วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เพลงแค้นจากรอยรัก

หลังจากที่บอยพบเขาวันแรก ที่สระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย บอยมักจะพูดถึงเรื่องความรู้สึกอันพึงพอใจในตัวเขาคนๆนั้นให้เพื่อนฟังเสมอ’’เขาเป็นเด็กน่ารักมากนะ รูปร่างงี้เพรียวผิวคล้ำนิดๆว่ายน้ำเก่งชะมัด’’ ‘’แกละก็เป็นอย่างงี้ทุกทีเห็นเด็กเป็นไม่ได้ ‘’ เพื่อนเขาแย้ง’’ก็มันเป็นพวกชายดิสซึม’’อีกคนเสริม ‘’อะไรว่ะชายดิสซึม’’ ‘’ก็ไอ้ประเภทชอบแต่เด็กๆไง ฉันเห็นแต่แกชอบใครทีไรก็ไม่เคยกินเด็ก 15-16 สักที ‘’อ๋อ ศัทพ์ใหม่หรอกไม่เคยได้ยิน’’ บอยบอกว่า ‘’ทั้งๆที่เราภาษาอังกฤษยังเซ่อเลยนิ’’ ‘’เอ่อหัดรู้ไว้ซะบ้าง’’ เพื่อนกระแทกเสียงพูด ‘’แล้วแกรู้แล้วหรือว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร’’ ‘’ยังเลย’’ บอยตอบหน้าตาเฉย จนเพื่อนส่ายหน้าจนเหนื่อยหน่าย ‘’โธ่เอ๋ย แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักแล้วยังเสือกไปชอบมันได้’’ ’’มันเรื่องของหัวใจโว้ย’’ เขาเถียง’’แล้วแกรู้ป่าว’’ ‘’นี่จะบอกให้ก็ได้’’ เพื่อนเขาว่า ‘’ฉันรู้จักมันตั้งนานแล้วมันชื่อเจ’’ ‘’ชื่อเจเหลอ’’ บอยทำตาโต ‘’บ้านอยู่แถวไหนว่ะ’’ ‘’ไม่รู้โว้ย’’ เพื่อนตอบอีกคนนั่งอยู่ใกล้ๆพูดเสียงแหลม ‘’อ๋อนี่คิดไปบ้านมันเลยหรือนังบอย’’ ‘’ปล่าวหรอกแต่มันอยากรู้ว่ะ’’เจเป็นเด็กชายคนหนึ่งที่พวกเขาบอยกำลังพูดถึงอยู่ เขาเป็นเด็กชายอายุประมาณ16ปีกำลังเรียนอยู่มัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่ง ด้วยเกิดจิตปฏิพัทธ์กับเด็กชาย บอยจะไปที่สระว่ายน้ำบ่อยๆ เพราะเขารู้ว่าเย็นๆเด็กชายจะมาซ้อมว่ายน้ำที่นั่น สองสามวันต่อมาบอยได้รู้เพิ่มขึ้นอีกว่าเด็กชายที่เจนั่นเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เคยชนะการแข่งขันภายในจังหวัดมาแล้วหลายครั้งแต่อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนๆว่าเขาเป็นเด็กชายที่เกเรมากจนมีชื่อเสียงเลื่องลื่อ ชอบเกะกะระรานคนอื่นอยู่เสมอโดยเฉพาะในหมู่นักศึกษาแล้ว จะพากันเรียกว่าเด็กปากมอน เพราะชอบแซวนักศึกษาหญิงที่เล่นน้ำอยู่บ่อยๆ รู้อยู่เต็มอกแต่บอยก็อดที่จะหลงใหลพิศวาสในตัวเขามาก บอยพยายามที่จะทำความรู้จักกับเด็กชายให้ได้ และอีกสองวันต่อมา บอยไปเรียนว่ายน้ำที่สระเช่นเคยอาจารย์บอกว่าจะให้ดูการสาธิตว่ายน้ำท่าต่างๆบอยรู้สึกว่าใจเขาเต้นรัว เพราะผู้ที่เดินออกมาสาธิตนั่นคือเจนั่นเอง เด็กชายยืนเด่นเป็นสง่าโดยมีกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวปกปิดอยู่ ร่างกายส่วนอื่นเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาและผิวพรรณอย่างถนัดตา