วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หลุมรักนักบิด

วันนี้ผมทำกิจกรรมที่มหาลัยจนเย็นจึงทำให้มาถึงปากซอยบ้านตอนโพล้เพล้ รถลาก้อไม่มีแล้ว มอเตอร์ไซด์วินก้อไม่มีแล้ว บ้านก้ออยู่ในซอยลึกเดินไม่ไหวแน่เลย ระหว่างที่หัวเสียอยู่นั้นก้อมีมอเตอร์ไซด์วินมาคันหนึ่งสิ่งมาจากในซอย อ้าดีใจจังมีรถกลับบ้านแล้ว ด้วยอารามดีใจผมกระโดด ลิงโลดโบกไม้โบกมือให้เขาเห็นว่าผมจะจ้างเขาไปส่ง ดูเหมือนเขาจะเห็นแล้วและเร่งเครื่องมาทางนี้ เมื่อเขาจอดรถตรงหน้าผมก้อเห็นว่าเป็นชายหุ่นหมีร่างใหญ่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์สีซีด เสื้อยืดโปโลสีขาวหม่นแต่ดูสะอาดสะอ้าน สวมเสื้อกักวินสีแดงสด เขาหันมาแล้วเปิดหมวกกันน๊อค พระเจ้าผมเกือบหลุดปากอุทานออกมา รีบทำสีหน้าให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าจะถูกเตะและแถมยังต้องเดินกลับบ้านเองอีก   "ไปไหนน้อง" เขายิ้มขึ้น ทำให้ใจชื้นขึ้นหน่อยแต่ก้อยังกลัว ๆ กล้า ๆ เพราะดวงตากลมโตดุดัน คิ้วเข้ม หนวดเข้มและเคราลกครึ้ม ผมฝืนสะแยะยิ้มตอบ
   "
พะ พี่ ผะ ผม " เขาหัวเราะ "เป็นไรน้องติดอ่างเหรอ หน้าตาหล่อ ๆ แบบนี้ทำไมติดอ่างหล่ะ" ผมรู้สึกโมโหติดหมัดขึ้นมาเพราะไม่เคยมีใครมาหัวเราะและล้อเล่นกับผมขนาดนี้
   "
ผมไม่ได้ติดอ่าง" ผมลืมตัวตะหวาดออกไป เขาหยุดหัวเราะแต่ใบหน้านั้นยังคงเจือรอยยิ้มไว้ ผมเผลอไปสบตาเขา พระเจ้าดวงตาเขาสวยจริง ๆ 
    "
แล้วไง ถ้าไม่ไปพี่จะกลับไปนอนแล้วนะ"
    "
อ่า ผม"รีบขวามือเขาไว้ เพราะเขาเร่งเครื่องเตือน "โธ่ พี่ตัวเบ้อเริ่มใจน้อยด้วย" เขาหันมาจ้องผมเขม็ง
    "
เอาคืนเหรอ เรานี่มันไม่เบานะ" ผมฝืนยิ้ม แล้วผมก้อบอกซอยบ้านและตำแหน่งที่จะให้ไปส่ง เขาพยักหน้าและให้ผมซ้อนท้าย
     "
จับดี ๆ นะเดี๋ยวเอาคืน" เขาพูดทีเล่นทีจริงเล่นเอาผมผวากอดเอวเขาแน่น เขาก้อไม่ว่าอะไรออกรถไปตามที่ผมบอก ขับมาได้สักพักเขาก้อหยุดรถ ดับเครื่องเล่นเอาผมทำหน้าเซ่อ
     "
พี่. พี่ครับ" เขาหันมา "ขอเหยี่ยวที ปวดจะราดแล้ว" และเขาก้อรีบเดินไปทางพงหญ้าด้านน้าอีกสามก้าวแล้วหยุดยืนปลดกางเกงยีนส์ลงเกือบถึงเข่าและก้อกางเกงในตัวจิ๋วสีขาวลงมาครึ่งน่องเผยให้เห็นแก้มก้นขาวอวบอิ่ม มีไรขนขึ้นเต็ม เล่นเอาผมอ้าปากค้างผมหันรีหันขวางก้อรู้ว่าแถวนี้เปลี่ยวมาก ผมอยากจ้องมองแต่กลัวเขาหันกลับมาสักครู่หนึ่งเสียงน้ำก้อหยุดลง ผมรีบหันกลับมาแต่ก้อไม่วายชำเลืองมอง เขาทำท่าเขย่าเพื่อให้สะเด็ดน้ำแล้วก้อหันกลับมาที่ผมทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ดึงกางเกงขึ้น
   "
อ้าวแล้ว น้องไม่ปวด เหรอ" เขาพูดพลางดึงกางเกงสีขาวตัวจิ๋วขึ้นยังปิดไม่มิดพงหญ้าสีดำเลย แล้วก้อดึงกางเกงยีนส์ขึ้นพลางเดินมาหา
   "
แถวนี้ไม่มีคนหรอก ไม่ต้องอาย" พูดพลางก้อติดกระดุมกางเกงไป
   "
ผมไม่ปวดครับ" แล้วผมก้อรีบหันกลับ เขามองดูผมอยู่ครู่จึงขึ้นมอเตอร์ไซด์และบอกให้ผมจับเอวเขาไว้ ตอนแรกผมก้อกอดหลวม เขายิ่งเร่งเครื่องทำให้ผมกอดเขาแน่นขึ้นแก้มผมแนบที่แผ่นหลังของเขาโดยปริยาย จนได้กลิ่นไออุ่นจากตัวเขาโชยเตะจมูก ในใจก้อคิดว่าไม่รู้จะเร่งเครื่องหาอะไร ระหว่างที่คิดอะไรอยู่นั้นเขาก้อหยุดรถอีกครั้งผมจึงนึกว่าถึงแล้วเพราะการที่กอดเขาไว้จนหน้าแนบอยู่กับแผ่นหลังเขาทำให้ไม่สามารถเห็นทางได้ ผมรีบกระโดดลงจากรถ
   "
เท่าไรครับ" ผมทำหน้าเหรอหราเมื่อเห็นใบหน้านั้นยิ้มเยาะอยู่. ผมรีบหันมองไปรอบ ๆ ตายหล่ะนี่เขาจะพาเรามาจี้หรือนี่ ด้วยความตกใจผมรีบถอยหลัง สะดุดอะไรไม่รู้เขารีบคว้ามือผมไว้ก่อนที่ผมจะหงายหลังลงไป
    "
เป็นอะไร" เขามองนิ่ง "ทำไมหน้าซีดอย่างนี้หล่ะ" เขายิ้มแล้วส่ายหัว
    "
นี่น้อง พี่ขอเข้าไปหยิบของในบ้านเดี๋ยว เผอิญทางผ่านนะ" ผมใจชื้นขึ้นและเริ่มยิ้มออก "รอพี่เดี๋ยวนะ" ผมยิ้มยังไม่ทันพูดอะไรเขาก้อเดินเข้าไปในบ้าน เงียบไปพักใหญ่ นี่ก้อยิ่งดึกขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ยุงก้อเริ่มมาแล้ว
    "
พี่ครับ" ผมตะโกน แต่ก้อไม่มีเสียงตอบใด ๆ ผมจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปในบ้านพลางก็ตะโกนเรียกไปด้วย "พี่ครับ เรียบร้อยยังครับ" ผมค่อย ๆ เปิดประตูออก ผมต้องตลึงและโกรธมากกลับภาพที่เห็น เขาอยู่ในสภาพใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว เผยให้เห็นแผงอกหนาปกคลุมด้วยไรขนบาง ๆ ละเรื่อยเข้าไปในขอบบ๊อกเซ่อร์สีเขียวนั้น ต้นขาอวบอัด ผิวกายภายในขาวเนียน
    "
พี่ครับ..." ผมตะหวาดแต่ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เขาก้อมาดึงมือให้ผมเดินเข้าไปด้านใน
    "
ใจเย็นน่า ตอนแรกพี่คิดว่าจะมาเอาของแต่ เข้ามาแล้วดันหิวข้าวอ่ะ" เขายิ้มแต่ยังไม่ปล่อยมือผม ผมมองเขาตั้งแต่หัวจดเท้า กินข้าวแล้วทำไมต้องเปลี่ยนชุดด้วยอะ แต่ผมไม่ได้พูดออกมาเขาเห็นกริยาผม จึงหัวเราะขึ้น และทำท่าให้ผมใจเย็น ๆ
    "
อากาศมันร้อนนะ เดี๋ยวเดียวน่า กินด้วยกันก่อนนะ นะ" เขายิ้มไปพยักหน้าไป พลางดึงมือผมให้นั่งลงกับพื้น ด้านหน้าเป็นโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กมีอาหารอยู่สามอย่าง และข้าวเปล่าที่จัดเตรียมไว้แล้วสองจาน ในใจผมคิดว่าไหน ๆ แล้ว ก้อไหน ๆ ได้อยู่กับคนที่เราก้ออยากอยู่ด้วยและเดี๋ยวก้อถึงบ้านแล้ว เขานั่งลงขัดสมาธิข้าง ๆ ผม ผมเผลอมองตาม ขากางเกงเลิกขึ้นและอ้าออก ทำให้ผมเห็น ผมเริ่มหายใจติดขัด ตัวชาหน้าแดง เพราะหัวน้องเขาโผล่มาสีชมพูเข้ม ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองไปอีกทาง
    "
เป็นอะไร เผ็ดหรือ พี่ก้อกินอย่างนี้นะ ง่าย ๆ" เสียงนั้นระคนความห่วงใย ผมหันมาแล้วยิ้มให้สายตาก้อชำเลืองดูว่าน้องกลับไปยัง แต่ก้อยังครับยังคงก้มหัวให้อย่างนั้น
    "
เปล่าครับพี่ ผมทานได้ ที่บ้านผมก้อทานกันง่าย ๆ อย่างนี้ครับ" ผมกลัวเขาเสียใจ แล้วค่อย ๆ ทาน พลางก้อชำเลืองดูตลอด บางครั้งก้อเหมือนน้องจะมีอาการเกร็งตัวเล็กน้อย มี่ครั้งหนึ่งที่เขาลุกขึ้นไปหยิบน้ำมาให้แล้วนั่งลงทำให้น้องออกมาเกือบครึ่งตัว ทำให้เห็นว่าน้องเขาไม่ใช่ตัวเล็ก ๆ เลยนะ
   "
น้องเป็นอะไรครับ นั่งหน้าแดงตลอดเลย" เขาพูดทีเล่นทีจริง ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า "เผ็ดนิดหน่อยครับ" ผมแสร้งพูดไป
    "
จริงอ่ะ" แล้วเขาก้อยิ้ม จ้องหน้าผม " จริง ๆ น้องนี่หน้าตาดีนะ มีแฟนยังครับ" ยังพูดไม่จบประโยคเขาก้อรีบหันไป
    "
ยังครับ. แล้วนี่เราจะไปกันยังครับ" ทั้ง ๆ ที่ใจก้อยังไม่อยากไปเลย 
    "
จะรีบไปไหนหล่ะครับ เพิ่งทานอิ่ม ๆ รับรองพี่ส่งถึงบ้านแน่ ๆ" 
    "
ไม่มีแฟน ก้อเป็นเกย์ดิ" ตอนนี้เขาจ้องหน้าผมเหมือนจะรอคำตอบ ผมรีบหลบตา
    "
อะไรพี่ ไม่มีแฟนต้องเป็นเกย์กันหมดเลยเหรอ" ผมปฏิเสธพลางหลบตา
    "
ก้อพี่เห็นเราแอบมองพี่ตอนพี่เหยี่ยว" เขาลุกหนัก
     "
อะไรพี่ มั่วละ ผมจะมองทำไม" ผมทำเสียงเหมือนขัดใจ ตอนนี้ผมรู้สึกอึดอัดมาก เหงื่อแตกเต็มไปหมด อยากจะบอกว่าเป็นก้อกลัวเขาไม่ขอบและล้อเลียนเอา
    "
แล้วทำไมเหงื่อแตกหล่ะ"
    "
ก้อมันร้อน อ่ะ"
    "
เอ้าร้อนก้อไปอาบน้ำก่อนแล้วจะได้ไปกัน" พลางก้อหยิบผ้าขาวม้าส่งให้
    "
พี่..." ผมทำท่าปฏิเสธแต่ยังไม่ทันพูดอะไร
    "
อ้าว อย่างนี้แสดงว่าเป็น "
    "
เป็นอะไร" ผมทำเสียงเข็ม
     "
อ้าวถ้าไม่เป็นก้อไปอาบน้ำสิ ผู้ชายด้วยกันอายอะไร" เขาจ้องผมสายตาล้อเลียนแบบจับผิด ด้วยนิสัยผมไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงจึงหยิบผ้าขาวม้ามาผลัดก่อนเข้าห้องน้ำ เขามองผมไม่วางตา
     "
เรานี่มันล่ำเหมือนกันนะ แถมยังขาวเชียว" เสียงนั้นดูชื่นชมแต่ไม่รู้สึกยังไงไม่รู้ ผมผลัดผ้าเสร็จก้อรีบเดินเข้าห้องน้ำ แต่เอ  กลอนใช้ไม่ได้ คงไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวอาบเสร็จจะได้กลับบ้านแล้ว ถึงบ้านก้อจะได้เข้านอนได้เลยคิดได้อย่างนี้ผมจึงยิ้มและเดินไปตักน้ำอาบ

