยากมานั่งใกล้ผมเหมือนกัน แม้ไม่มีที่ว่าง เขานั่งห่างออกไปอีกโต๊ะหนึ่งสังเกตดูเขาชอบมองผมบ่อยๆ เพราะผมมองไปทีไร จะเจอเขามองผมอยู่ตลอดเวลา ผมก็เลยวางตัวเฉยๆ เหมือนไม่รู้อะไร พอทานอาหารเสร็จเขาก็ปล่อยให้พักผ่อน ผมก็เข้าไปในเรือนพักกองร้อยเห็นสมศักดิ์นอนอยู่เตียงตรงข้ามกับเตียงของผมเอง ผมก็เลยนอนพักที่เตียงของผม เพราะเหนื่อยและเพลียมาจากเมื่อคืนมีการเลี้ยงส่งที่จะเข้ามาเป็นทหาร ผมนอนหลับไปนานมารู้ตัวอีกครั้งเมื่อสมศักดิ์เอาไม้เล็กๆมาแหย่ที่หูจมูกผม โมโหก็โมโหแต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะยังไม่รู้จักกัน ถ้าพูดไปไม่ดีกลัวเขาจะทำร้ายเอาได้ เพราะเขารูปร่างใหญ่ล่ำสัน บึกบึน มีกล้ามเป็นมัดๆ แต่ก็แสดงออกทางสีหน้าเท่านั้น ผมก็เลยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปอาบน้ำ เพราะบ่ายมากแล้วพออาบน้ำเสร็จก็กลับมาแต่งตัวก็เห็นห่อขนมปังที่ผมชอบวางอยู่บนเตียง ผมถามเพื่อนข้างเตียงว่าของใคร เขาบอกว่าของสมศักดิ์ ผมก็เลยเอาไปวางไว้ที่เตียงของสมศักดิ์ พอผมแต่งตัวเสร็จ(ชุดลำลองทหาร) ผมเดินออกจากเรือนพักมาข้างนอก เพื่อหาเพื่อนคุยหรือเดินเล่นแก้เหงาเพราะวันแรกที่เข้ามาเป็นทหารเหงามากจนรู้สึกกลัว ทั้งๆที่ผมเคยออกจากบ้านไปทำงานในท่ไกลๆเป็นหลายๆเดือน กลับบ้านทีก็ไม่คิดถึงบ้านมากอย่างนี้ จนถึงเวลาเรียกแถวเดินไปทานอาหารเย็น พอทานเสร็จตอนเดินกลับสมศักดิ์ก็เดินไล่หลังผมมาเขาถามผมว่า ‘’ ขนมที่ซื้อให้ทำไมไม่ทาน’’ ผมก็บอกว่า’’ ไม่รู้สิไม่เห็นบอกเอาไว้’’ เขาถามว่า ‘’ไม่พอใจอะไรเขาหรือ’’ พูดเสียงเหมือนนักเลงมากจนผมรู้สึกกลัว ผมบอกว่า’’เปล่าไม่มีอะไร’’ พอมาถึงที่นอนเขาก็เอาห่อขนมห่อนั้นมายื่นให้ผม และขอโทษผมที่รบกวนให้ตื่น แล้วเขาก็ยิ้มให้ผม เสร็จแล้วเราก็เราก็รีบทานกันและมีเพื่อนเตียงข้างๆมาทานด้วย เพราะกลัวจ่าเวรมาเห็นจะถูกทำโทษ เพราะเขามีกฎว่าห้ามนำอาหารเข้ามาทานในห้องนอน เขาบอกว่าตอนที่ขาเอาห่อขนมมาให้ผมไม่อยู่ไปอาบน้ำ เขาเลยลงไปอาบด้วยแต่ก็ไม่เจอผมพอกลับขึ้นมาก็ไม่เจอผมอีกเจอแต่ห่อขนมมาวางที่เตียงเขาและเขาก็ซื้อพวกเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก มาเผื่อผมด้วย แต่ผมบอกว่าผมมีแล้ว แต่เขาก็บอกว่าให้ผมรับเอาไว้หลังจากวันนั้นสมศักดิ์เหมือนเงาตามตัวผม เห็นผมที่ไหนจะมีสมศักดิ์ที่นั่น นอกจากเวลาฝึกเท่านั้น เพราะเราอยู่กันคนละหมู่ แต่กองเดียวกัน หมวดเดียวกัน และเวลานอนก็นอนคนละเตียงแต่จะนอนแต่ละวันเขาก็มักจะมานอนคุยกับผมจนถึงเวลานอนเขาก็แยกไปนอนที่นอนของเขา แต่ถ้านอนคุยกันถ้าเพื่อนคนอื่นที่อยู่ไกลๆเขาชอบเอามือหรือเอาขามาวางทับตรงนั้นของผมเสมอบางครั้งผมก็เอาออกบางครั้งก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะดูท่าเขาคงจะมีความสุขมากด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรกันลึกซึ้ง จนกระทั่งถึงวันที่ต้องรับทหารใหม่ คือหลังจากเข้ามาวันแรกยี่สิบกว่าวัน จะมีการทำพิธีต้อนรับทหารใหม่ ตอนกลางวันมีการแข่งขันกีฬาระหว่างทหารใหม่และทหารเก่า ตอนกลางคืนมีภาพยนตร์และรำวง สมศักดิ์เขาเล่นกีฬาเก่งมากและเขาบอกให้ผมไปเชียร์เขาตลอดเวลาแข่งเพราะเคยลงแข่งฟุตบอลและตะกร้อผมเลยกลายเป็นพี่เลี้ยงไปโดยปริยาย เพราะผมก็ชอบกีฬาอยู่แล้ว พอตอนกลางคืน สมศักดิ์ได้เหล้ามาประมาณหนึ่งกลม