เจ้านายเก่าของผมอายุ 50 ปีเศษแล้วครับ แต่ท่านก็ยังดูกระชุ่มกระชวยราวกับหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ ท่านเป็นคนรูปร่างล่ำสันแข็งแรง หน้าตาหล่อเหลา อารมณ์ดีอยู่เสมอ ผมเคยร่วมงานกับท่านสมัยที่ผมบรรจุเข้ารับราชการใหม่ๆ ความจริงแล้วผมก็คงจะเหมือนกับใครอีกหลายๆคนที่แอบรักเจ้านายตัวเอง สำหรับผมแล้วการที่ได้ร่วมงาน การที่ได้อยู่ใกล้ชิดแล้วคอยรับใช้ท่านเล็กๆน้อยๆนั้นก็เป็นความสุขเล็กๆของ ผมแล้วครับ ผมไม่กล้าคิดอะไรไปมากกว่านั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และอีกประการหนึ่งท่านก็เป็นผู้ชายแท้ๆ การที่มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปเชียงใหม่ในครั้งนี้นับว่าเป็นโชคดีของผม เพราะหลังจากที่ท่านได้ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่เมื่อสองปีก่อน ผมก็ไม่มีโอกาสได้พบปะและพูดคุยกับท่านอีกเลย
เราเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ตอนบ่ายวันอาทิตย์โดยเครื่องบินของการบิน ไทย ทีแรกผมกับหัวหน้าตั้งใจว่าจะพักที่โรงแรมซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุม แต่เนื่องจากห้องพักถูกจับจองโดยสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมซึ่งส่วนใหญ่เป็น ชาวต่างชาติไปหมดแล้ว เราเลยต้องเปลี่ยนไปพักที่โรงแรมอื่นที่อยู่นอกเมืองแทน แต่ทางผู้จัดประชุมก็อำนวยความสะดวกให้โดยจัดรถรับส่งระหว่างโรงแรมที่พัก กับสถานที่จัดประชุมตลอดเวลาของการประชุมทั้ง 5 วัน
วันแรกของการประชุมก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ การจัดประชุมในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเนื้อหาวิชาการเป็นหลัก โดยทางผู้จัดจะมีหัวข้อและเรื่องราวที่จะนำเสนอในเรื่องต่างๆให้เลือกชม นอกจากนี้ยังมีองค์กรเอกชนและกลุ่ม/ชมรมของผู้ติดเชื้อมาตั้งบู๊ทเพื่อประชา สัมพันธ์การดำเนินงานและโครงการต่างๆให้ผู้ที่สนใจเข้าไปเยี่ยมชมด้วย
หัวหน้าของผมนั้นท่านเป็นคนที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจังในเรื่องงานครับ ถ้ามาประชุมท่านก็จะพยายามตักตวงความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เรื่องที่จะแอบโดดร่มไปไหนนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ท่านชวนผมเข้าไปฟังการบรรยายในห้องสัมมนาวิชาการ ผมนั่งได้ไม่ถึงสิบนาทีรู้สึกคอแห้งเลยขออนุญาตท่านออกมาหาอะไรดื่มที่บู๊ทบ ริการเครื่องดื่มหน้าห้องจัดประชุม
ผมเดินออกมาข้างนอก พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับฝรั่งวัยกลางคนคนหนึ่ง ฝรั่งคนนี้รูปร่างสูงใหญ่สูงประมาณ 6 ฟุต อายุประมาณ 40 ปี ผมสีน้ำตาล สวมแว่นตา ไว้หนวด รูปร่างท้วมๆ แกยืนมองผมอยู่ครับ ตามปรกติแล้วสำหรับคนที่มีรสนิยมแบบเราๆตามองตาก็คงจะพอดูออก แต่สำหรับฝรั่งตาน้ำข้าวนี่ผมไม่ค่อยแน่ใจครับ เราเดินสวนกัน ผมหันกลับไปมองแกอีกครั้งแกก็หันกลับมามองผมเหมือนกัน สายตาเราประสานกันอย่างจัง
ถ้ามัวแต่มองกันไปมองกันมาคงไม่ได้เรื่องแน่ ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ครับ คิดได้อย่างนั้นผมก็เลยเดินเข้าไปทักแกเสียเลย
"สวัสดีครับ" ผมทักทายเป็นภาษาอังกฤษ
"สวัสดีครับ" คู่สนทนาต่างภาษาของผมทักทายตอบพลางยื่นมือมาให้ผมจับ ผมบอกชื่อของผมเป็นการแนะนำตัว
"คุณเป็นนักท่องเที่ยวหรือเข้ามาร่วมประชุมครับ..."