 

หลุมรักนักบิด ตอนที่2

 

พอผมตักน้ำอาบและฟอกสบู่ทั่วตัวและหน้่า ก้อได้ยินเสียงเขา
   "
อาบด้วยคนนะ อาบช้าจริง ๆ เดี๋ยวกลับบ้านช้า" ผมสะดุ้งสุดตัว รีบหันหลังให้เสียงนั้นแล้วควานหาขันน้ำ สบู่ก้อเข้าตา "โอ้ย แสบตา" แล้วก้อมีน้ำราดมาที่หน้าช้า ๆ ผมรีบเอามือล้างสบู่ที่หน้าออก เมื่อตาหายแสบแล้ว ผมก้อเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าด้วยร่างเปลือยเปล่า ไม่ขอบรรยายนะครับ ผู้อ่านช่วยจินตนาการเอาเองตามประสบการณ์และสิ่งที่ผมบรรยายไปแล้วบางส่วน ผมรีบหันหลังให้
   "
ทำไมพี่ทำงี้หล่ะ" ผมร้องขึ้น
   "
เอ้ย ผู้ชายเหมือนกัน มีเหมือนกันไม่เห็นต้องอายเลย ไอ้น้อง" เขาก้อตักน้ำอาบไปพราง ผมคิดว่าเขาคงไม่อะไรหรอกคงจะรีบอาบแล้วรีบไป ผมกั้นใจหันกลับมาเผขิญหน้า ตอนนี้เขากำลังฟอกสบู่ที่ตัว ผมเลยรีบคว้าขันมาจ้วงน้ำล้างสบู่ที่ตัวกะว่าจะรีบ ๆ ให้เสร็จแล้วไปแต่งตัว
    "
เออ ไอ้น้องนี่ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะ " ผมชักโมโห แต่ก้อก้มหน้าก้มตาให้เสร็จ
    "
เอ้าขอพี่บ้างดิ" ผมชะงักและไม่อยากพูดอะไรเพราะเดี๋ยวไม่จบเลยตักน้ำราดให้เขา เขาใช้มือถูไปทั่วตัว ผมจึงมีเวลาเก็บภาพที่น่าจดจำไว้จนหมด แต่ตอนนี้ไอ้น้องของเขาเริ่มขยายขึ้นเกือบเต็มที่
    "
พี่ พี่ ไหนว่าเป็นผู้ชายไง. แล้วไงงี้อะ" ผมร้องขึ้น
    "
โธเอ๊ยก้อคนมันปวดเหยี่ยวนี่หว่า" แล้วเขาก้อไปยืนแอ่นที่ชักโครก แล้วหันมายิ้มให้ผม ตอนนี้ผมเห็นมันเต็มตาเลย เมื่อหายงุนงงกับพฤติกรรมเขา ผมรีบตักน้ำอาบแล้ววิ่งออกจากห้องน้ำไปแต่งตัว ได้ยินเสียงเขาร้องเพลงแบบสบายใจและอาบน้ำไปพราง จากนั้นเราก้อไม่พูดอะไรกันอีกผมตัวชาหน้าแดงมาตลอดทางจนถึงบ้าน ส่วนเขาก้อได้แต่มองแล้วยิ้ม ๆ เมื่อถึงหน้าบ้าน ผมยื่นค่ารถให้เขา
    "
ไม่ต้องหรอก" เขายิ้มหวาน "ถือว่าเป็นเพื่อนพี่กินข้าวนะ" แล้วเขาก้อขับรถไปโดยไม่ฟังผมพูดอะไรเลย ผมรีบเข้าบ้านและตรงไปที่ห้องนอนกะจะรีบนอน ๆ แล้วลืมเรื่องนี้ซะ โดยไม่สนใจคำร้องทักจากพี่และแม่ จนกระทั่งเช้าผมไม่สามารถหลับตาได้เลยมีแต่ภาพเขาเปลือยเปล่า พูดเล่นหัวเราะเยาะตลอดคืน นี่ก้อเช้าแล้วผมต้องไปเรียนแล้วต้องผ่านวินมอไซด์ นึกแล้วก้ออายกลัวโดนล้อ ผมแต่งตัวเสร็จก้อหยิบแว่นกันแดดสีดำมาสวมเพื่อความมั่นใจ ก่อนออกจากบ้านแม่เห็นจึงทักว่า
    "
เป็นไง ทำไมวันนี้ใส่แว่นดำหล่ะ แดดก้อยังไม่ออกเลย"
    "
ผมเจ็บตาครับ ไม่รู้เป็นตาแดงป่าว" ก่อนที่แม่จะมาถึงตัวด้วยความเป็นห่วง ผมรีบใส่รองเท้าแล้วแจ้นออกจากบ้าน ตลอดทางผมไม่กล้ามองมอเตอร์ไซด์วินเลย เรียนก้อไม่รู้เรื่องกะว่าเลิกเรียนแล้วจะไปนั่งรถจากอีกด้านของซอยจะได้ไม่เจอเขาอีก ผมทำอย่างนี้อยู่เป็นอาทิตย์ เริ่มค่อยสบายใจและคิดว่าไม่มีอะไรหรอกก้อทำตัวเป็นปกติ
     
วันนี้เป็นวันศุกร์ ก่อนเลิกเรียนเรื่องของเขาก้อเข้ามารบกวนในหัวอีก และผมก้อสังเกตุว่าเขาหายไป หรืออาจเป็นจังหวะที่เขาถูกเรียกไปส่งที่อื่น "คงงั้น" ผมยิ้มแล้วส่ายหัว
  "
มึงจะบ้าหรือวะนั่งยิ้มอยู่ได้คนเดียว" เพื่อนผมทักขึ้น
  "
ไง" ผมหันไปทำเสียงกวนใส่มัน
  "
ก้อ อาจารย์ให้มึงไปหา เห็นบอกว่าจะให้มึงเขียนบอร์ด อะไรก้อไม่รู้ สมน้ำหน้าเสือกเกิดมาเก่ง" แล้วมันก้อหัวเราะแกมเยาะเย้ย สงสัยวันนี้กลับเย็นอีกหล่ะผมคิด
  "
งั้นไปด้วยกันนะเว้ย" ผมรีบจองตัวมันไว้
  "
เออ เพื่อนกันไม่ทิ้งกันอยู่แล้วโว้ย" แล้วเราก้อรีบเดินไปหาอาจารย์ด้วยกัน เราช่วยกันทำบอร์ดตามที่อาจารย์ต้องการจนเรียบร้อยแล้วก้อแยกกันกลับบ้าน เมื่อผมมาถึงปากซอยนึกขึ้นได้ และภาวนาอย่าให้เจอเขาเลย ผมมองซ้าย มองขวาไม่เห็นใครเลยใจชื้นกะว่าจะรีบเดิน ๆ ให้ถึงบ้านวันนี้
   "
อ้าวน้อง ไปป่าว" เสียงหนึ่งทักขึ้น ผมสะดุ้งสุดตัวแต่เสียงไม่คุ้นนี่ ผมจึงหันไปมองเห็นวินมอไซด์คันหนึ่งจอดอยู่เยื้องผมไปประมาณสิบก้าวเห็นจะได้ ผมถอนหายใจเฮีอกใหญ่ แต่ก้อไม่พ้นสายตาเขา
   "
ทำไมน้อง คิดว่าใครเห็นถอนใจเฮือกใหญ่เชียว" 
   "
ไม่มีอะไรครับ ผมนึกว่าพี่วินเบอร์ 11"
   "
อ้อ ไอ้เฮี้ย...ต๊ะ อย่าไปถือมันเลย"แล้วเขาก้อยิ้ม พอเขาเห็นผมทำหน้า งง 
   "
ไอ้ห่านี่มันทะลึ่ง แต่จิตใจมันดีนะ ชอบช่วยคน. เออ เห็นว่านอนซมเป็นไข้อยู่ที่บ้านแนะ ไม่เจอหรอกไม่ต้องห่วง"
   "
งั้นไปส่งผมที่บ้านพี่เขาหน่อยครับ" ผมพูดโดยไม่คิดเพราะรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ พี่เขาทำหน้า งง ๆ แต่ก้อไม่ได้พูดอะไรเพราะผมเร่งเล้าเขาให้รีบ ๆ เมื่อถึงหน้าบ้านเขาผมยืนดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วภาพต่าง ๆ ก้อปรากฏขึ้นเป็นลำดับผมรีบเดินไปเคาะประตู
    "
พี่ครับ. พี่ครับ" เงียบหรือจะหลับ "พี่ครับ พี่ครับ" ผมเรียกดังขึ้น
    "
ครับ" เสียงขานรับ อิดโรย ผมเปิดประคูเข้าไปเห็นเขานอนอยู่บนฟูกห่มผ้าอยู่หน้าซีดเชียว พอเขาเห็นผมเขายิ้มกว้างแต่ใบหน้านั้นอิดโรยเพราะพิษไข้ ผมรีบวางของลงและเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ และเอามือแตะที่หน้าผาก ผมต้องรีบชักมือออก
"
เอ้ย ตัวร้อนจี๋เลย" ผมตกใจรีบถาม " นี่ทานยาหรือยังครับ"
"
วันนี้ไม่มีข้าวเลย ไม่รู้จะให้ทานอะไรครับ" เขายิ้มพราง เสียงนั้นแผ่วเบาไม่มีแรง
"
พูดได้อย่างนี้ไม่ตายแล้ว" ผมพูดกึ่งตะหวาด และคิดว่าคนอะไรวะจะตายอยู่แล้วยังมาพูดเล่นอีก ผมรีบลุกขึ้นหาผ้าสะอาดและภาชนะที่พอจะใส่น้ำเย็นได้ 
"
เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ครับ. ต้องให้ไข้ลดลงบ้าง" แล้วผมก้อเอาผ้าชุปน้ำเย็นหมาด ๆ เช็ดที่หน้า ลำคอ หลังหู และเรื่อยไปที่แขน ลำตัว เขามองนิ่งและยิ้มไม่หยุด ผมหาเสื้อสะอาดเปลี่ยนให้เขาเพราะตัวเก่ามันชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"
แล้วพี่มียา พาราหริอป่าวครับ"
"
หลังตู้เย็นครับ" ผมรีบลุกไปดู พอได้ยาแล้วผมก้อแกะห่อก๊วยเตี๋ยวที่ซื้อหลังจากแยกกับเพื่อนกะว่าจะกินให้อิ่มเลยเมื่อถึงบ้าน. แล้วก้อพยุงให้เขาขึ้นนั่งกึ่งนอนพอจะทานอะไรได้ เขาก้อร่วมมือแต่โดยดี
"
ทานก๊วยเตี๋ยวนะครับ ผมไม่มีอย่างอื่นครับ" 
"
ครับ" เขารับคำอย่างว่าง่าย เมื่อผมป้อนเขาจนหมดและป้อนยาให้เรียบร้อย
"
แล้วน้องจะทานอะไรครับ" เสียงนั้นขอบคุณและเป็นห่วง
"
ไม่เป็นไรครับ. ผมไม่หิว"
"
ขอบคุณครับ" เขากำมือผมไว้ ในดวงตากลมโตคู่นั้นชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ ผมยิ้มแล้วเอามืออีกข้างกุมมือตอบ
"
ไม่เป็นไรครับ วันก่อนพี่เลี้ยงข้าวผม วันนี้ผมเลี้ยงก๊วยเตี๋ยวพี่ไง" เขายิ้มน้ำตาไหลอาบลงสองแก้ม
"
พี่ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันนะ" แล้วผมก้อเอาผ้าเช็ดหน้าให้เขา 
"
พี่นอนนะ" เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงผมจะเช็ดตัวให้อีก เขาจะไม่ยอมแต่เห็นผมขยั้นขะยอจึงหลับไปอาจเพราะพิษไข้ด้วยก้อได้ แล้วผมก้อรีบโทรไปบอกที่บ้านว่าวันนี้มีงานจะค้างบ้านเพื่อนไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นผมก้อเช็ดตัวให้เขาทุกสองชั่วโมงและปลุกเขามาทานยาทุกสี่ชั่วโมง ทุกครั้งที่เช็ดตัวให้เขาผมแทบจะอดใจไม่ไหวเลยจริง ๆ ต้องท่อง พุทโธ กำกับไว้ตลอด
"
นี่ก้อใกล้เช้าแล้ว ไข้ก้อลดลงมากแล้ว ผมรีบออกไปเรียกมอไซด์ไปซื้อข้าวต้มมาทิ้งไว้ให้ และเขียนโน๊ตทิ้งไว้แล้วรีบกลับไปบ้านเพราะรู้สึกเพลียเหลือเกิน จากนั้นผมก้อเห็นเขามาขี่มอไซด์รับจ้างได้แล้ว แต่ผมไม่ให้เขาเห็นเพราะไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว
   
นี่ก้อเดือนกว่าแล้วที่ไม่ได้เจอเขาเลย เรื่องต่าง ๆ ก้อเริ่มลืม ๆ ไปบ้างแล้ว วันนี้อากาศดีจริงกะว่าจะไปเดินเล่นเสียหน่อย ผมจึงแต่งตัวแบบสบาย ๆ และออกมายืนหน้าบ้าน ขณะที่กำลังหลับตาสูดอากาศให้เต็มปอดอยู่นั้น ผมก้อต้องสะดุ้งและรีบลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนจะโดนรถเชี่ยว
"
หวัดดีครับ" เขาทำหน้่าทะเล้นใส่ วันนี้เขาไม่ได้แต่งชุดวิน ตัดแต่งหนวดเคราเสียเก๋ไก๋ น่ารักจริง ๆ ผมมองเพลินจนลืมความตกใจเมื่อครู่
"
วันนี้ไปไหนครับ" เขาปลุกผมจากพะวัง
"
กะว่าจะไปเดินเล่นสูดอากาศเสียหน่อยครับ"
"
งั้นขึ้นรถ" เขายื่นหมวกกันน๊อคให้ 
"
อ้าววันนี้พี่ไม่"
"
ไม่ครับ หยุดหนึ่งวัน" แล้วเขาก้อยืดตัวขึ้นใช้สองมือดึงชายเสื้อแล้วบิดไปมา เหมือนจะให้เห็นว่าเขาไม่มีเสื้อวิน
"
ผมไม่ต้องการให้พี่มาตอบแทนอะไรครับ" ผมเสียงเขียว
"
ก้อป่าวนี่ ผมมาขอบคุณแล้วกะว่าจะเลี้ยงข้าว เพราะวันนั้นเลี้ยงก๊วยเตี๋ยวแล้วยังมีข้าวต้มตอนเช้าอีก" ผมส่ายหัวเพราะรำคราญและกำลังจะหันกลับ เขารีบคว้ามือผมไว้
"
จะขึ้นรถ หรือจะให้อุ้ม" เขาเสียงแข็ง
"
เอ้ย ๆ พี่" ผมร้องเสียงหลง เขาลงมาจากรถทำท่าจะอุ้มผม ผมถอยหลังและชูมือกันไว้ เขายิ้มแบบเจ้าเล่ห์ผมเริ่มทนไม่ค่อยไหวแล้วเริ่มอายคนข้างบ้านแล้วเพราะเสียงเริ่มดังขึ้น

 

 

