ในท้องทุ่งนาที่กำลังตั้งท้องอร่ามไปด้วยสีทองเมื่อกระทบกับแสงแดด
เด็กๆ วิ่งเล่นไล่จับกันไม่กลัวสีผิวจะเปลียน
ผมกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาตัดสินใจเรื่องบางอย่างที่กลัดกลุ้มในหัวใจผม
นัสเป็นเด็กบ้านนอกที่ผมได้รู้จักเขานัสเป็นเด็กที่ซื่อบริสุทธิ์ไม่เคยรู้เรื่องความรักแบบชู้สาวมาก่อน
เหตุที่ผมได้รู้จักคือผมได้มาแสดงมโนราห์ที่วัดบ้านเขา
เขามาดูกับแม่และเหตุบังเอิญที่ผมได้เจอนัส ตอนที่ผมได้แสดงมโนราห์เสร็จเกิดหิวขึ้นมาก็ออกมาหาอะไรทานในบริเวณวัดผมได้เจอนัสที่ร้านขายอาหารและเขากำลังหาของกินเช่นกัน
นัสเข้ามาทักผม ‘’พี่คือคนที่แสดงมโนราห์ใช่ไหมครับ’’ ‘’ ครับทำไมหรือ’’ พร้อมพยักหน้าตอบรับ ‘’คือว่า ….นัสดูพี่รำแล้วสวยดี อยากทำความรู้จักด้วยได้ไหมครับ’’
‘’ ยินดีครับ
น้องชาย ‘’ ผมตอบรับเขาไป
ผมก็เลยชวนนัสทานข้าวด้วยกันนัสพูดเรื่องเขามากมายจนผมจำอะไรไม่ถูก
เมื่อทานเสร็จเรียบร้อย ‘’นัสกลับก่อนนะครับ
แม่กำลังคอยอยู่ ตอนนี้ก็ดึกแล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านลำบาก ‘’ ผมพยักหน้าตอบรับ ‘’นัสจะมาหาพี่ตอนเช้านะครับ’’ ผมรับคำ ‘’ ขอบคุณนะครับสำหรับอาหาร’’ ‘’ ไม่เป็นไรพี่เต็มใจเลี้ยง’’ แล้วนัสก็เดินจากไป
บรรยากาศตอนเช้าในบริเวณวัดเงียบสงัดพระกลับมาจากบิณฑบาตร
เดินเป็นแถวสีเหลืองนวลตา สายตามองไปเห็นนัสเดินมาแต่ไกล นัสถือของกินมากมาย ‘’ นอนหลับดีไหมครับ ในวัดน่ากลัวสักหน่อยนะ
เมื่อคืนผมคิดถึงพี่ทั้งคือ พี่ว่างหรือเปล่า นัสอยากจะชวนพี่ไปเที่ยวน้ำตกด้วยกัน
ผมบอกตกลงเขาไปเพราะตอนเช้าไม่มีงานอะไรทำ ในระยะทางที่เดินไปด้วยกันนั้น
สองข้างทางเต็มไปด้วยสวนยางและสวนสัปรด มากมาย สลับไปด้วยแปลงสวนผัก ‘’ถ้านัสมีพี่ชายแบบพี่สักคนก็ดีนะครับ ‘’ ‘’ ทำไมล่ะ’’ ผมถามนัส ‘’ เพราะพี่เก่งมั้ง ไม่รู้ทำไมผมถูกชะตากับพี่จังเลย ‘’ และอีกหลายๆเรื่องที่นัสสรรหามาคุยเดินมาไม่นานเท่าไหร่ก็เดินมาถึงบริเวณน้ำตกน้ำตกที่นี่ร่มรื่นน่าดูเพราะห่างจากตัวเมืองมาก
ไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว มีเฉพาะชาวบ้านตามระแวกนั้น เท่านั้น
เมื่อเลือกที่เหมาะๆได้แล้ว ผมก็นั่งพิงกับโขดหินใต้ต้นไม้ ‘’ พี่ไม่ลงเล่นน้ำหรือครับ’’ นัสถามขึ้น ‘’ นั่งสักพักครู่ให้หายเหนื่อยก่อน
นัสลงเล่นก่อนก็ได้นี่ครับ ‘’ เขาถอดเสื้อออกหมดเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวแล้วกระโจนลงเล่นน้ำ ‘’ พี่ชื่ออะไรครับ นัสก็ลืมถามคุยเสียตั้งนาน’’ ‘’ พี่ชื่ออัฐครับ’’ นัสเล่นน้ำตั้งนานพึ่งสังเกตรูปร่างนัส
รูปร่างของนัส รูปร่างเขาดูแข็งแกร่งสวยงามมาก หน้าอกขึ้นกล้ามเป็นมัด
หน้าท้องเป็นล่อนสวยงาม และนัสขึ้นมาพักเหนื่อยข้างที่ผมนั่งอยู่ ‘’ พี่มีแฟนหรือยังครับ’’ อยู่ดีๆ นัสก็ถามขึ้นมา ‘’ ถ้าบอกว่ายังไม่มีนัสก็ไม่เชื่อ
เอาเป็นว่าพี่มีเพื่อนมากก็แล้วกัน แล้วนัสล่ะ ‘’ ผมถามย้อน ‘’ ยังเลยครับ ‘’ เขาหน้าแดงขึ้น
เมื่อผมมองหน้าเขา ‘’ผมยังหาใครที่ถูกใจยังไม่ได้’’ นัสกระเถิบเข้ามาหาผมและจับมือผมมาขึ้นกุม ‘’ ถ้าเกิดว่าผมรักพี่ นัสจะผิดหรือเปล่าครับ ‘’ ผมตะลึงกับคำพูดของนัส ‘’ มันผิดนะนัส’’ ผมเตือน ‘’ นัสไม่แคร์’’ ‘’มันเร็วเกินไปนะ’’ ผมหาทางหลีกเลี่ยง ทั้งที่หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น ‘’ ความรักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่และโอกาส