บอยรู้สึกว่าจิตใจเขาตอนนั้นเคลิบเคลิ้ม จนแทบไม่รู้สึกอะไรเลยเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการสาธิตของเด็กชายในวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถึงเวลาอาจารย์ก็ให้ทุกคนลงสระเพื่อทดลองทำตามที่ได้เห็นการสาธิต บอยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้แต่ยืนเกาะขอบสระอยู่’’พี่ไม่ลองว่ายน้ำดูหรือครับ’’ เสียงใสๆเขาเด็กชายที่มายืนอยู่ใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ทำให้บอยยิ้มอย่างเขินๆ เขาจ้องใบหน้าเด็กชายที่ส่องประกายยิ้มอย่างร่าเริงดูยังไรเดียงสาอยู่เลยในความคิดของเขา’’พี่เอ้อ พี่ว่าน้ำไม่เป็น’’ บอยตอบตะกุกตะกัก ‘’เอางี้ไหมครับ เจช่วยหัดให้’’ เด็กชายเสนอตัวตอนแรกก็ตะลึงในคำพูดของเด็กชายไปเหมือนกันเพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเช่นนั้นแต่พอผ่านไปสักครู่รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดขึ้นในใจเหมือนอะไรบ้างอย่างดูดให้บอยเข้าไปใกล้ๆเด็กชายตลอดเวลาและบอยรู้สึกว่าไม่อยากห่างออกจากเด็กชายเลย จนเวลาผ่านไปทุกคนขึ้นจากสระและกลับกันหมดแล้วเขากับเด็กชายยังหัวร่อต่อซิกกันอย่างมีความสุขและเด็กชายก็ขอให้เขาว่ายน้ำกับเขาอีกชั่วโมง ‘’เจว่าพี่บอยแปลกนะครับ’’ เด็กชายถามเมื่อตอนจะขึ้นจากสระ ‘’แปลกยังไงหรือ’’ ‘’ พี่บอยเหมือนผู้หญิง’ เขาว่าซื่อๆ จนบอยรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวข้างฝ่ายเด็กชายช่างคุยก็ซักถามไปเรื่อยๆในเรื่องต่างๆไปหลายเรื่อง จนกระทั่งเวลาเย็นมากแล้ว’’เจจะไปหาพี่บอยที่หอได้ไหมครับ’’ เขาถามก่อนที่บอยจะเดินออกจากบริเวณสระ’’เมื่อไหร่’ ‘’ตอนนี้ครับ’ ‘’ตอนนี้นะหรือ’’บอยทวนคำด้วยความแปลกใจ’’ทำไมครับไปไม่ได้ใช่ไหมครับ’’ปละปล่าวหรอก’’บอยอึกอักเหมือนตั้งตัวไม่ทัน’’ได้ซิยินดีมากด้วย’’ เขารีบกลบเกลื่อนบอยเดินออกมาอย่างมีความสุขในใจโดยที่เด็กชายเดินออกมาตามติดๆบอยนึกในใจว่า’’เอ๋เรารู้สึกว่าจะมีเสน่ห์ไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ’’...เมื่อมาถึงหอพักเขาเปิดประตูให้เด็กชายเข้าไปในห้องพักปรากฏว่าเด็กชายเห็นเพื่อนร่วมห้องของบอย เขายกมือไหว้และทักทายเหมือนคนรู้จักกันมาก่อน’’เฮ้ยแกรู้จักเจหรือ’’บอยถามเพื่อนด้วยความแปลกใจ’’อือ’’ เพื่อนเมทพยักหน้า’’มันมาทำไมว่ะ’’ ‘’ก็เด็กคนนี้ที่ฉันเล่าให้แกฟังว่าเจอเขาที่สระที่ฉันชอบเขาไง’’โธ่เว้ยแกก็ไม่บอกฉันฉันรู้จักมันตั้งแต่ปีที่แล้วน่ะ’’ เพื่อนร่วมห้องบอกเขาแล้วบอยก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง’’ชั้นว่าไอ้เจก็ชอบแกเหมือนกันนะ’’’’เหรอ’’คำอุทานอย่างนี้เป็นเสมือนเอกลักษณ์ประจำตัวบอยไปแล้ว’’แต่ฉันไม่แน่ใจ’’นี่ฉันจะบอกให้ไอ้นี่ปากมอมเป็นที่หนึ่งเลยนะ’’เพื่อนร่วมห้องผู้หวังดีบอกเขาแต่บอยบอกว่าเขาไม่สนใจเรื่องอย่างนี้หรอก