หลุมรักนักบิด ตอนที่3

ผมต้องยอมขึ้นรถไปกับเขาเพราะใจมันอยากไป และด้วยความอายพรางก้อบอกให้เขารีบไป
"
เอ ตกลงเมื่อกี้เล่นตัวเหรอ" ผมลืมตัวตบไปที่หลังเขาดังตุบทั้งเขินทั้งอาย
"
โอ๊ย" เขาร้องเสียงหลง ผมรีบเอามือลูบไปมาที่แผ่นหลังเขาแล้วอมยิ้ม
"
ขอโทษครับ" ผมกระซิบแผ่วเบา เขาเหลียวหน้ามามองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขผมโอบเอวเขาแล้วค่อย ๆ แนบแก้มลงไปที่แผ่นหลังนั้นแล้วหลับตา ผมไม่รู้ว่าเขาออกรถมาเมื่อไร แล้วเราถึงไหนกันแล้วแต่ต้องลืมตาขึ้นเพราะเขาหยุดรถแล้วดับเครื่อง
"
หลับแล้วหรือครับ. คนดี" เสียงนั้นนุ่มนวล ออดอ้อน ออเซาะ ผมเผลอเอามือขยุ่มพุงเขาแล้วลงมายืนหน้าแดงเขายิ้มแล้วเอามือมากุมมือผมเบา ๆ 
"
ขอบคุณ ขอบคุณที่ดีกับผมเหลือเกิน"
"
พี่ก้อพูดเกินไป" ผมหันหลังแล้วออกเดินช้า ๆ เขาลงจากรถแล้วรีบเดินตามมาเดินข้าง ๆ แล้วเอามือมาโอบบ่าผม ผมรีบสะบัดออกเพราะไม่เคยและกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเข้า เขาหัวเราะ หึ ๆ แล้วจ้องหน้าผมเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างยิ่งทำให้ผมเขินอายมากขึ้น รีบหันหลังให้ตอนนี้อะไรต่อมิอะไรเข้ามาในหัวยุ่งไปหมด เขารักเราหรือ หรือแค่อยากขอบคุณ เราคิดมากไปเองใช่ไหม แล้วทำไมเขาต้องพาเรามาเดินเล่น ก้อแค่เดินเล่น ขอบคุณ ก้อเท่านั้น อย่าเพ้อเจ้อ แล้วผมก้อต้องชะงักหยุดคิด
"
คิดไรอยู่ครับ. มา ๆ ทางนี้มีของอร่อย" เขาคว้าข้อมือผมแล้วจูงไปด้านหนึ่งของสวนสาธารณะ ผมไม่ได้ขัดขืนแถมยังตามเขาไปแต่โดยดี วันนั้นเรา หัวเราะ หยอกล้อ กินของอร่อย แลกเปลี่ยนเรื่องนู้นเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน ยิ่งใกล้ ยิ่งรู้จัก ยิ่งทำให้รัก คิดไปไกลว่าถ้าเราคบกันเป็นแฟนคงมีความสุข แล้วความคิดนั้นก้อต้องหยุดลง
"
เย็นแล้ว กลับกันนะครับ" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่มันช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับผม ทำไมความสุขมันสั้นอย่างนี้หล่ะ
"
เป็นไรครับ ปวดหัวเหรอ" เขาทำท่าจะเอามือมาแตะที่หน้าผากผม ผมรีบปัดมือนั้นออกไป ความรักนี่มันทำให้เรากลายเป็นอะไรเนี่ย เขาทำผิดอะไรเราถึงทำแบบนี้ เขาทำหน้าเหรอหรา
"
ผมขอโทษครับ พี่กลับเถอะครับ ผมจะนั่งอีกสักพัก" ผมฝืนยิ้มเจื่อน ๆ ยิ่งทำให้เขางงหนัก
"
ทำไมหล่ะ แล้วน้องจะกลับยังไง" เสียงนั้นระคนความสงสัย
"
ไม่มีไรครับ ผมแค่อยากอยู่คนเดียว" เขานั่งเหยียดตัวหลังพิงพนักเก้าอี้เคียงข้างผม ถอนหายใจยาว
"
พี่ไม่ให้เราอยู่คนเดียวหรอก พี่รู้ดีการอยู่คนเดียวนะมันเหงามากนะ" ไม่รู้เป็นอะไร มีความสุข? เศร้า? ไม่เข้าใจทำไมน้ำตามันไหลอ่ะ เขาตกใจรีบดึงผมไปกอดไว้
"
เป็นอะไร" เขาเอามือมี่กอดลูบหลังผมเบา ๆ เหมือนปลอบ "ไม่เอาครับ ถ้าพี่ทำอะไรผิดขอโทษครับ พี่มันคนไม่ดี มันปากหมา อย่าถือพี่นะครับ" แล้วเขาก้อกระชับกอดแน่นขึ้น
"
เปล่า..ครับ" เสียงผมสั่นเครือ ผมควบคุมไม่ได้ ผมยิ่งรองไห้โฮใหญ่ กอดเขาตอบและส่ายหัวไปมาเพื่อให้เขารู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเขา เขาเอามือจับต้นแขนผมและดันให้เราแยกกัน จ้องหน้าผมแล้วค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ แล้วดึงผมไปกอดไว้อีกครั้ง
"
อย่าอยู่คนเดียวเลยนะ" ผมนึกในใจแล้วจะให้ผมอยู่กับใครหล่ะ กับพี่เหรอ แล้วฐานะอะไร แฟน คนรู้จัก แล้วพี่ไม่เคยพูดกับผมสักคำว่า รัก บังเอิญเสียงโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขามองหน้าจอแล้วยิ้มเดินแยกไปคุยสักครู่แล้วกลับมา พะยักหน้าให้ ผมทำหน้า งง
"
ไป กลับบ้านกัน แล้วเดี๋ยวกินข้าวเย็นที่บ้านพี่ก่อนกลับนะ" เขาเอามือมาตบที่หัวเบา ผมเดินตามไปขึ้นรถแล้วกอดเขาไว้ มันมีความรู้สึกแปลก ๆ แต่ไม่รู้คืออะไร แต่ตอนนี้เราอยู่กับเขานี่คิดอะไรอีก ผมบอกกับตัวเองแล้วก้อกอดเขาแน่น เขาเอามือมาลูบที่แขนผมและตบเบา ๆ ก่อนออกรถ เมื่อมาถึงบ้านเขาให้ผมเข้าไปรอในบ้าน และบอกให้ผมช่วยจัดเตรียมอาหารไว้ด้วยเดี๋ยวเขาทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับมา ผมรับคำแล้วรีบหิ้วของเข้าบ้าน แต่ก่อนที่เขาจะออกรถเขายื่นหน้ามาหอมแก้มผมเบา ๆ เล่นเอาตัวชา ขาไม่ติดพื้นเดินตัวลอยเลย เมื่อผมจัดเตรียมอาหารเสร็จ เห็นเขายังไม่กลับมาเสียที สันดานความอยากรู้อยากเห็นเริ่มเข้ามาในหัว ผมเดินสำรวจไปทั่วบ้าน เห็นกรอบรูปหนึ่งคว่ำอยู่บนหลังตู้เสื้อผ้า ผมหยิบขึ้นดู รูปผู้หญิง ผมยาวสยาย น่ารักมาก ขนาดผมดูยังรู้สึกชอบเลยอายุน่าจะสัก 18 
เห็นจะได้ จิตใจฝ่ายต่ำเริ่มยึดครองสมองของผม ใครกันผมเผลอทำกรอบรูปในมือตกลงพื้นดีนะที่ไม่แตก ผมค่อย ๆ หยิบขึ้นมาประกอบให้เหมือนเดิม เอ มีข้อความหลังภาพด้วย " ขอมอบให้คนที่ แอน รักมากที่สุด" แล้วก้อมีรูปหัวใจ ผมอึ้ง หายใจขัด ๆ นี่เขามีแฟนแล้ว และนี่อะไรมีรูปขนาด 3x3 อีกใบที่ถูกซ่อนไว้หลังภาพนี้ เป็นรูปเขาและแอน ผู้หญิงคนนี้นั่งตักแล้วเขาเอามือโอบไว้ นั้นชัดเลยเขาแค่ขอบคุณเรา เรามันบ้าไปเอง ยิ่งนึกยิ่งอายเขา และก้อคิดว่าเขาช่างใจร้ายเหลือเกินที่มาล้อเล่นกับเราแบบนี้ ผมตัวสั่น เหงื่อแตก ผมรีบประกอบและเอากรอบรูปนั้นวางลงบนโต๊ะกินข้าว แล้วหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนข้อความสั้น ๆ 
"
ขอบคุณมากครับ วันนี้ผมมีความสุขมาก ผมจะไม่ลืมเลยครับและขอให้พี่มีความสุข และไม่ต้องกังวลนะครับผมจะไม่รบกวนพี่อีก ผมสัญญาครับ"
ผมรีบกลับบ้าน เมื่อถึงห้องผมเข้าไปในห้องน้ำยืนใต้ฝักบัวแล้วเปิดน้ำแรง ๆ ร้องให้แบบไม่เคยมาก่อน ในใจก้อคิดว่าจะให้มันล้างทุกอย่างออกไปจากใจให้หมด ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างผมกับเขาเกิดขึ้นในหัว สลับไปมา วนเวียนเหมือนหนังที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ผมยืนอยู่นานเท่าใดไม่ทราบมารู้สึกตัวอีกที่ได้ยินเสียงแม่
"
ตู่ เป็นอะไรหรือป่าว อยู่ในห้องหรือป่าว แม่ได้ยินเสียงน้ำล้นตั้งนานแล้วนะ" ผมตกใจรีบปิดน้ำ
"
ครับ ผมอาบน้ำอยู่ครับ" เมื่อแม่ได้ยินเช่นนั้นก้อเงียบเสียงไปเพราะรู้ว่าไม่มีอะไรแล้วเสียงน้ำนั้นผมก้อรู้เรื่องดี
ผมเดินออกมาเช็ดตัว แต่งตัว และปรับสภาพให้เป็นปกติที่สุดก่อนลงมาทานข้าวเย็นกับที่บ้าน ผมก้มหน้าตลอดเพราะกลัวแม่และพี่เห็นตาที่บวมแดงนั้น
"
เป็นไรป่าว"พี่ผมถามขึ้น ผมส่ายหัวและคิดว่าเดี๋ยวคงต้องมีคำถามอีกมากมายตามมาทั้งจากแม่และพี่ ผมจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
"
แม่ครับ ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมไม่อยู่อาทิตย์หนึ่งนะครับ" แม่วางช้อนและจ้องหน้าผมแบบ งง ๆ
"
ผมไปเข้าค่ายกับที่มหาลัยครับ" ผมยิ้มกลบเกลื่อน
"
อ้าวแล้วเป็นไรตาบวม" 
"
อ้อ...เออ คือเมื่อเย็นผมลื้อของและหนังสือในห้องครับ แล้วฝุ่นมันเยอะครับ" แม่และพี่รู้ดีว่าผมแพ้ฝุ่นเลยรอดไป
"
แม่ก้อบอกกี่หนแล้วให้ทำความสะอาดห้อง บ่อย ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ต้องล๊อคห้องนะเดี๋ยวแม่จัดการให้"
"
ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมหาของไม่เจอครับ" ผมหัวเราะแฮะ ๆ แล้วยกมือขึ้นพนมเหนือคิ้ว "ขอบคุณครับ"
"
เจ้าก้ออย่างนี้ทุกที แล้วกลับมาต้องรีบทำซะนะ" ผมรีบรับปากและขอตัวบอกว่าจะรีบนอนกลัวตื่นสายและไปไม่ทัน เมื่อกลับเข้ามาที่ห้อง เรื่องต่าง ๆ กลับเข้ามาอีก แล้วผมก้อนอนพลิกไปมาจนถึงเช้า
"
เฮ้ยไอ้ต้น กูไปนอนบ้านมึง อาทิตย์หนึ่งนะ" ไอ้ต้นชักสีหน้าร้องลั่น
"
เฮ้ย"
"
เฮ้ย อาราย... ทำอย่างกับกูไม่เคยไปนอนบ้าน"มึง มันส่ายหัว
"
แล้วนี่เป็นไร ตาบวมเชียว ทะเลาะกับแม่มาเหรอ". ผมส่ายหน้า
"
ป่าว กูแค่ไม่สบายใจอ่ะ"
"
แล้วแม่รู้ป่าวเนี่ย กูไม่อยากให้ท่านเสียใจโว้ย แม่มึงก้อแม่กู"
"
เออ ๆ ข้าบอกแม่ว่าจะไปเข้าค่าย อาทิตย์หนึ่ง" มันกอดคอผม
"
งั้นโอเค เราจะได้เที่ยวกันให้ชุ่มปอด เหมือนสมัยปฐมเลย" แล้วมันก้อกระโดดลิงโลด จริงสินะ ผมกับต้นเป็นเพื่อนรักกันและไม่ได้เที่ยวกับมันนานแล้ว อาจเป็นเพราะการเรียนและกิจกรรมของมหาลัย คิดย้อนถึงสมัยนั้นเราสนุกกันมากมันทำให้ผมมีความสุขจนยิ้มออกมา
   