หรือพี่รังเกียจนัส ‘’ ผมเกิดความสงสารขึ้นมาพร้อมความต้องการของหัวใจส่วนลึก
‘’ พี่ก็…นึกรักนัสตั้งแต่แรกเห็น’’ ผมจับนัสจูบปาก นัสตอบรับอย่างแผ่วเบา
รสสัมผัสแรกที่ได้รับเนื้อตัวของนัสสั่นสะท้านส่วนมือของผมก็สัมผัสอาวุธของนัสที่รอการสัมผัสโดยที่มีกางเกงในนั่นเองที่ขว้างกั้นอยู่
อารมณ์ปรารถนาที่ครุ่นขึ้น เราสองคนได้ตอบสนองอารมณ์ของกันและกันโดยไร้ขอบเขตจำกัด
ฝ่ายหนึ่งสอน อีกฝ่ายหนึ่งเรียนารู้ได้รวดเร็วจ ถึงแม้เป็นครั้งแรกก็ตาม
จากหนึ่งเป็นสองเรื่อยๆ จนต่างฝ่ายพอใจในรสรักที่มอบให้กัน ‘’นัสจะรักพี่คนเดียวถึงแม้ว่าพี่จะมีคนอื่นแล้วก็ตาม
นัสจะไม่มีใครให้พี่เสียใจ สำหรับนัสได้ทุกอย่าง’’ ผมเริ่มเข้าใจในตัวนัสมากขึ้น ทุกคืนนัสจะมาดูผมรำมโนราห์
ดูเหมือนว่านัสจะผูกพันกับผมมากขึ้น เมื่อคืนสุดท้ายของการแสดงมาถึง ‘’ พี่อัฐคงจากนัสไปแล้วซินะ ไม่รู้ทำไมนัส จึงมาหลงรักพี่ได้
เมื่อนัสรักพี่แล้ว ทำไมต้องให้พี่จากนัสไปด้วย ‘’ ‘’นัสต้องเข้าใจนะ พี่เป็นนักแสดงต้องออกต่างจังหวัดบ่อย
ถ้าพี่ไม่ใช่นักแสดงพี่ก็ไม่มีโอกาสพบนัส ‘’ คืนนั้นผมกับนัสพร่ำพรอดกันจนถึงเข้าผมก็ให้ที่อยู่นัสไป ‘’ นัสจะรักพี่จนตายครับ’’ นัสบอกผมก่อนจะออกจากวัดไป
ลาก่อนนัสคงมีวันที่เราพบกันอีก ถ้าชาตินี้มาอนาคต
ผมบอกกับตัวเองในใจหลังจากนั้นผมก็ได้รับจดหมายจากนัสอาทิตย์หนึ่งราวสามฉบับผมก็ตอบไปเรื่อยๆ
จนระยะหลังๆ ผมต้องออกต่างจังหวัดบ่อย ก็เลยห่างๆออกไปเป็นเดือนตอบครั้ง
จนกลายเป็นสอง- สามเดือนตอบครั้ง จนมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงผม ‘’พี่อัฐที่รัก พี่ครับ ทำไมพี่หายเงียบไปละครับ 3 เดือนแล้วล่ะครับ รู้หรือเปล่าครับ
ผมคิดถึงพี่มาก พี่คงไม่มีใจต่อนัสเลย จึงลืมเขียนจดหมายถึงนัส พี่ครับ นัสอยากให้พี่มาหานัสจังเลย
อาทิตย์หน้านะครับ ถ้าพี่ไม่มานัสจะฆ่าตัวตาย ถ้าพี่ไม่เขื่อรอฟังข่าวแล้วกัน
ไม่ใช่เขียนมาเพื่อเรียกร้องความสนใจเขียนมาเพื่อจะให้พี่รู้ว่านัสรักพี่เพียงใดตายเสียดีกว่าที่จะอยู่อย่างหมดหวัง
รักสุดหัวใจ ….นัส ‘’ ผมเริ่มใจหายเมื่ออ่านจดหมายนัส จบ นัสเป็นได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ผมไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย ผมเริ่มคิดหนัก ผมจะทำอย่างไรดี ไปหานัสหรือ
วันรุ่งขึ้น ผมเก็บผ้าใส่กระเป่า เพื่อทำสิ่งที่ค้างคาอยู่ ผมมายืนตรงจุดเดิม
ท้องนาที่เคยเดินเล่นใต้ต้นประดู่ที่เคยนั่งคุย สะพานที่ยืนทอดตามองดูปลาว่ายน้ำ
ทำให้ผมคิดถึงวันเก่าที่ผ่านมา ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ผมได้ไปหานัสที่บ้านพบแต่แม่ของนัส แม่ของนัสดีใจที่ผมมา ‘’ นัสนอนป่วยอยู่บนบ้านอยู่หลายวันแล้วโรงเรียนก็ไม่ได้ไป
ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน อุตสาห์คาดคั้นแล้วมันก็ไม่ยอม มันบอกว่าจะรอคุณ’’ ผมน้ำตาคลอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
สงสารขึ้นมาจับใจ ผมขึ้นบ้านตามแม่ของนัสไป นัสนอนป่วยอยู่ในห้อง นัสนอนหลับอยู่
ผมมองดูแล้วร่างกายของนัสซูบผอมลง ผมมองไปร้องไห้ไปผมนั่งดูสักครู่นัสก็ตื่นขึ้นมา
เมื่อเขามองเห็นผมนัสลุกขึ้นมากอดผมโดยไม่อายต่อหน้าแม่เขาเลย
นัสร้องไห้ฟูมฟายและต่อว่าผม ‘’ พี่ลืมผมแล้วใช่ไหม พี่สัญญาต่อผมว่าจะเขียนจดหมายมาหา