ตอนเย็นๆทุกวันเด็กชายจะมาหาบอยเป็นประจำที่หอก่อนที่จะออกไปทานข้าวกันและบางที่ก็ไปเที่ยวกันจนดึกบ่อยๆหรือถ้าไม่ได้ไปไหน เด็กขายก็มานั่งคุยที่ห้องจนดึกถึงจะกลับบ้าน จากความสนิทสนมที่มีต่อกันทำให้บอยได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆของเด็กชายมากขึ้น เขารู้ว่าเจเป็นลูกคนกลางในสามพี่น้องของเขา แต่พ่อแม่ของเขามีเรื่องระหองระแหงกันอยู่เสมอและไม่พูดจากันทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันนั่นเองเด็กชายมีปัญหาเข้ากับพ่อไม่ได้ทำให้เขาไม่ชอบอยู่ที่บ้านมักจะไปสุ่มหัวอยู่กับเพื่อนๆจนใครก็พากันพูดว่า เขาเป็นคนที่เกเรอันธพาล ชอบวุ่นวายในเรื่องต่างๆของคนอื่นอยู่เสมอแต่อย่างไรก็ตามเขาก็มักทำความรู้จักกับคนอื่นได้ง่าย อาจเป็นเพราะท่าทางหรือบุคลิกหน้าตาที่จัดว่า’’ไบร์ท’’มากคนหนึ่ง เจทำตัวแตกต่างกันมากในขณะที่เขาอยู่กับบอยดูเขาเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่พอเขาอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ บุคลิกของเขาก็ดูมีความก้าวร้าวเอะอะ โผงผางเหมือนคนอันธพาลจริงๆ บอยพยายามทำความเข้าใจกับเขาให้กำลังใจและปลอบใจเขาต่างๆ ด้วยคำพูดที่ไม่แสดงความรังเกียจเลยตรงกันข้ามบอยกลับมีความรู้สึกรักใคร่และผูกพันกับเขามากยิ่งขึ้นเสียอีก บอยมักจะให้เวลาพูดคุยกับเด็กชายมากตามที่เขาต้องการทุกวันเมื่อเด็กชายมาหาเขาจะพาเด็กชายออกไปทานข้าวด้วยกันทุกวันวันนี้ก็เช่นกันเขาทั้งสองออกไปทานข้าวแล้วบอยก็พากันไปนั่งคุยกันที่ค็อฟฟี่ช็อป แห่งหนี่งที่บอยเคยไปนั่งดื่มเบียร์อันเป็นเครื่องดื่มที่โปรดที่สุดประจำ ‘’พี่บอยครับให้เจค้างที่นี้ด้วยได้ไหมครับ’’ เด็กชายเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้วแต่แทนที่จะเป็นคำกล่าวลาทุกวัน บอยรู้สึกช็อคในใจ เขาแทบไม่เชื่อหูตนเองนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าและยิ้มอย่างเต็มใจ’’เขารำพึงในใจเบาๆแสงไฟจากข้างนอกที่ส่องผ่านมุ้งลวดเข้ามาภายในห้องแสงลางๆมองเห็นกันได้แม้จะมองไม่เห็นชัดเจนนัก’’เจชอบพี่บอยครับ’’ เขากระซิบขณะที่จมูกลูบไล้อยู่ที่พวงแก้มบอยไม่ตอบแต่รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ เขารอเวลานี้มานานแล้วโดยมิได้แสดงออกให้เด็กชายทราบเมื่อถึงตอนนี้เขาปล่อยให้เด็กชายกอดกระวัดและจูบไซร้ไปทั่วใบหน้าจนเขารู้สึกเสียวซ่านไปหมดทั้งตัว เขาเริ่มตอบสนองอารมณ์ของเด็กชายด้วยการประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเด็กชายอย่างดูดดื่ม