เมื่อผมกลับมาบ้านในตอนเย็นวันเสาร์หลังจากไปนอนค้างบ้านไอ้ต้นมาหนึ่งสัปดาห์ ใจก้อคิดแต่จะเอาเรื่องอะไรมาโม้ให้แม่กับพี่ฟังดีนะถ้าถูกถาม และเมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
"
ตู่" แม่เรียกชื่อผมเสียงเข้มแล้วหยุดลง ทั้งแม่และพี่ไม่มีใครกินข้าว นั่งจ้องหน้าผมเขม็ง ผมก้อได้แต่มองหน้าทั้งสองไปมา ใจก้อตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เกิดอะไรขึ้นวะผมแข็งใจ
"
คร๊าบบบแม่" เสียงทีเล่นทีจริง แล้วยิ้มแหย ๆ 
"
ทำไรมานะเรา" ผมทะลึ่งตาแล้วทำหน้า งง ๆ นี่มันอะไรหว่าผมพูดกับตัวเอง
"
ผม" 
"
ก้อพอเราไปค่าย บ่าย ๆ แม่ก้อเห็นมีคนขี่มอไซด์มาวนไปมาหลายรอบ เรียกให้พี่เราไปดู เขาก้อว่าไม่รู้จัก"
"
หน้าตาอย่างกับโจร ตัวเบ้อเริ่ม " ไอ้พี่มันเสริม ผมยังทำหน้าเหรอหรา ส่ายหัวไปมาและยังไม่คิดว่าเป็นเขา
"
แล้วเช้าวันต่อมา เขามากดออด" แม่ยังไม่ทันพูดจบผมก้อรีบสวนขึ้นมา
"
แม่ถามเขาลยดี้" ผมก้มหน้าแต่ตาเหลือบดูแม่จะว่าไง
"
แม่ก้อถามเขาแล้ว เขาว่ามาหาเรา" ช้อนล่วงจากมือผมเมื่อไรไม่รู้ ผมอ้าปากค้างแล้วแม่ก้อยื่นซองจดหมายให้ผมรีบรับมาแล้ววางลงข้าง ๆ จานข้าว ทั้ง ๆ ที่ใจอยากรู้ใจจะขาด แต่กลัวว่าแม่และพี่จะรับไม่ได้ถ้าไม่ใช่เรื่องดี
"
อ้าวแล้วไม่ดูเหรอ"
"
นั่นดิ" ไอ้พี่มันรุกกะอยากรู้
"
ไม่มีไรหรอก ก้อไอ้ต้นดิมันคงกลัวผมลืมเอกสารที่จะไปค่าย เลยเขียนจดหมายฝากคนมา" 
"
สมัยนี้ มือถือก้อมี e mail ก้อมี ต้นนี่มันคนยุคไหนวะ" ไอ้พี่เลว ไม่พูดก้อไม่มีใครว่าใบ้นะผมคิด หันไปมองแม่กำลังจ้องอยู่คงอยากรู้ว่าผมจะแถไปไงอีก ผมแสร้งหัวเราะ
"
ก้อมันอยู่ที่มหาลัย เออ แบตหมด แล้วมันคิดได้แค่เนี้ย" ผมไม่อยู่เป็นจำเลยต่อแน่นอน เพราะหลังชนฝาแล้ว ผมลีบลุกขึ้นและบอกว่าผมอิ่มแล้วและวิ่งกลับห้องนอน คิดว่าพรุ่งนี้ทั้งสองคงลืมแล้ว ลืมบอกไปครับว่าบ้านผมไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน ขอให้เห็นว่าทุกคนยังยิ้มได้ มีความสุขเขาก้อจะไม่อะไรมากมาย.  เมื่อมาถึงห้องผมรีบฉีกซองออก
"
อยากเจอครับ " แค่เนี้ย ผมพลิกกระดาษไปมา เขย่าซองคิดว่าอาจมีอะไรล่วงลงมาเพื่อเป็นข้อมูลมากกว่าที่อ่านนี้ ก้อไม่มี ใครจะไปเจอคุณแค่นี้ยังไม่สนุกพอหรือ ผมรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวใจ ผมเอามือจับที่หน้าอกแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เหม่อมองพระจันทร์ วันนี้แม้แต่พระจันทร์ยังเหงาหงอยไม่สวยเหมือนทุกครา
"
ให้มันจบลงแค่นี้นะครับ พี่ อย่าให้ผมต้อง..." ผมต้องหยุดพูดกับตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ พุ่มไม้หน้าบ้าน ผมปรับโฟกัสและเพ่งมอง หรือว่าเป็นขโมย

 

หลุมรักนักบิด ตอนที่4

 