แล้วพี่ก็หายไปพี่ลืมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วหรือครับ’’ ผมได้แต่แก้ตัวให้เขาฟัง
หลังจากนั้นผมได้อยู่กับนัสหลายวัน ดูเขากินอาหารได้มาก และแข็งแรงขึ้น
ร่าเริงดูดีขึ้นจนผิดตา ‘’ แม่นัสบอกว่า ‘’ มันรักคุณมาก ฉันไม่ว่าอะไรหรอกที่มันมารักคุณ
มันขาดพ่อตั้งแต่มันไม่เกิด ถือว่าฉันมีกรรมก็แล้วกัน เลี้ยงได้แต่ตัว แล้วคุณล่ะจะเอาอย่างไรกับมัน’’ ผมได้แต่อึ้งไปผมบอกว่าขอคิดดูก่อนและผมจะให้คำตอบ
ผมมาอยู่ได้เกือบเดือน ผมก็กลับ’’ ต้นเดือนหน้าพี่จะมาให้คำตอบ’’ ผมบอกนัสรอที่ท่ารถประจำอำเภอ ‘’ พี่อย่าลืมนะว่านัสคอยพี่คอยความรักจากพี่’’ วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ซ และวันตัดสินใจก็มาถึง
เหตุการณ์ที่เหมือนเดิมผมได้มายืนอยู่หน้าบ้านนัส พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ‘’ นัส…นัส ผมเรียกนัส นัสลงมาจากบ้านตามเสียงเรียก นัสเมื่อเห็นผมดีใจมากมาย’’ ‘’พี่จะมาขออยู่กับนัสด้วยคนได้หรือเปล่า’’ ‘’ ได้ครับ ‘’ นัสพูดพร้อมน้ำตาและเสียงสะอื้น ‘’ นัสจะเลี้ยงพี่เองครับ นัสจะรีบเรียนให้จบไวๆ
จนจบปริญญา’’ น้ำตาผมกับนัสออกมาผสมผสานกัน
เรากอดกันแน่นหนาเพื่อเป็นสัญญาว่าเราจะไม่ผลัดพรากจากกันอีก
วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
เสียวจนต้องเข้าห้องขัง
คืนนั้น… ผมออกจากบ้านไป
ยังสวนสาธารณะแห่งที่เคยไปบ่อยครั้งผมมักจะไปที่นั่นเป็นประจำ
เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากบ้านนักและแต่งตัวได้ตามสบาย เมื่อความมืดย่างกรายเข้ามา
หัวใจดูหเมือนจะร่ำร้องให้ผมมาที่นี่เพื่อแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ
สถานที่ให้ทั้งความสุขความประทับใจความขมขื่นและความอัปยศอดสู
สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นแหล่งที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคลาคล่ำไปด้วยผู้ชายที่ปรารถนาในเพศเดียวกัน
ส่วนใหญ่มักต้องการเสพสุขเพื่อดับอารมณ์ใคร่ เพียงชั่วครู่ชั่วยาม
บริเวณแนวถนนด้านนอกริมรั้วเหล็กของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็เช่นกันจะมีผู้ชายวัยต่างๆ
ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงสูงอายุ บ้างเดินไปมา บ้างก็นั่งบนม้านั่งจับกลุ่มคุยกันหรือนั่งเดี่ยว
ผมก็เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่มาที่นี่
ที่ต้องการผู้ชายที่ตัวเองปรารถนาและถูกรสนิยมของตัวเอง บางครั้งผมก็ได้พบบางครั้งผมก็ไม่ได้และเมื่อไม่ได้ผมจะกลับบ้านด้วยความผิดหวัง
หัวใจมีแต่ความแห้งแล้งแต่เป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
แล้วก็กลับมาอารมณ์ปกติเช่นเดิม
ผมไม่กล้าจะจริงใจและจริงจังกับใครทั้งสิ้นเพราะรู้ดีว่าคนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็ไม่จริงใจกับใครนัก
คบกันเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น จนกระทั่งคืนนั้น คืนที่ผมประทับใจที่สุดและขมขืนที่สุด
ผมมายังสถานที่นี่ตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งดึกดื่นแต่ก็ยังไม่พบใครสักคนที่ถูกใจผมผมได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่งเขาไม่มีสิ่งที่สะดุดตาสะดุดใจผมเลยแม้แต่น้อย
ผมจึงเพียงคุยกับเขาเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้นไม่นานนักเขาก็แยกตัวกลับบ้านเพราะผมไม่อาจสนองตอบคำเสนอของเขาที่ชวนไปนอนด้วยได้