ยังคิดอยู่เลยว่าตอนนั้นบอยควรจะเริ่มต้นก่อนแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเด็กชายต่างหากที่เริ่มกระทำราวกับว่าเขาชำชองมากกว่าซะอีก เจระดมจูบเล้าโลมทั่วร่างของคนที่เขาเรียกพี่กระตุ้นอารมณ์ให้ลุกโซนจนมิอาจถอนคืนได้’’เจ’บอยออกเสียงกระเส่า’’จะให้พี่ทำไง’’ เขาถามผ่าวเบาแต่อีกฝ่ายไม่ตอบเขากลับตัวราบลงกับฟูก เพียงแค่นี้บอยก็รู้ว่าสิ่งที่เด็กชายต้องการคืออะไร บอยขยับตัวเองขึ้นไปโลมไล้ไปตามใบหน้าซอกคอ เรื่อยๆลงไปสู่แผงอกอันนวลเนียนในขณะที่มือแกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดจนกระทั่งท่อนบนของเขาเปลือยปล่าว เด็กชายรู้สึกเสียวซ่านจนไม่อาจบังคับเสียงครางกระเส่าไม่ได้ให้หลุดออกมาได้ในขณะที่บอยไซร้ลงไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องมืออีกมือค่อยๆดึงกางเกงนอนของเขาให้ลงไปกองอยู่ที่เท้าเสียงหายใจของเด็กชายดังแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยความกระสันเมื่อความอบอุ่นของลิ้นและปากครอบคลุมอยู่ที่จุดนั้น เขาปล่อยให้การปฏิบัติการของอีกฝ่ายดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็สมตามความปรารถนาของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นทุกคนก็เห็นบอยและเจไปไหนมาไหนด้วยกันจนแทบจะเป็นเงาตามตัวกันตลอดเวลา บอยยอมรับว่ารักเขา’’เจ’มาก เขาหยิบยื่นให้เจทุกอย่างไม่ว่าสิ่งใดที่เด็กชายปรารถนาดูเหมือนเจจะได้ใจมากขึ้นทุกวัน เขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตนเองมากขึ้น จนเพื่อนบอยทุกคนต่างพากันไม่พอใจเขาอย่างมากและพวกเขาก็รุมสับบอยเป็นการใหญ่โดยถูกกล่าวหาว่าถูกเด็กหลอกเอาบ้างเขาเป็นคนหูตาบอดมัวเมาอยู่กับความใคร่บ้างแต่บอยก็ทำตัวเหมือนเดิม’’นี่แกรู้ไหม นังบอย เดี๋ยวนี้แกกำลังตาบอดสนิทเลยนะ’’เพื่อนร่วมห้องของเขาเอ่ยขึ้นในคืนหลังจากที่บอยกลับจากข้างนอก’’ทำไมเหรอ’’บอยแกล้งตีสีหน้าว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด’’ก็ไอ้เด็กนั่นไงรู้ไหมว่ามันเอาเรื่องของแกไปพูดกันว่ายังไงชาวบ้านชาวช่องเค้ารู้กันทั้งบางแล้ว’’ ‘’ก็ช่างเขาปะไรเขามีปากก็ให้เขาพูดไปซิฉันไม่เห็นแคร์อะไรเลย’’ บอยว่าอย่างไม่สนใจอะไรมากนักจนเพื่อนร่วมห้องรู้สึกเดือดขึ้นมาปุดๆต่อการไม่เห็นคุณค่าในความหวังดีของเขา’’อ๋อ หมายความว่าสิ่งที่เพื่อนๆพี่ เขาเตือนแกด้วยความหวังดี น่ะ ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม’’ บอยนั่งอึ้งมิได้เอ่ยปากใดๆ ‘’เอาเหอะเพื่อนหวังดีเขาว่าต่อ’’บอยฉันจะเตือนแกหน่อยนะ ในขณะที่เธอก็มีปัญหาเรื่องอื่นๆมากมายหลายเรื่องทำไมแกต้องเอาใจไอ้เด็กนั่นจนเกินตัวล่ะแล้วมันมาเอาอะไรแต่ละครั้งนะ ฉันไม่เห็นว่ามันมีความรู้สึกอะไรเลย’’เขาว่าไงนะ เขาบอกว่าสิ่งที่เราได้มาง่ายๆน่ะเรามักมองไม่เห็นคุณค่าของมันหรอกทำนองเดียวกันสิ่งที่เจมันได้อะไรไปจากแกอย่างง่ายๆมันก็ไม่เคยนึกถึงคุณค่าของมันเลยแกมีแต่เสียๆลูกเดียวแกเคยได้รับอะไรจากมันไหม นอกจากความใคร่ที่มันปลดเปลื้องมาให้แก’’เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่หวังดีกับบอยมาตลอดระบายความรู้สึกออกมาทั้งๆที่เขาเองไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องอะไรของบอยมาก่อน’’และนอกจากนั้นนะ แกรู้ไหมว่าแกปวดกะบาลกับมันมากเท่าไหร่แล้วมันเอาความทุกข์ความไม่สบายใจมาให้แกอยู่ตลอดเวลา’’เพื่อนเมทของเขาซึ่งตามปกติแล้วไม่ใช่คนพูดมากแต่วันนี้เขานั่งเทศน์ให้ฟังซะยาวเยียด บอยนั่งเงียบใจเริ่มคิดตามคำพูดของเพื่อน เขานึกถึงสิ่งที่เด็กชายทำไว้กับเขา สองสามเดือนที่ผ่านมานี้ เขายอมรับว่าเขาพบแต่ความทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลาจริงๆเพราะเรื่องของเจที่ถูกนักศึกษารุ่นพี่และรุ่นน้องของบอยพากันพูดว่า เขาเป็นเด็กที่สร้างความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลาเพราะเขาจะมักใช้ชื่อบอยเป็นข้ออ้างเสมอในการเข้ากิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัย บางครั้งก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับนักศึกษาจนเกือบๆจะมีการใช้กำลังกันและบอยก็จำต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ จนหลายคนในกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาเริ่มระอาใจกับการกระทำของเจและเริ่มรู้สึกว่าบอยกำลังก้าวล้ำลงไปสู่แนวทางที่ผิดพลาด วันนั้นเจจะมาหาบอยในตอนกลางวันพร้อมกับเพื่อนนักเรียนในเครื่องแบบกลุ่มหนึ่งห้าหกคน ดูแล้วแต่ละคนเนี่ยเหลือเกินจริงๆและที่แน่นอนคือว่าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เจ กับเพื่อนหนีโรงเรียนอีกทั้งๆที่บอยได้เคยบอกกับเขามาหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำตัวอย่างนั้นพวกเขาพากันเขามาในห้องส่งเสียงเอะอะโวยวายอย่างไม่เกรงใจใครสักพักหนี่งเจ้าของหอก็เข้ามาดุด่าบอยเป็นการใหญ่ ที่ปล่อยให้เด็กพวกนั้นส่งเสียงรบกวนคนอื่นที่อยู่ห้องข้างเคียงบอยจึงบอกให้เจพาเพื่อนๆกลับไปแต่แทนที่เขาจะเห็นใจ เจกลับแสดงอาการฮึดฮัดอย่างเดือดดาล’’อ๋อ เดี๋ยวนี้พี่บอยเป็นอย่างนี้แล้วใช่ไหม’’เขาพูดกระชากเสียง’’ได้ เจจะไปก็ได้’’เขาพูดอย่างอวดดี ‘’เจพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น’’บอยพยายามพูดให้เขาเข้าใจ แต่’’ไม่..