"ผมมาทำข่าวครับ เรียกผมว่าบิลก็ได้" บิลยิ้มยิงฟันขาว ผมได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่เขาใช้ มันรัญจวนใจเสียจนผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาทันที
"ไปหากาแฟดื่มกันดีกว่า คุณดื่มกาแฟหรือเปล่าครับ" บิลถาม ผมพยักหน้า ตอบว่า
"ก็ดีเหมือนกันครับ"
เราเดินไปที่บู๊ทกาแฟ ที่บู๊ทบริการเครื่องดื่มเขาจะจัดเตรียมเครื่องดื่มเอาไว้ให้แขกที่มาร่วม งานบริการตัวเอง นอกจากจะมีเครื่องดื่มเอาไว้บริการแล้วทางโรงแรมยังจัดมุมให้ผู้ที่เข้ามา ใช้บริการได้นั่งพักผ่อนด้วย เรานั่งคุยกันเรื่องต่างๆ บิลเป็นคนอเมริกันและเคยมาเมืองไทยแล้วหลายครั้ง สิ่งที่บิลประทับใจมากก็คือในสายตาของเขาคนไทยเป็นคนใจดี ยิ้มเก่ง และเมืองไทยก็มีสิ่งที่สวยๆงามๆมากมาย
ในระหว่างที่นั่งคุยกันนั้นผมเอื้อมมือลงไปลูบหน้าขาของบิลแล้วบีบเบาๆบิลก็ ไม่มีท่าทีว่าขัดขืนอะไร เราสบตากันครู่หนึ่ง บิลเอ่ยขึ้นว่า
"คุณนวดเป็นด้วยหรือ ที่จริงผมชอบนะครับ มันทำให้ผ่อนคลายแล้วก็สบายตัวดี แต่ต้องเป็นผู้ชายนวดนะ ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงนวดให้"
ผมอมยิ้ม เออหนอ เจอฝรั่งเจ้าเล่ห์เข้าแล้วซิเรา เล่นทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กให้ยังงี้มีหรือที่ผมจะไม่เดินข้าม
"ผมศึกษาวิธีการนวดมาบ้างครับ เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายแต่ไม่ใช่แบบนวดแผนโบราณนะครับ ถ้านวดแบบนั้นต้องเรียนรู้มากพอสมควรถึงจะนวดได้...."
"งั้นก็วิเศษเลย ผมอยากให้คุณช่วยนวดให้ผมหน่อย ผมพักอยู่ที่นี่แหละครับ ห้องพักผมอยู่ที่ชั้น 8 "
เราขึ้นลิฟท์มาด้วยกัน ห้องพักของบิลเป็นห้องพักสำหรับแขกระดับกลางแต่ก็กว้างขวางและสะดวกสบายพอ สมควร บิลถอดเสื้อผ้าออกหมดเรือนร่างที่อวบหนาและรกไปด้วยเส้นขนสีน้ำตาลนั้นทำให้ ผมแทบจะสะกดความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่
"เดี๋ยวผมจะนวดหลังให้คุณก่อน คุณขึ้นไปนอนบนเตียงสิครับ"
ผมบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า บิลก้าวขึ้นไปนอนคว่ำหน้าบนเตียง บิลเป็นฝรั่งที่มีรูปร่างประเภท bear type คือมีขนขึ้นดกรกไปหมดทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งร่องก้นและง่ามขา ผมเอามือลูบไล้แผ่นหลังที่รกไปด้วยเส้นขนเบาๆ แล้วกางฝ่ามือกดลงไปตามแนวสันหลังไล่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ
"คุณนวดดีจังครับ อือ.....สบายจัง...."