ผมตั้งปณิธานไว้แต่ไหนแต่ไรแล้วว่าเมื่อไม่ได้คนที่ถูกใจก็อย่าไปดีกว่าถึงไปก็คงไม่มีความสุข
จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืนผมคิดจะกลับบ้านเสียที แต่เผอิญมีชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 21 – 23 ปี แต่งตัวทันสมัยเดินเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านนอกของสวนสาธารณ์แห่งนั้น
รูปร่างหน้าตาของเขาช่างสะดุดตาสะดุดใจผมเสียเหลือเกิน
ในที่สุดผมก็ได้พบคนที่ถูกใจแล้วผมคิดเช่นนั้นเขาเข้าไปยืนปัสสาวะ
จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อย แล้วแต่ก็ยังไม่ไปไหนคงยืนอยู่แถวๆ
นั้นเราต่างจ้องมองซึ่งกันและกัน
ผมรู้ตัวเองดีว่าชอบเขาอย่างเต็มเปื่ยมถึงอย่างไรก็จะต้องเข้าไปทักเขาให้ได้
กำลังคิดอยู่นั้นก็มีชายคนหนึ่งเข้าไปหาเขาแล้วพูดกับเขาว่า ‘’ ไปเที่ยวด้วยกันไหม
‘’ เขาพยักหน้ารับอย่างง่ายดายแล้วทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องน้ำไป
ผมได้แต่ผิดหวังและในใจครุ่นคิดไปด้วยความริษยาในเมื่อผู้ชายคนที่มาชวนเขานั้น
ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีกว่าผมสักนิดทั้งรูปร่างและหน้าตาผมได้แต่สมน้ำหน้าตัวเองที่ช้าและอายไม่เข้าเรื่อง
ถึงได้พลาดโอกาสที่ดีๆ อย่างนี้เสมอ มีหลายคนเข้ามาลูบคลำเป้ากางเกงของผม
แต่ผมไม่สนใจ ไม่เห็นจะมีใครที่รูปร่างหน้าดีเทียบเท่าเขาได้เลย ผมเดินออกไปข้างๆ
ห้องน้ำ เห็นเขากับชายคนนั้นนั่งอยู่ด้วยกันข้างกำแพงรั้วสวนสาธารณะชายคนนั้น
พยายามเล้าโลมเขาต่างๆ เช่น จูบปาก ลูบที่เป้ากางเกงเขา แต่ไม่ได้ผล
ดูท่าทางเขาไม่มีอารมณ์ด้วย คล้ายๆกับว่า
อยากหลับตลอดวเลาผมจึงเข้าไปนั่งใกล้กับคนทั้งสอง ถามชายคนนั้น ว่า ‘’ เป็นไงบ้าง’’
ชายคนนั้น
กระซิบบอก ‘’ เขาเมาน่ะ’’ แล้วก็จับมือผมไปวางไว้ที่เป้ากางเกงของคนที่ผมชอบเท่านั้นแหละโอกาสของผมมาถึงแล้ว ผมถลกเสื้อของเขาขึ้นไปถึงหน้าอก
ใช้ลิ้นเลียที่ส่วนหน้าอก ใช้ลิ้นเลียที่ส่วนหน้าอกของเขาจากคนที่ไร้ชีวิตชีวาเพราะมึนเมากลายเป็นตรงข้ามเขาเสียวสยิวจับเนื้อตัวผมไว้มั่น
ผมค่อยๆ เล้าโลมเขาต่ำลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงส่วนกลางลำตัว
ชายที่นั่งกับเขาอยู่ก่อน นั้น ช่วยเหลือผมด้วยการปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงให้
อวัยวะแห่งความเป็นชายของเขาผงาดขึ้นมาด้วยอารมณ์ปรารถนา
แล้วในที่สุดผมก็จัดการกับมันด้วยริมฝีปากของผม ส่วนเขานั้นได้
โต้ตอบการกระทำของผมด้วยการเคลื่อนไหวเอวอย่างได้จังหวะกัน
ปากเขาก็ได้แต่พร่ำพูดว่า ‘’ ผมไม่เคยอย่างนี้มาก่อนเลย’’ ทำให้ผมยิ่งมีความสุขยิ่งขึ้น
เวลานั้นเขานั่งอยู่ข้างรั่วของสวนสาธารณะและผมนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาทั้งสองของเขา
แขนของผมกอดรัดรอบลำตัวของเขาไว้แน่น คิดเพียงว่าต้องการที่จะยึดครอบครองร่างกายเขาไว้ให้นานที่สุด
เท่าที่จะเป็นไปได้ เขากอดรัดผมไว้แน่นเช่นกัน
ในขณะปากผมกำลังวุ่นวายอยู่กับอวัยวะแห่งความเป็นชายของเขาดูเหมือนเราทั้งสองต่างพยายามถ่ายทอดความรู้สึกพึงพอใจให้แก่กันและกันด้วย การสัมผัสที่แนบแน่น และไม่สนใจในสายตาของคนบางคนที่มองดูการกระทำของเราทั้งสอง
ในที่สุดทำนบแห่งความสุขของเขาก็พังทลายในปากผม ผมจัดการกลืนกินจนหมดสิ้นด้วยความเต็มใจและสุขใจอย่างล้นเหลือ