โดยเขาแบ่งให้ขวดน้ำอัดลมมาสองขวดแล้วมายื่นให้ผมและมีหลอดดูเหมือนน้ำอัดลมมาด้วย ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นเหล้าผมก็เลยดูดไปพอรู้ว่าเป็นเหล้าแทบสำลักออกมา เขาบอกว่าได้มาจากพวกนายทหารเป็นรางวัลที่ชนะในการแข่งกีฬา สมศักดิ์คะยั้นคะยอให้ผมดื่มจนเริ่มเมา แต่เขาเมาแล้วเพราะฟังจากเสียงที่พูดพูดจาแทบไม่รู้เรื่อง เหมือนคนมีปัญหาอะไรและเขาก็ริ่มพูดซึ่งฟังๆดูก็ไม่ค่อยได้สาระเท่าไหร่ เพราะเขาพูดเรื่องอกหักผิดหวังความรักความชังอะไรของเขาไป บางครั้งเขาก็นั่งก้มหน้านานๆแล้วหันมามองหน้าผมตรงๆ แล้วก็ถอนหายใจ บางครั้งเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด พอผมถามเขาว่าอะไรหนักใจหรือเขาก็ตอบว่าไม่มีจนผมรำคาญ ขอตัวออกไปดูภาพยนตร์ รำวง เพราะตรงที่เรานั่งทานเหล้ากันเป็นที่มืดและลับตาคนเพราะกลัวพวกจ่าเวรหรือนายทหารเวรจับได้ว่าเราทานเหล้าเพราะเขาห้ามเอาไว้พอขอตัวเขาก็ไม่ยอมให้ไปให้นั่งคุยไปเรื่อยๆ เขาบอกมีความสุขดีผมก็บอกว่าขี้เกียจพูดกับคนขี้เมาเขาก็เริ่มอาละวาด และขู่ผมด้วยว่าถ้าผมออกไปจะอาละวาดที่เวทีรำวงให้เขาเลิก ติดคุกเขาก็ไม่กลัวและเขาพูดออกมาว่า’’’คนที่เรารักยังไม่เข้าใจเราจะอยู่ไปทำไม’’ ผมก็ยังไม่เข้าใจนะตอนนั้นว่าเขาหมายถึงใคร ผมเลยพาเขาไปนอนที่กองร้อยเรือนนอนเขาก็ยอมไปแต่โดยดี เพราะผมกลัวว่าถ้าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเขาอาจจะจับได้ว่าเขาทานเหล้าและจะถูกทำโทษ พอถึงเรือนพัก( กองร้อย) ไม่มีใครอยู่บนห้องพักเลย ไฟฟ้าก็ปิดหมดเหลือเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้นและมีทหารเวรอยู่เวรด้านหน้าทางเข้าอยู่คนเดียว พอไปถึงที่นอนเขากอดจูบผมเป็นการใหญ่ทำเหมือนคนละเมอ ผมได้แต่ผลักออกแต่ก็สู้กำลังเขาไม่ได้ ปากเขาก็รำพันว่า รักอย่างโน้นรักอย่างนี้ อย่าทำให้เขาผิดหวังนะ ผมก็รับปาก และขอให้ปล่อยผมเพราะผมหายใจไม่ออก เขาก็ปล่อยแต่เพียงปล่อยออกมาเพื่อถอดเสื้อให้ผมมือเขาก็ล้วงไปจับไอ้นั้นของผม ผมพยายามผลักเขาออกแต่ก็ไม่รู้กำลังมันหายไปไหนหมดประกอบกับฤทธิ์เหล้าที่ดื่มเข้าไป และคิดว่ามันเป็นความสุขของเพื่อนซึ่งผมก็ชอบนิสัยเขาอยู่เหมือนกัน ไอ้หนูของผมก็เริ่มสู้แล้ว แล้วเขาก็ถอดกางเกงของผมออกหมดพร้อมกับถอดของเขาด้วย เนื้อแนบเนื้อบางครั้งก็นึกกระดากเหมือนและกลัวเกิดมีใครเข้ามา ตอนนี้จะทำอย่างไรเขาไม่รังเกียจเลยทุกอนูเนื้อทุกส่วนของร่างกายผม ผมยอมรับว่ามีความสุขมากเขาให้ผมเข้าประตูหลังของเขาผมกลัวเขาเจ็บผมเลยไม่ทำแต่เขาก็บังคับให้ทำ เขาบอกว่ามีความสุขมากถ้าทำอย่างนี้  แต่ก็ทำอย่างทุลักทุเลมากเพราะผมก็เจ็บมันฟิตมาก ก็เลยถอดออกเขาเลยใช้มือกับผม แต่เวลาผมจะช่วยทำให้เขา เขาก็ดึงมือผมออกเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาออกก่อนมันจะหมดสนุกจนผมทนไม่ไหวระเบิดน้ำรักออกมา เขาใช้ปากทำความสะอาดให้ผมพร้อมทั้งช่วยตัวเองไปด้วยจนเสร็จแล้วเราก็ลุกขึ้นแต่งตัว และนอนคุยกันต่อ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาถ้าสมศักดิ์เจอผมในที่ลับตาคนหน่อยเขาจะชวนผมร่วมด้วยเสมอ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน แม้แต่ในห้องน้ำในช่วงเวลาฝึก็ตามบางครั้งผมก็หลบๆเหมือนกัน ถึงผมจะเริ่มชอบแต่ถ้าบ่อยนักก็ไม่ไหวเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น