ไม่ต้องมาพูด นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจจะไม่มาเหยียบที่นี้อีก’’เขาพูดเสียงดังแล้วชวนพรรคพวกออกไป’’ไปโว้ยพวกเรา แคร์อะไรมันละกูหลอกมาได้จนเกินพอแล้ว’’ บอยรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างจังเลือดฉีดขึ้นบนใบหน้าจนแดงก่ำก้อนอะไรสักอย่างขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอแน่นจนพูดอะไรไม่ออกแล้วน้ำตาเอ่อล้นออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างสาหัสต่อคำพูดที่ยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา’’กูหลอกมันมาพอแล้ว...กูหลอกมันมาพอแล้ว..กูหลอก’’ เขาซบหน้าลงกันหมอนปล่อยโฮออกมาดังๆ ‘’บอยอย่างหาว่าฉันซ้ำเติมเลยนะ’’เพื่อนร่วมห้องที่เห็นเหตุการณ์นั้นโดยตลอดเอ่ยเสียง แผ่วๆ’’ชั้นเคยเตือนแกแล้ว’’บอยยังคงรอ้งไห้ จิตใจของเขาว้าวุ้นจนคิดอะไรไม่ออก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่เขาได้ยอมทำมาทุกอย่างเพื่อเจมาตลอดนั้นด้วยความรักความเข้าใจ จะทำให้เขาเจ็บปวดได้มากขนาดนนี้ ยิ่งข่าวการประจานที่เด็กชายเอาไปพูดให้คนอื่นฟัง มาเข้าหูตลอดเวลาที่เขาออกไปข้างนอกจนเขาไม่อยากจะได้ยินมันอีกต่อไปห้าหกวันหลัง เขาก็ฝังตนเองอยู่ในห้องเงียบๆท่ามกลางความเจ็บปวดที่รุ้มเร้าอยู่ตลอดเวลาแม้เวลาเรียนบอยก็ไม่อยากจะออกไปเพราะเขารู้ว่ายิ่งใครเห็นเขาต่างก็พากันฟ้องคำต่างๆนาๆให้ฟังอยู่ตลอดเวลาและมันยิ่งทำให้ความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณแต่แล้ววูบหนึ่งของความคิดกระตุ้นเตือนสติให้เขาลุกขึ้นมา จะไปแคร์มันทำไมมันไม่ได้เป็นคนที่ดีที่สุดนี่นา ยังมีคนอื่นอีกมากมายที่จะเข้าใจฉันมากกว่านี้<เขาคิดในใจ> ความเจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความเจ็บแค้นแทน แรกนั้นเขาคิดจะตอบโต้เด็กชายด้วยการใช้กำลังสั่งสอนซะบ้างแน่นอนถ้าเขาต้องการ เพียงเขาบอกรุ่นน้องแค่นั้นนายเจก็มีอันถูกรุมกระทืบอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้แต่เขาคิดว่ายังไม่หนทางที่ดีกว่านี้นี่นา เรื่องอะไรต้องเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ บอยทำตัวปกติทุกอย่าง เขามีเคยแสดงความสนใจอีกเลยแม้เมื่อเจอหน้าเด็กชายจังๆหลายๆครั้ง เขาทำเหมือนกับว่าไม่รู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ส่วนเจในช่วงนั้นก็เหมือนกับดวงตก เพื่อนๆหลายคนพากันแยกจากกันไปเพราะเดี๋ยวนี้เจไม่สามารถเอาเงินใครมาเลี้ยงเพื่อนๆได้อีกแล้วเหมือนตอนที่เขาอยู่กับบอย เขาจะสามารถเอาทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามที่เขาต้องการหมู่นี้บอยมักจะพบเห็นเจนั่งเหม่ออยู่คนเดียวบริเวณสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล หรือ บริเวณหอประชุมเสมอ เวลาที่บอยเปลี่ยนไปเด็กชายก็มีสีหน้าไม่สบายใจ บางครั้งบอยเองก็แทบจะใจอ่อน คิดจะเข้าไปคุยกับเขาอีกแต่ในขณะอีกใจหนึ่งคอยเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าเจ็บแล้วจำหน่อยนะเมื่อนึกถึงตอนนี้บอยครั้งที่เจจะเห็นบอยเดินเชิ่ดอย่างหยิ่งๆใส่หน้าเขาเวลาผ่านไปเกือบเดือน ข่าวคราวระหว่างความสัมพันธ์ของบอยกันนักเรียนชั้นมัธยมของโรงเรีนนสาธิตคนหนึ่งก็เป็นที่กล่าวถึงอีกเช่นเคยด้วยเหตุที่บอยนั้นมีกิจกรรมหลายอย่างหรือพูดได้ง่ายๆว่าบอยเป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่โดดเด่นจนใครรู้จัก ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นส่วนตัว ของเขาก็มักจะมีคนพยายามทำให้เป็นนที่พูดกันถึงบ่อยๆและที่สำคัญที่สุดก็คือการที่บอยประกาศตัวเองอย่างห้าวหาญว่า’’ฉันเป็นเกย์’’นั่นแหละ เจมักจะเห็นบอยกับทอมขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านหน้าเขาอยู่เสมอโดยที่บอยทำเป็นมองไม่เห็นเจด้วยซ้ำและเจมักจะได้ยินเพื่อนๆเขาพูดกันเสมอว่า’’ไอ้ทอมมันเอาใจเก่งนี่หว่า บอยเลยสบายไป’’แน่นอนเจย่อมเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างทอมกับบอยได้ดี เพราะอย่างน้อยๆสิ่งที่เป็นเช่นนี้เขาก็เคยได้รับมาก่อนก็ไม่แปลกอะไรที่เขารู้สึกเสียดายขึ้นมาลึกๆในหัวใจ แดดอ่อนยามเย็นที่สอดส่องมากระทบกับอัฒจรรย์จนเกิดเป็นเงายาวทาบทาไปกับสนามหญ้าอันอ่อนนุ่มของสนามฟุตบอล เจนั่งซึมอยู่บนชั้นสามของอัฒจรรย์ ดวงตาเหม่อลอยอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย จนเขาไม่รู้ตัวว่าเสียงมอเตอร์ไซต์ที่เข้ามาจอดนั่นโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นทอมซึ่งเป็นเพื่อนเก่าเขานั่งอยู่บนรถ และบอยนั่งติดกันอยู่ด้านหลังแต่ไม่ได้หันมาในขณะที่ทอมคุยกับเขา สักครู่หนึ่งบอยก็ขัดขึ้น’’ทอมไปเหอะ เดี๋ยวดูหนังไม่ทันหรอก’’เขาหันมายิ้มก่อนที่จะสตาร์ทรถออกไป’’ไปดูหนังกันไหมเจ’’เด็กชายไม่ตอบ เขามองจับอยู่ที่บอยที่นั่งโอบเอวเพื่อนเขาอยู่อย่างหยิ่งในศักดิ์ศรีของผู้ชนะ เขายอมรับตัวเองว่าแพ้แล้วอย่างสิ้นเชิงฝ่ายบอยก็หัวเราะกับตัวเองอย่างผู้มีชัย นี่คือการแก้แค้นของฉันนะเจ….โปรดรับทราบซะด้วย<เขาคิดในใจ> เวลาผ่านไปเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะสิ้นสุดลงแค่นี้เพราะเจจะไม่ได้เจอบอยบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว จนกระทั่งวันที่บอยสอบประจำภาคนั้นเสร็จแล้วและกำลังจะกลับบ้าน บอยกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวหลังจากที่จัดเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วในมือของเขามีกระดาษแผ่นเล็กๆที่ทอมฝากมาให้เขาก่อนกลับบ้าน