แต่ก็นั่นแหละ ความสุขที่ผมได้รับนั้นไม่ได้อยู่นานนัก หลังจากความสุขสมสิ้นสุดลง
เขาก็ผละจากผมไปโดยไม่กล่าวคำพูดใดๆ ทั้งสิ้นความรู้สึกของผมมึนงงไปชั่วครู่
ผมนั้นชอบเขา ปรารถนาที่จะได้เขามาเป็นสมบัติของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม
แต่เขาก็จากผมไปแล้ว จากไปโดยไม่รู้แม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามเขาคงจะเห็นผมเป็นเพียงสิ่งบำบัดความใคร่ของเขาก็เป็นได้เหมือนเช่นคนอื่น
อีกหลายคนที่ผ่านมาผมเสียใจและผิดหวังผืนความเจ็บช้ำที่ตัวเองได้รับ ยอมรับกับความจริงที่ว่า
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ชีวิตเกย์ต้องพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับความผิดหวังและผมก็ต้องข่มขืนและอัปยศอดสูยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะในช่วงเวลาที่ผมพยายามระงับความเศร้าเสียใจจากเขาคนนั้น
สักครู่ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คันแล่นเข้าจอดบริเวณหน้าห้องน้ำสาธารณะที่ผมยืนอยู่ข้างๆ
ต้นไทรใหญ่คนขับทั้งสองเดินเข้ามาในห้องน้ำ
เวลานั้นผมกับผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่บริเวณต้นไม้ใหญ่นั้นเป็นโชคร้ายของผมแท้ๆที่อ้อยอิ่งไม่ยอมกลับบ้านเสียทีทั้งๆที่เวลานั้นดึกมากแล้วเพราะคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ทั้งสองเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ
เขานำตัวผมและผู้ชายอีกคนไปสถานนีตำรวจ
แล้วยัดเยียดข้อหาว่าเตร็ดเตร่ค้าประเวณีกับเพศชายด้วยกันให้กับผมและผู้ชายคนนั้น
พร้อมบอกด้วยว่าเวลานี้ทางตำรวจมีนโยบายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมกำลังกวาดล้างแหล่งงอบายมุขต่างๆ
รวมทั้งที่ๆ พวกเกย์ชุมนุมกันด้วยอันได้แก่บริเวณสวนสาธารณะแห่งนี้
เจ้าพนักงานสอบสวนไม่ยอมให้ผมเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ
แต่กักขังผมไว้และส่งคดีฟ้องศาลโดยไม่เสียค่าปรับที่นั่น
เวลานั้นผมสับสนมากในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งกลัวและอัปยศอดสูเมื่อเข้าไปในห้องขังได้พบเห็นผู้ชายซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นประมาณ
40 – 50 คน ถูกจับในข้อหาเดียวกัน ทั้งที่กระทำผิดจริงและยัดเยียดข้อหาให้
ผมต้องอยู่ในห้องขังคืนหนึ่งด้วยความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจได้รับรู้ความกักขฬะของผู้ต้องหาบางคนที่มีท่าทางอันธพาลและรีดไถเงินจากผู้ที่เข้ามาใหม่
ได้เห็นการกระทำของตำรวจบางคนทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาที่ถูกจับมาด้วยข้อหาเดียวกับผม
เนื่องด้วยเหตุที่ว่าเขาทำท่าทางไม่เหมือนผู้หญิงและไม่สามารถออกกำลังกายในแบบที่เขาฝึกได้ซึ่งเหมือนกับการใช้ฝึกทหารเกณฑ์ทุกๆคนในห้องขังจะต้องทำก่อนนอนและหลังจากตื่นนอนเข้าโดยทุกๆ
คนต้องถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวเวลานั้นผมไม่มีอารมณ์ปรารถนาใดๆทั้งสิ้น
มีแต่สมเพชเวทนาทั้งสภาพของคนอื่นและตัวเอง เพียงชั่วคืนเดียวสำหรับชีวิตในห้องขังก็เกินพอสำหรับผมแล้วโชคดีเหลือเกินที่เวลานั้นผมมีเงินติดตัวพอเสียค่าปรับโดยไม่ต้องให้ทางบ้านล่วงรู้การกระทำอันน่าอดสูของผม
ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ผมก็ไม่ได้ย่างกรายไปยังสวนสาธารณะนั้นอีกเลยทั้งกลางวัน