บิลพึมพัมเบาๆ แต่ผมสิครับน้องชายมันแข็งขันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว มือก็กดคลึงแผ่นหลังของบิลไปเรื่อยๆแล้วมาหยุดอยู่ที่แก้มก้น ผมเอานิ้วมือจุ่มน้ำลายแล้วค่อยๆแหย่ปากถ้ำของบิล คราวนี้บิลร้องครางด้วยความเสียว.....
"คุณพลิกตัวขึ้นมาสิครับ ที่นี้ผมจะนวดข้างหน้าให้คุณบ้าง...."
ผมบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางกลืนน้ำลาย บิลพลิกตัวขึ้นเผยให้เห็นท่อนลำที่อวบใหญ่ ขนาดไม่ต่ำกว่า 7 นิ้ว แต่ความที่ท่อนลำมันค่อนข้างอวบหนาเลยทำให้ดูเหมือนไส้กรอกอันใหญ่ที่ป้อมๆ สั้นๆ ซึ่งตอนนี้มันแข็งตัวเต็มที่ตรงส่วนปลายมีน้ำใสๆไหลเยิ้ม ผมเอามือกำแล้วรูดขึ้นลง บิลร้องครางไม่ได้ศัพท์
"กินมันเลยครับ ผมเสียวมาก คุณทำได้ดีจัง...."
บิลพูดพลางสบตาผมด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม ผมก้มลงดูดเลียตรงส่วนปลายของท่อนเนื้อขนาดใหญ่ยักษ์นั้น ส่วนมือสองข้างก็คลึงลูกบอลแฝดสองลูกไปด้วย บิลขยับตัวให้เราอยู่ในท่ากลับหัวกลับหาง อันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วของผมถูกถอดเหวี่ยงไปที่ปลายเตียง บิลใช้ปากได้เก่งมาก ทั้งดูด ทั้งอม ทั้งเลีย จนผมเสียวซ่านจนเกือบจนไม่ไหว
"พอก่อนครับ เดี๋ยวผมจะออกเสียก่อน ให้ผมเอาของผมเข้าในตัวคุณได้ใหม ?"
บิลไม่ตอบ แต่นอนหงายแล้วยกขาให้ผมอยู่ในท่าที่ถนัด ผมลุกขึ้นไปหยิบถุงยางในกระเป๋าสตางค์เอามาสวมน้องชายแล้วบ้วนน้ำลายทาจน ลื่นแล้วค่อยๆดัน ผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าครั้งสุดท้ายที่รุกชาวบ้านนั้นมันนานแค่ไหนแล้ว เพราะส่วนใหญ่คู่ขาของผมที่เป็นคนไทยมักจะเป็นประเภทผู้ชายทั้งแท่ง มาเจอผมก็ทิ่มเอาๆ บางคนนี่ทิ่มอย่างเดียวแม้แต่ของๆผมก็ไม่จับเสียด้วยซ้ำไปครับ
ผมค่อยๆขยับจากช้าๆเป็นเร็วขึ้น บิลสูดปากหลับตาร้องคราง ผมเอามือช่วยชักให้ เสียงบิลครางกระเส่า
"อะ อะ ผมจะออกแล้ว...."
น้ำข้นขาวของบิลพุ่งรดลงบนหน้าอก ผมเร่งจังหวะเร็วขึ้น ช่องทางของบิลบีบรัดจนผมเสียวสุดขีดฉีดน้ำรักพ่นเข้าไปในถุงอย่างมากมาย ผมหอบตัวโยนเหงื่อไคลไหลย้อยทั้งๆที่อยู่ในห้องปรับอากาศ บิลยิ้ม มองผมแล้วพูดว่า
"ที่นี้ผมเชื่อแล้วล่ะว่าคุณนี่นวดเก่งไม่เบาเลย...."
ผมรีบลุกไปทำความสะอาด สวมเสื้อผ้า แล้วขอตัวกลับลงมาที่ห้องจัดสัมมนา เฮ้อ มาประชุมครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวจริงๆครับ.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น