อ๊ะ ผมขยี้ตา พี่ต๊ะดูเขาดีใจมาก มาทำไรดึกดื่นป่านนี้ เมื่อเขารู้ว่าผมเห็นเขาก้อบุ้ยใบ้ให้ลงไปพบ ผมส่ายหัวโบกมือปฏิเสธและทำท่าว่าจะนอน โบกมือให้กลับไปเขาไม่ยอม ผมปิดม่านและถอยกลับเข้ามาในห้อง คิดในใจว่าอย่าใจอ่อนเด็จขาดถ้าไม่อยากร้องไห้เสียใจอีก แล้วเดี๋ยวเขาคงกลับไปเอง ผมล้มตัวลงนอนเผลอหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ได้สะดุ้งตื่นเพราะปวดเหยี่ยว นึกขึ้นได้จึงชะเง้อดูจากหน้าต่างเห็นมอไซด์เขาจอดอยู่ที่เดิมแต่ไม่เห็นตัว เมื่อผมเสร็จธุระจึงย่องไปเปิดประตูแล้วออกไปดูก้อไม่เห็นวี่แวว 
"
คงกลับไปละ โถนึกว่าแน่"  จึงคิดว่าจะกลับขึ้นห้องต้องสะดุ้งเกือบร้องออกมา เขาเข้ามากอดผมจากด้านหลัง ผมรีบสะบัดอย่างแรงแต่สู้แรงเขาไม่ได้เมื่อเขาเห็นผมสงบลง
"
เป็นอะไร ทำไมไมพูดกันดี ๆ ครับ" เขากระซิบที่ข้างหู ผมขยับตัว
"
ปล่อยผมนะ" ผมตะหวาดแต่ไม่ได้ดังนัก
"
ไม่ปล่อย ต้องบอกมาก่อนว่ามันอะไร พอพี่อ่านโน๊ตที่เราทิ้งไว้ พี่เหมือนถูกตบหน้า"
"
ปล่อย แล้วเราค่อยพูดกัน" 
"
อย่าหนีพีี่อีกนะ ไม่งั้น" เขาคลายกอดลง ทำให้ผมดิ้นหลุดมาได้ ผมฝาดไปที่หน้าเขาฉาดใหญ่เสียงดังเปรี๊ยะ ในใจผมเจ็บแปล๊บที่ได้ยินเสียงนั้น ผมกำหมัดยืนตัวเกร็ง เขายืนนิ่งยิ้มให้เล็กน้อย
"
ตู่ ตู่จะตบ จะตี จะอะไรพี่อีกกี่ทีก้อได้ ขออย่างเดียวพูดกับพี่และอย่าหนีพี่ไปไหนอีก" พอเขาพูดจบน้ำตาเขาไหลลงอาบแก้ม มันช่างดูน่าสมเพสจริงผู้ชายตัวใหญ่หน้าตาดุดันร้องไห้เหมือนเด็กน้อย ผมรู้สึกผิดและเสียใจที่ทำอย่างนั้น เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือผมไปตบที่แก้มเขาอีกที ผมกระชากมือกลับและโผเข้ากอดเขาไว้ เขารีบสวมกอดผมตอบเหมือนกลัวว่าผมจะหนีเขาไป เอามือหนึ่งขึ้นลูบหัวผมเบา ๆ ก้มลงจูบที่หน้าผากแล้วกอดผมไว้แน่น
"
พี่มันเลวมากใช่ไหม หรือพี่มันจนเป็นแค่มอไซด์รับจ้าง ที่บังอาจมารักตู่" ผมสะดุ้ง "รัก" เขาพูดว่า "รักเรา" ผมเอามือดันตัวเขาออก
"
พี่่ต๊ะ พี่พูดอีกครั้ง พี่พูดอะไร"
"
พี่รักตู่ รักมาก" เขายิ้มเาียงจริงจังหนักแน่น
"
รัก" ผมเน้นคำและหัวเราะเบา ๆ เล่นเอาเขาหน้าเหยไป แต่ก้อพยักหน้าย้ำให้รู้ว่าที่พูดนั้นเป็นความจริง
"
ผู้หญิงสวย น่ารัก ผมยาว...ยังมีหน้ามาพูดว่ารัก มันสนุกมากหรือ"
"
ผู้หญิง..." เขาทวนคำช้า ๆ อย่าง งง ๆ 
"
แอน"
"
แอน" เขายิ้มและเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าสร้อยฉับพลัน เหมือนเป็นคนละคน เหมือนความสูญเสียนั้นเพิ่งเกิดอยู่ตรงหน้า เขาทรุดตัวลงก้มหน้าและร้องไห้ ทำไม ๆ ชายผู้นี้ถึงรักผู้หญิงที่ชื่อแอนนี้ได้มากมายขนาดนี้ ผมรู้สึกอิจฉาขึ้นจับใจแต่ก้อพ่ายแพ้ต่อความสงสารเบื้องหน้า ผมคุกเข่าลงตรงหน้าเขาและดึงเขามาโอบกอด 
"
ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไรครับ พี่รักเขาก้อดีอยู่แล้ว" เขาดึงผมไปกอดไว้และกระซิบเบา เสียงนั้นสั่นเครือ
"
แอน แอนนะ น้องสาวคนเดียวของพี่" ผมตัวแข็งเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่เขาจะโกหกต่อหรือเขาพูดความจริงผมนึกแต่ก้อนิ่งฟัง
"
แอนเสียชีวิติด้วยอุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อน" และดูเหมือนเสียงนั้นจะหายไปในลำคอ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น
"
ไม่เป็นไร ครับ ไม่เป็นไรคนดี" ผมปลอบเสียงนั้นพยายามให้ดูเข็มแข็งอบอุ่น
"
มันเกิดอะไรขึ้นครับ"
"
เป็น...เป็นเพราะพี่. ด้วยความคึกคะนองและดีใจที่ได้รถใหม่ พี่พาแอนไปฉลอง ทุกอย่างก้อดูดี" เขาหยุดและเข้ามาสวมกอดผมอีก ผมงง ไปหมด
"
ตู่กอดพี่ไว้ที. พี่ไม่ไหวแล้ว" ผมรีบกอดเขาไว้แน่น
"
ไม่มีอะไรแล้ว เรื่องมันผ่านมานานแล้วครับ"
"
สำหรับพี่...มันเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เอง......ขากลับจากการฉลองพี่เมานิดหน่อย ขณะที่เลี้ยวจะเข้าซอยบ้านไม่รู้อะไรตัดหน้า พี่หักหลบ แอนตกรถหัวกระแทกกับขอบทาง พี่ร้องเรียกให้คนช่วยแต่ไม่...ไม่มีใครสักคน" ผมกอดเขาไว้และบอกว่า. 
"
พี่พอเถอะ แอนเขาไปดีแล้ว และเขาคงรับรู้และให้อภัยพี่นะ" เรากอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่
"
เรื่องนี้เหรอที่ทำให้ตู่โกรธพี่" ผมพยักหน้่า
"
ผมมันโง่ แต่ก้ออ่ะ พี่ไม่เคยบอกรักผม แถมยังมาแซวว่าผมเป็นไหม ผมก้อนึกว่าไม่มีอะไร" เขายิ้มทั้ง ๆ ที่น้ำตายังเปียกแก้มอยู่
"
เด็กโง่เอ๋ย ถ้าไม่รักใครจะกินข้าวด้วย ใครจะอาบน้ำด้วย แล้วใครจะยอมให้เช็ดตัวและหอมแก้ม" ผมปรับอารมณ์แทบไม่ทันหน้าแดงกล่ำ
"
พี่รู้. อย่างนี้ก้อแกล้งหลับดิ" เขายิ้มและพยักหน้า และดึงผมเข้าไปกอด
"
ถ้าพี่ไม่แกล้ง. พี่ก้อไม่รู้ และอีกอย่างพี่อยากจะรู้ใจตัวเองว่า พี่จะรู้สึกอย่างไรกับตู่.ตอนที่ตู่หอมแก้มพี่รู้สึกชอบ มันอบอุ่นและถวิลหา และเมื่อพี่ไม่เห็นเรา พี่รู้สึกไม่ดีเหมือนชีวิตมันขาด นอนไม่หลับแล้วมันเจ็บที่ใจ" เขากุมมือผมไปวางไว้ที่หน้าอกบริเวณหัวใจ
"
ทำไม ไม่เห็นมีไรเลย" ผมพูดแก้เก้อไปงั้น
"
ไม่รู้จริง ๆ หรือ มันพูดว่ามันรักตู่ไง และมันบอกว่า" เขาเงียบและเงยหน้ามองพระจันทร์
"
ว่าอะไร" ผมถามเหมือนเด็กเล็ก ๆ ออดอ้อน
"
บอกว่าสงสารมันหน่อย อย่าทิ้งมันไปไหนอีก มันคงทนไม่ได้ถ้ามัันจะขาดคนที่มันรักที่สุดไปถึงสองคน" เขาก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากผม มันอบอุ่นมันเหนือคำบรรยาย ผมรู้สึกรักเขามากจนพูดอะไรไม่ออกอีกแล้วผมได้แต่กอดเขาแน่นอย่างนั้น สักครู่เขากระซิบว่า
"
วันนี้ไปนอนเป็นเพื่อนพี่นะ" ผมอายจนหันหน้าไปที่อื่นเขาเห็นได้ทีจึงรุกอีก
"
นะ จะได้ชดเชยและหายคิดถึง...นะครับบบบ" เขาลากเสียงแบบล้อเล่น จากนั้นผมก้อมาที่บ้านของพี่ต๊ะ
(
ตอน อวสานนี้ เดี๋ยวมาต่อให้ครับ อดใจนิดนะครับ)

หลุมรักนักบิด ตอนที่5 จบบริบรูณ์

 