และกลางคืน
รักเป็นปลื้ม
เมื่องานเลิก
ผมไปเที่ยวงานแสดงสินค้าราคาถูกอำเภอตะพานหินที่นั่นผมได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งเขาชื่อ
นนท์ ผมพบเขาอีกที่ทำงาน เขาเข้ามาตีสนิทกับผม
แล้วเราก็เป็นแฟนกันและติดต่อกันเรื่อยมา แต่ยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้แก่กัน
พี่นนท์เป็นคนน่ารัก เอาใจเก่งเมื่องานกีฬาสีของโรงเรียนพิจิตร
เขาเป็นนักกีฬาจึงมาชวนผมไปเที่ยวด้วย
เราเที่ยวด้วยกันจนเลิกแล้วไปที่บึงสีไฟต่อจนดึก พี่นนท์เอ่ยปากชวนผมนอนค้างกับเขา
ซึ่งพักอยู่บนหอพัก ไปถึงเขาก็อาบน้ำก่อน แล้วผมจึงเข้าไปอาบบ้าง
พอผมอาบน้ำก็เปิดประตูออก พบพี่นนท์นุ่งกางเกงในสีครีมตัวเดียวนอนรออยู่ที่เตียง
พี่นนท์บอกให้ผมช่วยนวดต้นขาให้หน่อย
เขาบอกว่าปวดขามากเพราะเดินเที่ยวมาทั้งวันและเล่นกีฬาด้วย ผมก็นวดให้เขา
พอนอนหงายผมเห็นของพี่นนท์มันแข็งตุงอยู่ในกางเกงมือไม้ผมสั่นไปหมด
พี่นนท์เอามือผมไปจับของเขาและถามผมว่าชอบไหม ผมก็บอกว่า ‘’ ชอบ’’ พี่นนท์โน้มตัวผมไปกอด
และจูบ เขามีลีลารักที่ร้อนแรงประทับใจผมมาก เขาให้ผมใช้ปากกับเขา
แหมคุณภาพมันคับปากจริงๆครับ…. พี่นนท์ครางดิ้นไปมา แล้วก็ปล่อยพิษรักออกมา
เรามอบความสุขให้กันและกัน จนเกือบสว่าง พอเช้าก็กลับบ้านอีก 4 – 5 วัน ผมก็ไปเที่ยวพิจิตรอีกคราวนี้ผมค้างคืนกับพี่นนท์
3 คืน 2 คืน แรกไม่เป็นอะไร พอคืนสุดท้าย
ขณะที่เราร่วมรักกันอยู่นั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก
มาเกย์คนหนึ่งเข้ามาทำร้ายผมพร้อมกับพูดว่า ผมแย่งผัวเขา เขาจะฆ่าผม
ผมช่วยตัวเองแต่สู้แรงเขาไม่ได้ พี่นนท์ก็เข้ามาช่วยพอผมหลุดออกมาได้
ก็วิ่งไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ เกย์คนนั้นก็หันไปเล่นงานพี่นนท์
เขาชักปืนออกมาจะยิงพี่นนท์ ผมออกจากห้องน้ำเข้าไปทางหลังเขา และแย่งปืนมาได้
พี่นนท์ได้สติก็เข้ามาช่วย
พี่นนท์ต่อยท้องและเอาไม้เช็ดพื้นตีหัวเขาจนสลบพี่นนท์ให้ผมออกไปอยู่ข้างนอกก่อน
เขาจะได้ปฐมพยาบาลกันและคุยกันให้รู้เรื่องประมาณ 3 ทุ่มเศษ
เกย์คนนั้นก็ขึ้นรถขับกลับไป ผมก็เข้าไปถามพี่นนท์ พี่นนท์บอกว่า
เขาเคยติดต่อกับเกย์คนนั้น แต่เกย์คนนั้นมั่วไม่เลือกเขาไม่ชอบ เขาเลยปลีกตัวออกมา
เขาขอโทษผมและบอกว่า เกย์คนนั้นเรียกเงิน 1 พันบาท
แล้วจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย พี่นนท์บอกว่า เงินมีไม่มาก ขอลด 500 บาท เขาก็ยอม
ผมต้องขอโทษที่ทำให้เขาต้องเสียเงิน เขาบอกว่า ยอมเสียเงินดีกว่าเสียผมไป
ผมได้ฟังอย่างนั้น เป็นปลื้มเลย…ครับนี่แหละที่เขาเรียกว่า
รักจริงจนกระทั่งบัดนี้ เราก็ยังติดต่อกันอยู่ โดยไม่มีอุปสรรคอีกเลย…
กับพ่อผมเอง
หวัดดีครับ ผมมีประสบการณ์ที่ใครหลายคนอ่านแล้ว
อาจจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดทำนองครองธรรม แต่ผมขอยืนยันครับว่าเรื่องทั้งหมด
มันเกิดขึ้นจากพื้นฐานของคำว่าความรักจริงๆ
และที่สำคัญมันเป็นเรื่องจริงที่ผมไม่อาจจะโกหกตัวเอง
หรือแต่งเรื่องเพื่อหลอกใครๆได้ เรื่องนี้อาจจะถูกเซนเซอร์ผมก็ไม่ว่า
เพียงแต่ผมอยากขอละบายความรู้สึกและความสุขนี้
ให้ใครหลายๆคนได้รับรู้เท่านั้นเองครับ