ประตูเปิดออกเจเดินเข้ามา บอยมองหน้าเขาไม่พูดอะไรแม้การทักทาย เจเดินเข้าไปใกล้ๆ ‘’สบายดีหรือครับพี่บอย’’เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล’’ก็งั้นๆ’ เขาพูดอย่างไม่สนใจเท่าไหร่’’เธอละ สบายดีเหรอ’’เจมองไปข้างๆห้องแทนคำตอบเมื่อหลายเดือนก่อนห้องนี้เคยเป็นห้องที่เขาเข้าๆออกจนเคย แต่เดี๋ยวนี้ห้องนี้เหมือนจะเปลี่ยนไปมาก สิ่งที่สะดุดตาเขามากที่สุดคือกรอบรูปบานนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของบอยครั้งหนี่งกรอบรูปบานนี้เคยมีรูปของเจใส่ไว้แต่บัดนี้กลับมีภาพสีโปสการ์ดของทอมที่กำลังเล่นกีตาร์อยู่แทนที’’พี่บอยกลับบ้านเมื่อไหร่ครับ’’เขาถามแต่สายตายังจับอยู่ที่กรอบรูปบานนั้น บอยหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิด’’อีกสองวัน’’เขาตอบด้วยน้ำเสียงปกติก่อนที่จะเพ่งความสนใจไปที่เนื้อหาของหนังสือเขาแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจจะออกไปตอนไหนและพูดกับเขาว่าอะไรบ้างประมาณสี่ทุ่มของวันรุ่งขึ้น บอยจัดโต๊ะ เก็บของที่วางเรี่ยราดให้เรียบร้อยก่อนที่เขาจะกลับบ้านเพราะอีกนานกว่าเขาจะได้มาพักในหอนี้อีกในภาคการศึกษาหน้าเจโผล่เข้ามาในห้อง คราวนี้มีเด็กผู้ชายวัยเดียวกัน หน้าตาดีมาด้วยคนหนึ่ง’’พี่บอยครับ คืนนี้ขอค้างคืนด้วยได้ไหมครับ’’บอยเงยหน้ามองแต่ไม่พูดอะไร’’นี่เพื่อนเจครับชื่อเดฟ’’เขาแนะนำเพื่อนของเขายกมือไหว้และยิ้มกับบอย’’อือเอาซิตอนนี้อยู่คนเดียว เพื่อนเขากลับไปแล้ว’’บอยบอกเขาก่อนที่จัดเตียงอีกเตียงหนึ่งให้เขาทั้งสองคนแสงไฟที่สาดส่องมาจากข้างนอกเลือนราง บอยเห็นเจลุกเดินมาจากเตียงอีกเตียงหนึ่งมาที่เขานอนในขณะที่เจโอบกอด ภาพเหตุการณ์วันนั้นผุดขึ้น’’เจพี่ยังเจ็บปวดยังไม่หายแค้นเธอเลยนะ’’เขาบอกเด็กชายเสียงเครียดเสียงแกมล้อเล่น’’พี่บอยยังแค้นเจอยู่อยู่ใช่มั๊ยครับ ก็แก้แค้นเจซิครับจะได้หายแค้น’’เจพูดกับเขาในเชิงเอาจริงแก้มเล่นหัวเราะเบาๆก่อนที่จะซบหน้าลงบนพวงแก้มของบอย’’อ๋อ แน่นอนที่สุดเจ ฉันต้องแก้แค้นเธอแน่’’บอยพูดอย่างทีเล่นทีจริง’’แหละนี่คือการแก้แค้นของพี่ไง’’เขาพูดแค่นั้นก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตรงไปอีกเตียงหนึ่งที่เดฟเพื่อนชายของเจนอนอยู่แล้วนอนลงบนเตียงนอนโอบกอดเด็กชายที่ดูเหมือนจะแปลกใจมากต่อการกระทำของบอยแต่ก็มิได้ขัดขืนอะไรในที่สุดการแก้แค้นของบอยก็ได้เริ่มขึ้น เจกลืนน้ำลายลงคออย่างเยือกเย็นเพราะภาพที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้านั้น เขารู้ว่าบอยแก้แค้นเขาอย่างไร….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น