พอมาถึงบ้านเขาก้อเริ่มจู่โจมผมไม่ยอมให้ผมตั้งตัวเลย ผมรู้สึกเขินอายด้วยไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน เลยเหมือนผู้ชายเล่นปล้ำกัน บางครั้งก้อจั๊กจี๋ผมถึงกับหัวเราะคิก ๆ เขาหยุดแล้วมองหน้ายิ้ม ๆ แล้วก้มหน้าจะเอาหนวดไซ้ที่ซอกคอผมอีก ผมเอามือรีบยันหน้าเขาไว้
"
พี่ไปอาบน้ำก่อน เหงื่อทั้งนั้นเลย"
"
รังเกียจพี่หรือครับ" เขาหยุดมองหน้า ดวงตาผิดหวัง ผมหอมที่แก้มเขาแล้วกระชิบว่าถ้ารังเกียจคงไม่หอมนะ
"
ก้อได้ แต่ต้องอาบด้วยกันนะ" เขาลุกขึ้นดึงมือผมยิ้มกว้าง
"
ไม่เอาครับ" ผมขืนตัว หน้าแดง
"
งั้นก้อไม่อาบ"
"
งั้นกลับบ้าน" เมื่อเจอไม้นี้เขาดึงตัวผมลุกขึ้นไปกอด
"
นะ นะ ถูหลังให้พี่หน่อยนะ" เสียงออดอ้อนเหมือนเด็กอยากได้ขนม ผมทนอาการและดวงตานั้นไม่ได้ ผมจับตัวเขาหมุนและคุนหลังให้เข้าไปในห้องน้ำ
"
ถอดเสื่อผ้า" ผมแกล้งพูดเสียงเข้ม แต่ยิ้มกว้าง เขาเห็นอย่างนั้นจึงหยุดยืนนิ่ง ๆ อมยิ้มผมทำหน้า งง
"
ถอดให้หน่อยดิ" เขาเซ้าซี้ ผมส่ายหน้าแต่เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด จนกระทั่งเม็ดสุดท้าย ผมค่อยถอดเสื้อเขาออกเผยให้เห็นอกกว้างที่เต็มไปด้วยไรขน มีกล้ามเนื้ออวบอัดพองาม หัวนมชูชันสีคล้ำ ผมอดใจไว้ไม่ไหวค่อย ๆ เอามือลูบไล้ไรขนนั้นเล่น ละเรื่อยไปที่หัวนมแล้วใช้นิ้วเขี่ยหัวนมเล่น รู้สึกว่ามันเริ่มแข็งเป็นไต ผมมองหน้าเขา ๆ ยิ้มหน้าแดงตัวแข็งถื่อ มีเสียงซี๊ดปากเบา ๆ ผมเลยนึกสนุกเอานิ้วปิดหัวนมเขา
"
โอ๊ย" เขาร้องสุดเสียงตัวงอ ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่ด้วยความสะใจ เขายืดตัวขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแบบมีนัย
"
อะไรครับ" ผมพยายามกลั้นหัวเราะไว้ เขายิ้มแล้วส่งสัญญานว่าให้ผมถอดกางเกงให้
"
ไม่เอา" ผมเบือนหน้ากอดอก เขาเริ่มอ้อนอีกและจับมือผมไปที่ตะขอกางเกงของเขา ผมค่อย ๆ แกะตะขอ รูดซิปลงสายตาก้อจับจ้องที่หน้าของเขา ผมสะดุ้งเพราะรู้สึกว่ามันมีท่อนอะไรดีดออกมาจากกางเกง ผมรีบก้มลงมอง เขารีบตะคลุบมือผมไปจับท่อนลำนั้น อั้ยยะ มันแข็งมากและอุ่น ๆ
"
ชอบไหมครับ" เขาถามนุ่มนวล ผมยิ้ม และเขาก้มลงจูบผมเบา ๆ ผมจูบตอบ ผมรู้ว่าการจูบนี้ทำให้เขาอารมณ์พุ่งพล่านขึ้นไปอีกเพราะท่อนลำที่ผมกำอยู่นั้นมันขยาย แข็งขึ้นและกระตุกเป็นจังหวะ ผมชักเริ่มกลัวเสียแล้วถ้าเราจะมีอะไรกับเขาเราอาจบาดเจ็บหรือเข้าโรงพยาบาลก้อได้ ความกลัวเริ่มครอบงำจิตใจของผม ผมถอนปากออก
"
มีไรครับตู่" แล้วเขาเอามือเชยหน้าผมขึ้น ผมทำปากบู้บี้ไม่กล้าพูด เขากอดผมเบา ๆ แล้วกระซิบ
"
กลัวไรครับ ไม่ต้องกลัวนะพี่รักตู่มาก พี่ไม่ทำอะไรให้ตู่เจ็บหรอก พี่สัญญา" ได้ยินอย่างนั้นผมเริ่มใจชื้นขึ้น
"
จริงนะครับ พี่ต๊ะ" เขาพยักหน้าหงึก ๆ แล้วก้อรูดกางเกงลงไปกองกับพื้นแล้วก้อถอดเสื้อผ้าผมออก ผมยืนตะลึงแต่ไม่ได้ปัดป้องเหมือนต้องมนต์แล้วเขาก้อยื่นหน้ามา เอามือกำท่อนของผมไว้ตอนนี้มันขยายขึ้นบ้างแล้ว
"
ไม่เบาจริง ๆ นะเนี่ย" แล้วเขาก้อจูงท่อนลำผมให้เดินตามเข้าห้องน้ำไป เราพลัดกันอาบน้ำ ฟอกสบู่ถูหลังสระผม กอดกัน จูบกันอยู่นานสองนาน ผมรู้สึกเหนื่อยแต่เหมือนภารกิจยังไม่เสร็จ เขาเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดให้ผม และตัวเขา ผมรู้สึกหนาวขึ้นมานิดหน่อยจึงเอามือกอดอกไว้ เขาค่อยช้อนร่างและอุ้มผมขึ้น ผมทำอะไรไม่ถูกเลยแล้วเขาก้อก้มลงหอมแก้มผม
"
พี่พาไปนอนนะ คนดี" ผมพยักหน้า เขาจึงอุ้มผมแบบไม่รู้สึกว่าหนักเลยมาวางอย่างอ่อนโยนบนฟูก ค่อย ๆ ห่มผ้าให้ผมแล้วจูบที่หน้าผากเบา ๆ ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขเท่านี้มาก่อนลยในชีวิต พรางคิดว่านี่นะหรือความรัก และความสุขที่เกิดจากความรักเป็นเช่นนี้เองหรือ เขาเดินไปปิดไฟและกลับมาค่อย ๆ เอาตัวแทรกเข้ามาในผ้าห่มเริ่มกอดและจูบผมซึ่งผมก้อจูบเขาตอบเช่นกัน
"
ปั้ง ปั้ง" เสียงเคาะประตูและตามด้วยเสียง เอะอะโวยวายดังขึ้น "ไอ้ ไอ้ต๊ะ. ช่วยด้วย ช่วยกูด้วย" พี่ต๊ะทั้งโมโหทั้งตกใจจึงรีบคว้าผ้าเช็ดตัวห่อท่อนล่างไว้แล้วเปิดประตูออก ผมไม่เห็นหรอกว่าใครเพราะเขายืนพูดกันหน้าประตู จับความได้เพียงลูกเขาป่วยหนักและต้องรีบไปโรงบาล แต่รถเขาเสีย เขาไม่รู้จะไปพึ่งใคร พี่ต๊ะบอกให้เขารออยู่ด้านนอกสักครู่ รีบแต่งตัวแล้วมาหาผม เราต่างโผเข้ากอดกัน
"
พี่รีบไปรีบมานะ"
"
ไปเถอะครับ ช่วยคนสำคัญว่า" เขาจูบที่หน้าผาก
"
ให้ได้งี้ซิ กำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่ทีเดียวแต่พี่จะรีบกลับมาต่อให้ติดเชียว" เขาเน้นเสียงให้ดูมั่นใจ ผมยิกแก้มเขาเบา ๆ แล้วบอกให้รีบไป และไม่ลืมที่จะกำชับให้ขับรถอย่างระมัดระวัง ผมนอนพลิกไปมาอย่างคนมีความสุขท่วมท้น รอคนที่รักว่าเดี๋ยวคงมาขึ้นสวรรค์ด้วยกันแต่จนแล้วจนรอดก้อไม่มีวี่แวว ผมเหลือบมองนาฬิกา อัยยะจะหกโมงแล้วเดี๋ยวแม่ตื่นจะใส่บาตรแล้วไม่เจอ ฉิบละซิ ผมอุทานรีบลุกขึ้นแต่งตัว ทิ้งโน๊ตไว้
"
ครั้งนี้ต้องรีบกลับไปก่อนที่แม่จะรู้ ไม่ได้โกรธครับ. ที่รัก " แล้วสาย ๆ เขาก้อมารับที่หน้าบ้านเพราะรู้ว่ามีเรียนเราคุยกันชื่นมื่นเมื่อถึงมหาลัยแล้วก้อนัดแนะให้มารับที่หน้ามหาลัยตอนบ่ายสี่ ผมดูนาฬิกาแล้ว ดูนาฬิกาอีกก้อไม่เห็นแม้เงา เลยเวลามาพักใหญ่ผมรู้สึกไม่ดี จึงชวนไอ้ต้นเป็นเพื่อนรีบไปที่วินถามไถ่ ใคร ๆ ก้อว่าไปส่งคนนั้นคนนี้อยู่ ผมกะไปดักเจอที่บ้านเขาก้อไม่โผล่สักที จนผมและไอ้ต้นหลับไปตอนไหนก้อไม่รู้ 
"
แอ๊ดดดด" เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้ผมและไอ้ต้นตื่นขึ้นแต่ยังไม่ลุก เขากลับมาด้วยอาการเมามาย
"
ยังจะมาเย้ยกันถึงที่บ้านเลยเหรอ" เขาปลี่เข้ามากระชากคอเสื้อไอ้ต้น ไอ้ต้นทำหน้าไม่ถูก งง เป็นไก่ตาแตก
"
โอ๊ย" มันร้องลั่น ผมและมันตะลึงงัน พี่ต๊ะซัดเปรี้ยงเข้าที่หน้าไอ้ต้นจนมันต้องเอามือกุมไว้ เมื่อผมได้สติจึงรีบเข้าไปขวางไว้ก่อนที่ไอ้ต้นจะโดนอีกชุดใหญ่
"
กล้าเอาตัวออกรับแทนมันเลยเหรอ" เขาพูดลิ้นพันกัน ผมรีบไล่ไอ้ต้นกลับบ้าน มันก้อทำตามโดยดีเพราะถ้าอยู่อาจเจ็บหนัก
"
นี่มันอะไรกัน ไม่ไปรับตามสัญญา แล้วไปเมามาแถมยังทำร้ายเพื่อนผมอีก"
'
ก้อคนมันเจ็บใจ โดนหลอกให้รัก ที่แท้มีคนรักอยู่ล้ว"
"
พูดอะไรนะ " ผมเริ่มประติดประต่อเรื่อง ถ้าจะหึงไอ้ต้น ผมกลั้นหัวเราะแล้วคิดว่าไอ้ต้นเพื่อนรักเอ็งมาซวยเพราะข้าจริง ๆ ผมเดินเข้าไปประึองหน้าเขาไว้และจูบเบา ๆ เขาโผกอดผมไว้
"
ทำไมตู่ทำกับพี่อย่างงี้"
"
ทำอะไรครับ พี่ต๊ะผมรักพี่ พี่ได้ยินที่ผมพูดไหมครับ"
"
แล้วที่พี่เห็นที่มหาลัย มันมากไปนะ"
"
มากไป หมายความว่าไง"
"
ต้องกอดกัน ดูมีความสุขมากนะ พี่อิจฉาและเสียใจ"
"
จะบ้าแล้ว" ผมประคองเขานั่งลง และคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
"
พี่ฟังให้ดีนะ ผมกับไอ้ต้นเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ปฐมแล้ว เมื่อบ่ายนะเราคุยกันหลายเรื่องจนมันรู้สึกหมั่นไส้เลยกอดผมและแกล้ง หอมแก้มผมล้อเลียนเพื่อนที่เป็นทอมนะ" เขามองหน้าผม
"
เรื่องจริงนะ ผมรักใครไม่ได้แล้ว พี่ต๊ะ" เขาดึงผมไปกอดไว้
"
จริงนะ อย่าหลอกพี่นะครับ พี่ไม่มีใครเลย พี่ไม่อยากเหงาอีกแล้ว" ผมกอดเขาแน่นให้รู้ว่าผมรักเขาแค่ไหนครู่เดียว
"