ตอนนี้ผมอายุ 17 ปี ผมเกิดในต่างจังหวัด เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างดี พ่อผมทำงานบริษัทปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกใหญ่โต แม่ผมทำงานธุรกิจเช่นกัน ด้วยความที่ไม่เข้าใจกันอาจเป็นเพราะท่านไม่มีเวลาให้กันมาก จึงทำให้ท่านทั้งสองต้องแยกทางกันตั้งแต่ผมอายุได้ 6 ขวบ
ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็อยู่กับพ่อตลอด แม่ผมทิ้งผมไปแต่งงานใหม่กับฝรั่งเจ้าของธุรกิจที่เมืองนอก นานๆจะกลับมาเยี่ยมผมสักครั้ง คุณพ่อผมท่านทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้อย่างไม่มีที่ติ ท่านรักและเอาใจใส่ผมมาก ตอนนั้นผมรู้แต่เพียงว่าผมรักพ่อแล้วพ่อก็รักผม ทุกวันเราจะทานข้าวด้วยกัน นั่งดูทีวีด้วยกัน เล่นกีฬา นอนด้วยกัน ลืมบอกไปว่าพ่อผมเป็นนักกีฬา และท่านอยากให้ผมเป็นนักกีฬาด้วย จึงไม่น่าแปลกว่าทำไมปัจจุบันท่านอายุตั้ง 44 ปี แล้วท่านยังแข็งแรง หล่อและหุ่นดีอยู่เลย
ทุกวันเราจะมีกิจกรรมแบบนี้ร่วมกัน แม้กระทั่งเวลาอาบน้ำเราก็มักจะอาบด้วยกันเสมอ มีหลายครั้งที่ผมมองพ่อด้วยความสงสัย ถามท่านอยู่ประจำว่าทำไมของผมไม่ใหญ่เหมือนของพ่อ ทำไมไม่มีไรขนอ่อนเหมือนกัน บางครั้งเวลาอาบน้ำผมแอบสังเกตว่า ของพ่อมันแข็งตัวขึ้นเป็นลำเวลาท่านฟอกสบู่ ผมก็มักจะถามเหตุผลเสมอว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งท่านก็มักจะตอบว่าเดี๋ยวโตขึ้นก็รู้เอง ซึ่งผมก็คงหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น เพราะความไร้เดียงสานั่นเอง
ช่วงเวลานั้นเราสองพ่อลูกมีความสุขมาก พ่อไม่เคยทำให้ผมต้องเสียใจเลยสักครั้ง จะมีบ้างก็บางครั้งที่พ่อพาเพื่อนหญิงเข้าบ้าน ผมร้องไห้ไม่ยอมหยุด พ่อก็บอกถึงความหวังดีของท่านว่า อยากหาใครสักคนมาดูแลท่านและผมแทนแม่ ซึ่งผมก็เข้าใจ แต่ผมทำใจไม่ได้ที่จะมีใครมาแบ่งความรักของพ่อไปจากผม
ผมบอกกับพ่อเสมอว่าถ้าไม่มีใครเดี๋ยวผมจะดูแลพ่อเอง ซึ่งนับจากวันนั้นพ่อก็ไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านอีกเลย แม้จะมีหลายๆคนมาสนใจก็ตาม
มันเป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนผมอายุได้ 15 ปี วัยที่เริ่มจะรู้เรื่องราวต่างๆมากขึ้น วัยที่ในความคิดมีแต่ความสงสัย ผมรู้จักการช่วยตัวเอง และรู้จักประสบการณ์ทางเพศครั้งแรก จากเพื่อนชายของผมเอง นับจากวันนั้นนั่นเอง ทุกครั้งที่ผมอยู่กับพ่อ ผมจะมีความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก หลายครั้งที่ผมอาบน้ำกับพ่อ ผมเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆผมเริ่มสังเกตเรือนร่างของพ่อ รูปร่างของท่านน่ามองยิ่งนัก ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าท้องเป็นรอนสวย ไม่มีแม้ไขมันที่บ่งบอกถึงคนอายุ 44 ไรขนอ่อนๆบริเวณหน้าอก ไล่ลงมาบริเวณสะดือและเนินหัวหน่าว ท่อนลำที่กวัดแกว่งไปมาเวลาท่านฟอกสบู่ ยิ่งเวลาท่านล่นหนังหุ้ม เพื่อทำความสะอาดมันเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก ผมไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ควยแข็งขึ้นมาเวลาอาบน้ำกับพ่อ จนผมต้องสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองทุกครั้ง มีหลายครั้งที่พ่อผมเห็นเวลาควยของผมแข็งแล้วท่านก็ยิ้มแปลกๆ ซึ่งผมมักพูดค้อนใส่ท่านว่า ก็ผมโตเป็นหนุ่มแล้วนี่ครับ ท่านก็มักจะตอบว่าเหรอ และตรงเข้ามาปลุกปล้ำบีบและคลึงควยของผม และท่านก็บอกว่าอืม โตขึ้นจริงๆด้วย ซึ่งทุกครั้งมันจะเป็นเช่นนี้ ซึ่งตอนนั้นผมรู้ว่าท่านคงไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากการหยอกล้อกันด้วยความรัก แต่ผมสิกลับรู้สึกมีความสุขมากทุกครั้งที่ท่านทำแบบนั้น
