วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เพราะงานบวชจึงโดนเบียด

ผมเป็นเด็กบ้านนอกและเป็นคนนิสัยละเอียดอ่อน มาตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนหนังสือครูมักจะชมผม อยู่เสมอว่าเป็นเด็กเรียบร้อย ทำงานส่งก็เรียบร้อย แต่ผมหารู้ไหมว่าไอ้ที่ผมมีนิสัยเรียบร้อยอย่างนั้น มาตั้งแต่เด็กจะส่งผล อย่างแรงกล้าเมื่อผมโตขึ้น ผมกลายเป็นคนมีนิสัยละเอียดอ่อน เหมือผู้หญิงก็แปลกดี รู้สึกอย่างดูอยากเห็นสรีระและสัดส่วนของผู้ชาย ผมเป็นเกย์แล้วฮะผมบอกอย่างไม่อายใคร ไม่เห็นว่าจะผิดด้วย แต่ก่อนผมอ้างว้างว้าเหว่เหมือนกัน คิดว่าคงจะมีผมคนเดียวกระมังในตำบลนี้ที่มีจิตใจเช่นนี้ แต่เดี๋ยวนี้มือเหมือนมีพระมาโปรด จิตใจผมผ่องใสและกว้างไกลกว่าแต่ก่อนมากเมื่อผมมีเพื่อนใจอย่าง’’นีออนและวีค์เอ็นด์เมน’’…เอาละฮะผมจะเล่าประสบการณ์ของผมให้ฟัง เมื่อปี 2532 ผมไปงานบวชพี่ชายของเพื่อน เขามาฉุดผมถึงบ้านให้ไปช่วยงานที่บ้านเขา ผมก็จำใจต้องไป เพื่อนสนิทกันด้วยงานคืนนี้สนุกฮะ พี่ชายเพื่อนเขาเป็น  .ช.ด. จึงมากันเต็มบ้าน บ้างเมาเหล้านอนกลิ้งกันระเนระนาด บ้างตีกลองร้องรำกันอยู่ข้างบนบ้าน ผมเองก็ดูเขานั่งรำวงร้องเพลงอยู่ด้วย ผมมองดู ต.ช.ด.ทุกคน แต่ละคนนั้นเมาแอ๋เลย  แล้วผมก็สะดุดกึกเมื่อรู้ว่าไม่เพียงแต่ผมที่แอบมองอยู่ ต.ช .ด. นายหนึ่งก็จ้องมองผมเหมือนกัน (ไม่ทราบว่ามองอยู่นานเท่าไหร่แล้ว) ผมหลบตาวูบแกล้งเป็นไม่สนใจเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็เห็นเขายังจ้องอยู่ ดวงตาเขาเหมือนมีอำนาจลึกลับ สับตากันทีไรผมร้อนวูบไปทั้งตัวเลยเชียว หนาวๆร้อนๆ ยังไงชอบกล จนทนไม่ไหวนั่นแหละ จึงเดินหลบลงข้างล่างไปหาเพื่อน ผมบอกเพื่อนว่าจะหลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยแห่นาคแต่เช้า และก็เดินกลับบ้านคนเดียว ยังไม่ทันพ้นบ้านงานเท่าไหร่ผมก็ได้ยินเสียงเรียกตามมา ‘’เดี๋ยวครับน้องรอพี่ด้วย’’ ผมหันกลับไปมองที่ต้นเสียง ใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มเลย อีตา ต ... ที่นั่งจ้องผมอยู่นั่นเอง เขาตามมาทำไมกันนะ แล้วเขาก็บอกว่าจะไปนอนเพื่อน เพราะบ้านงานอึกทึกเหลือเกิน เราจึงเดินไปด้วยกัน ทางกลับบ้านต้องผ่านสวนมะม่วงที่ขึ้นเรียงรายอยู่เต็มสวนจนมืดครึ้ม คืนนั้นเดือนมืดเสียด้วย เขาชวนคุยตลอดทางเลย ถามโน่น ถามนี่ กลิ่นเหล้าจากปากเขาแตะจมูกผมตลอดเวลาให้ความรู้สึกแปลกๆ แล้วที่สุดเขาก็โอบไหล่ผมเสียดื้อๆ งั้นแหละผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในใจผมสิคิดอุบาทว์อยากให้เขาทำอะไรมากกว่านั้น ทั้งสวนเงียบสงัด สร้างอารมณ์ดีชมัด  แล้วจู่ๆ เขาก็พูดว่า’’พี่ชอบน้อง’’ รักน้องตั้งแต่เห็นช่วยเสิร์ฟอาหารอยู่บนบ้านงานแล้ว’’ผมใจเต้นตูมๆ เหมือนกลองเลย เขาคงเห็นผมไม่พูดอะไร เขาจึงหยุดเดินแล้วจูบหน้าผากผมเล่นเอาใจผมสั่นใหญ่ ใจหนึ่งก็กล้วแต่อีกใจหนึ่งก็อยากลองเป็นที่สุด แล้วเขาก็โอบผมพาเดินเข้าไปหลังต้นมะม่วงใหญ่ที่มืดครึ้ม ผมก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย เสียงเขารูดซิปกางเกงกลางความมืด ผมเสียบวาบไปทั้งตัว ในใจอยากให้เป็นคืนเดือนหงายจะได้เห็นอะไรต่อมิอะไรของเขาให้ถนัดนี่ แล้วเขาก็จับมือผมให้ลูบคลำของเขา ผมอายมาก แต่เป็นเพราะความมืเผมจึงกล้าทำ เขายืนหันหลังพิงต้นมะม่วงแล้วกดผมให้นั่งลง โน้มศรีษะผมไปซุกตรงระหว่างขาเขา ครั้งแรกอยากจะอาเจียน แต่สักครู่สิ บรื๋อส์ ! อย่าให้เซดเลยฮะ เอาเป็นว่าผมเล่นงานเขาจนร้องครวญครางอย่างลืมตัวเลยล่ะ ไม่นานนักน้ำรักเขาก็ทะลักเขาปากผมหลายอึก โอ้ย ผมงี้อาเจียนเลย (ก็เพิ่งครั้งแรกนี่ฮะ) เขารูดกางเกงทหารลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า กางเกงในสีขาวในความมืดของเขาถูกรูดลงไปเช่นกัน เขาให้ผมคุกเขาไปข้างหน้า ผมใส่กางเกงวอร์ม เขาจึงรูดออกอย่างง่ายดาย ผมรู้ว่าเขาจะทำอะไร เพราะเคยอ่านเรื่องแบบนี้มามาก ผมเจ็บมากเลยนะ เขาจะถามอยู่ตลอดเวลาว่า เจ็บมั๊ยมีความสุขมั๊ย เสียงเขาหอบดังมาก ผมเจ็บอย่างเดียวตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่ามีความสุขเลย เขาใช้มือช่วยผมให้ถึงจุดหมายเช่นเดียวกับเขา หลังจากเสร็จกิจกามของเราแล้วเขาก็เดินไปส่งผมที่บ้าน ส่วนตัวเขาก็กลับบ้านงาน อีกเขาบอกว่าเขาไม่มีเพื่อนอยู่แถวนี้หรอก เพียงแต่อยากรู้จักผมให้มากกว่าการมองเท่านั้นเอง เขาบอกว่าแล้วจะมาหาอีกบ่อยๆ รุ่งขึ้นผมตื่นเอาสายโด่ง เจ็บระบมไปหมดทั้งตัว แถมไม่ได้ไปแห่นาคด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น