ครอก ฟี้" หลับซะละ ผมส่ายหน้าและค่อย ประคองเขานอนลงบนฟูก ถอดเสื้อผ้าเขาออกหมดและเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วผมก้อนุ่งบ๊อคเซอร์ให้เขาและล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เพราะรู้สึกเพลียเหลือเกิน นานแค่ไหนไม่รู้ รู้อีกทีเขามากอดและหอมผมใหญ่ ผมงัวเงียขยับตัวแต่เขาไม่สนใจก้มลงไปปลดกางเกงผมและจัดการกับน้องชายผมจนมันเริ่มตื่น
"
พี่ต๊ะ มันเสียว" ผมร้องเสียงหลงแต่มือก้อยังขยุ้มหัวเขาอยู่. พี่ต๊ะไม่ยอมหยุดใช้ลิ้นแหย่เข้าไปในรูและสลับลากวนหัวถอกสลับกับการดูดแบบเบาและแรง ผมดิ้นเร่าเหมือนปลาถูกทุบหัว
"
พี่ต๊ะืโอ๊ย" ผมร้องได้แค่นั้นแล้วก้อหลั่งน้ำรักเข้าปากพี่ต๊ะ พี่ต๊ะเล็มเลียไม่ให้เหลือสักหยด เขาเลื่อนหน้ามาจะจูบผม ยังมีหยาดน้ำเปลื้อนปลายจมูกและหนวด ผมเอามือปาดออก พี่ต๊ะคว้ามือผมไว้และเอาไปเลียจนหมด
"
เสียดาย ของดีใครเขาทิ้งกัน" แล้วเราก้อแลกจูบกัน
"
เหนื่อยไหมครับ"
"
นิดหน่อยครับ  แล้วพี่ต๊ะหล่ะครับ" เขายิ้มและเอามือมาเขี่ยจมูกผม หอมแก้ม เดี๋ยวรอตู่มีแรงก่อนแล้วเขาก้อซบหน้าลงบนอกผม อ้อลืมบอกผมก้อไม่ได้เป็นคนตัวเล็กเนื่องจากเข้าฟิตเนทเป็นประจำ
"
เดี๋ยวตู่ช่วยพี่หน่อยนะ" เขาพูดขณะที่ซบหน้าอย่างนั้น
"
ครับ" ผมรับคำไปงั้น ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเขาจะให้ช่วยยังไง เรานอนกอดกันอยู่พักหนึ่ง เมื่อเขารู้สึกว่าผมได้พักพอสมควรแล้วเขาก้อลองทดสอบโดยการสัมผัสที่น้องชายผมจนมั่นใจว่าพร้อมแล้ว เขาจึงเริ่มใช้ปากอีกครั้งจนมันแข็งมาก เขาก้อลุกขึ้นนั่งคล่อมผมบริเวณหน้าอก ทำให้ผมเห็นน้องชายเขาชัดเจนแบบประจันหน้า ขณะนี้มันขยายตัวยังไม่เต็มที่หนังหัวเปิดออกเผยให้เห็นหัวสีชมพูเข้มมีน้ำใส ๆ ไหลเยิ้มออกจากปากรู ผงกหัวเป็นจังหวะผมจับมันไม่ให้ดิ้นแล้วเอาเข้าปาก พยายามทำอย่างที่พี่เขาทำให้พักเดียวมันแข็งและขยายขึ้นเต็มสัดส่วนและได้ยินเสียงเขาซี๊ดปากไม่หยุดผมพยายมเร่งขึ้น
"
จุ๊ ๆ " เขายิ้มและเอามันออกจากปากผม และเลื่อนตัวลงไปทำให้ผมอีกมันเสียวมากกว่าครั้งแรกอีก เขาทำจนมันแข็งเป๊ก พี่เขาทดสอบโดยการเอามือดึงลงแล้วปล่อยมันดีดกลับอย่างแรง กระทบที่หน้าท้องผมตั้งเปรี๊ย เขายิ้มและพยักหน้า
"
พร้อมละ" แล้วเขาก้อเอื้อมไปหยิบถุงยางมาใส่ให้ ผมทำหน้า งง คิดว่าพี่เขาจะเป็นคนทำ 
"
พี่บอกแล้วว่าจะไม่ทำให้ตู่เจ็บ. แต่..." เขาหยุดไป
"
แต่" ผมทวนคำ
"
แต่ถ้าตู่ทำให้พี่เสียวไม่ได้พี่จะทำเองนะ" เขายิ้มและก้มมาจูบที่จมูกผม ผมพยักหน้ารับและยิ้มกว้าง
"
รับลองพี่ต๊ะ ผมจะไม่ให้พี่ลืมวันนี้เลย" เขาหัวเราะ
"
สัญญานะ" ผมพยักหน้ารับ จากนั้นเขาก้อโก้งโค้งแล้วให้ผมไปด้านหลัง 
"
ตู่ ลองใช้นิ้วให้มันเคยก่อนนะ" แล้วเขาก้อส่งเจลให้ ผมเอาเจลบีบใส่นิ้วมือและร่องก้นที่เต็มไปด้วยพงหญ้าสีดำขลับ ผมค่อย ๆ แหวกแล้วสอดนิ้วชี้เข้าไปหนึ่งนิ้ว เข้าออก ช้า ๆ ผมรู้สึกว่ามันรัดนิ้วมาก พี่เขาเอื้อมมือมาจับมือผมไว้
"
เดี๋ยว" เขาพูดแค่นั้น สักครู่เขาก้อปล่อยมือ
"
เอ้า" ผมรู้สึกว่ารูนั้นผ่อนคลายไม่บีบรัดมากอย่างทีแรก ผมดันนิ้วเข้าไปจนสุดแล้วดึงออก ช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เร่งขึ้น เมื่อเขาเริ่มซี๊ดปากทำให้ผมรู้ว่าเขาพร้อมมากขึ้น ผมเริ่มใช้นิ้วกลางอีกหนึ่งนิ้ว แต่ทำอย่างช้า ๆ ก่อนเมื่อรู้สึกว่ารูนั้นขยายตัวออก ผ่อนคลายแล้วผมจึงเร่งความเร็วขึ้นอีก
"
ตู่ครับ พี่เสียวเหลือเกินครับ" ผมเอามืออีกข้างสาวน้องชายผมให้เข้าสู่สภาวะพร้อมลุยอีกครั้ง
"
ผมจะลุยแล้วนะครับ" เขาพนักหน้า ผมค่อย ๆ ดันน้องชายเข้าไปเมื่อสุดหัว ผมีูสึกว่าเขาสะดุ้งแล้วเอามือมาดันต้นขาผมให้หยุดแล้วเงยหน้าซี๊ดปาก ผมรอจนรูนั้นเริ่มรัดตัวน้อยลง ผมจึงดันทีเดียวมิดด้าม
"
โอ๊ย" เขาร้องลั่น ผมกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วขบที่ติ่งหู ไซ้ซอกคอ
"
เจ็บหรือครับ" เขาพยักหน้า แล้วเหลียวมาจูบกับผม ผมค่อย ๆ ขยับสะโพกช้า ๆ เขาเริ่มซี๊ดปากอีกครั้ง ผมจึงยืดตัวขึ้นเอามือจับสะโพกเขาไว้แล้วซอย จากช้าแล้วเร็วแล้วกลับมาช้าอีก
"
ตู่ครับ พี่เสียวครับ มันจริง ๆ " เขาสาบดไม่เป็นสับ เนื้อตัวเราทั้งสองชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"
หยุด หยุดก่อนครับ" แล้วเขาก้อจับผมนอนหงายและขึ้นคล่อม เขาค่อย ๆ จับน้องชายผมยัดเข้าไปในรูด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว ผมจับน้องเขารูดขึ้นลงเพื่อช่วยผ่อนคลายความรู้สึกเจ็บนั้น เมื่อเขายัดน้องชายผมเข้าไปจนสุดลำ เขานั่งนิ่ง มองหน้าผมเหมือนคนที่เหนื่อยจากการวิ่งระยะไกลมา ผมยิ้มแล้วเขาก้อค่อย ๆ ลดเข่าลงข้างลำตัวผมและก้มมาเอามือจับไหล่ผมทั้งสองข้าง เป็นท่าที่เขาคุ้นเคยเมื่ออยู่บนหลังมอไซด์ เขาก้มมาจูบผมทีหนึ่งก่อนจะขยับสะโพกขึ้นลงจากช้าจนกระทั่งเร็วมาก 
"
พี่ต๊ะผมเสียว" ผมร้องอย่างไม่คิดขีวิต เขายิ้มเหมือนได้ชัยชนะ
"
เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เราจะเสร็จพร้อม ๆ กันนะ" ผมยิ้มและพยักหน้า เขาดันตัวขึ้น ยกเข่าขึ้นเหมือนนั่งยอง ๆ เผยให้เห็นน้องชายผมที่ยังมุดหัวอยู่ในรูทั้งตัวและปากรูเยิ้มไปด้วยเจลหล่อลื่น เขาเอนตัวไปด้านหลังและใช้มือจับที่ข้อเท้าผมไว้เมื่อขยับเข้าที่แล้วเขาก้อเริ่มโยกย้ายส่ายสะโพกขึ้นลง ซ้ายขวา ช้าเร็ว ใบหน้ามีความสุขท่วมท้นสักพัก
"
โอ้ว ตู่ครับ รักพี่ไหมครับ"
"
สุด ๆ ครับพี่"
"
โอ้ว ตู่พี่่... พี่ไม่ไหวแล้ว" แล้วเขาก้อพุ่งน้ำรักมากมายมาบนตัวผม หน้าอกผม และมีนัดหนึ่งพุ่งมาที่หน้าผม ผมเอามือปาดแล้วเลียจนหมด ผมยังคงกระแทกสวนแรงพี่ต๊ะที่เริ่มจะผ่อนลงแต่รูนั้นยังคงตอดรัดไม่หยุด
"
พี่ต๊ะครับ. โอ้วววววว" ผมตะโกนได้เท่านั้นจริง ๆ ผมรู้สึกว่ามีน้ำมากมายออกจากตัวผมพุ่งเข้าไปในตัวพี่เขา เขาล้มตัวลงทาบทับผมแล้วระดมจูบมากมาย ผมจูบตอบเช่นกัน สักครู่
"
เบ๊าะ" เสียงไอ้น้องผมหลุดออกมา เรามองหน้ากันแล้วหัวเราะ แล้วพี่เขาก้อพลิกตัวนอนหงายข้าง ๆ ผม เราทั้งสองเหงื่อท่วมตัว เปียกแฉะ นอนหายใจหอบระรวยเหมือนผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักแล้วเราก้อหันหน้ามามองกันโดยไม่ได้นัดหมาย เราลุกขึ้นไปอาบน้ำ และก้อต่อกันอีกเกมส์ ซึ่งผมไม่ขอบรรยายนะครับ เพราะไม่ได้แตกต่างสักเท่าใด มีแต่ความเสียวเท่านั้นที่มากขึ้น จากนั้นเราก้อกลับมานอนกอดกัน
"
คู่รักพี่ไหมครับ" ผมหันไปมองดวงตาคู่นั้น สวยงาม จริงใจ และคาดหวัง ผมยิ้มและหันหน้้ากลับ
"
ไม่" เขาพลิกตัวขึ้นมาและจั๊กจี้ผม ผมหัวเราะและดิ้น
"
นี่แนะ ได้เขาแล้วจะไม่รับผิดชอบเหรอ" 
"
รักซิ" ผมพูดเบา ๆ
"
แล้ว ไม่ ไม่อาราย" เสียงนั้นอยากรู้ ผมหัวเราะเบา ๆ
"
ไม่ ไม่ลงจากเตียงเลยไง" เขากอดและเราก้อจูบกันแล้วเขาก้อลุกขึ้นดึงมือผมไปนั่งข้าง ๆ กันที่หน้าต่าง ร่างกายเราทั้งคู่เปลือยเปล่าสามารถมองเห็นได้ชัดเนื่องจากแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา เราต่างคนต่างมองสำรวจรูปร่างของกันและกันรูปร่างของพี่ต๊ะตอนนี้เหมือนรูปั้นของเทพบุตรกรีกที่มีพุงพองาม ผิวขาวนวลละเอียด แล้วเราก้อมองหน้ากัน เขาดึงผมไปจูบเบา ๆ แล้วเอามือโอบเอวผมไว้ผมก้อซบลงบนไหล่พี่ต๊ะแล้วเราก้อนั่งมองพระจันทร์กลมโตนั้นด้วยกัน ในใจผมตอนนี้มีเสียงเพลงแผ่วเบาดังขึ้น 
ครับ I'm yours. เป็นเพลงนั้นจริง ๆ ผมหลับตาลงและอธิษฐานให้เราได้อยู่คู่กันอย่างนี้ตลอดไป...นิรันดร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น