จากวันนั้นผมนอนกอดพ่อด้วยความรู้สึกแปลกๆ นอนบนแผ่นอกที่มีไรขน และมีแต่มัดกล้าม อืม...ผมลืมบอกไปว่าท่านมักจะชอบนอนถอดเสื้อ สวมกางเกงแพรบางและไม่ชอบใส่กางเกงใน ผมต้องนอนใจสั่นระทึกทุกคืน มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ซึ่งเวลานั้นมันไม่เหลือแล้วซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในหัวผม ผมรู้แต่เพียงว่าผมยอมมอบทั้งกายและหัวใจให้พ่อ เพราะผมรักพ่อและผมรู้ว่าท่านก็รักผมมากด้วย
จากวันนั้นผมจึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้พ่อเป็นของผม เริ่มจากทุกครั้งเวลาที่อาบน้ำผมมักจะยืนอาบน้ำที่ฝักบัว (ซึ่งปกติมักชอบอาบในอ่างกัน
ถูสบู่นานผิดปกติ เคล้นคลึงตามหน้าอก ขา และแก้มก้นทั้ง 2 ข้าง รูปร่างผิวพรรณผมจัดว่าดีมาก คงเป็นเพราะชอบเล่นกีฬานั่นเอง ซึ่งผมรู้ว่าพ่อก็คงมองผมอยู่
หลายครั้งที่ผมเหลือบไปเห็นท่อนลำควยของพ่อแข็งตัวขึ้นมา ขนาด 7 นิ้วได้ หัวแดง เหยียดตรง มันช่างน่าจับน่าดูดยิ่งนัก พ่อคงห่างผู้หญิงนานเหมือนกันเลยมีอารมณ์ง่ายขนาดนี้ ผมอาบน้ำจนของผมแข็งตัวทุกครั้ง และมักจะอวดพ่อว่าของผมใหญ่กว่าพ่ออีก พ่อมักตอบว่าเหรอ และลงท้ายด้วยตรงเข้ามาจับควยผมเช่นเคย และบอกให้ผมรีบอาบน้ำและเช็ดตัวทุกที และคืนที่ผมมีความสุขมากก็มาถึง ผมบอกกับตัวเองว่าเป็นไงเป็นกัน คืนนั้นผมใส่กางเกงบอลตัวโปรดตัวเดียวโชว์ต้นขาขาว ขากว้างลึกจนเห็นแก้มก้น ส่วนพ่อก็นุ่งกางเกงแพร เปลือยอกเช่นเดิม พ่อนอนดูทีวีอยู่ในห้องนอนอย่างสบาย ผมเดินมาทางด้านหลังพ่อเห็นท่านนอนเปลือยอก เหยียดขาเอกเขนก ผ้าแพรแนบเนื้อตามกล้ามขาแข็งและท่อนลำควย ให้ได้จินตนาการถึงอะไรต่อมิอะไร ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ยิ่งนัก ผมอุ่นนมร้อนและชามาให้พ่อดื่ม พ่อผมก็เอื้อมมือมาหยิกแก้มผมแล้วพูดว่า
"วันนี้น่ารักเชียวนะเรา จะขออะไรพ่อหละ"
ผมก็อ้ำอึ้งอยู่นาน ผมก็รวบรวมความกล้าตอบไปว่า
" ผมอยากรู้ครับว่าผู้ชายกับผู้หญิงเค้ามีอะไรกันยังไง"
ลืมบอกไปพ่อผมท่านมีวีซีดีเอ็กซ์หลายแผ่น เก็บไว้ในตู้อย่างดี ท่านไม่อยากให้ผมดู แต่อย่างว่าครับเด็กอยากรู้อยากเห็นอย่างผม รู้ที่เก็บกุญแจก็เลยดูซะเกลี้ยงแล้วสิครับ
" ไม่เคยรู้เลยเหรอ เพื่อนๆก็ไม่บอกหรือให้ดูหนังอย่างว่าบ้างเหรอ" ท่านตอบ
" ไม่เลยครับ นะพ่อนะ(ผมอ้อน
เดี๋ยวเพื่อนมันล้อผมแย่" สักครู่ท่านก็ใจอ่อน เดินไปหยิบวีซีดีจากในตู้ซึ่งทุกเรื่องผมดูจนปรุหมดแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่เคยดู แถมแซวท่านอีกว่า
" มีของดีไม่ยอมบอกเลยน้า"
ท่านก็ยิ้ม หลังจากเปิดหนังได้สักพัก ผมก็สังเกตดูท่านสูดหายใจแรงขึ้นๆ แขนของท่านที่คล้องคอผมเริ่มมีเหงื่อกาฬไหล ท่อนลำที่อยู่ในกางเกงแพรของพ่อเริ่มพองโต ซึ่งของผมก็เหมือนกัน เวลานั้นหัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก
" พ่อ ทำไมเค้าจึงมีน้ำสีขาวขุ่นไหลพุ่งออกมา" ผมถาม พ่อตอบว่า
" เค้าเรียกว่าถึงจุดสุดยอด เวลาเราร่วมเพศกันถ้าถึงจุดที่มีความสุขที่สุด ก็จะมีน้ำอสุจิพุ่งออกมา พ่อก็มี โจ้(ชื่อผม
ก็มี ผู้ชายทุกคนก็จะมี"
พ่อถามต่อ " อ้าว แล้วอย่าบอกนะว่าไม่เคยช่วยตัวเอง"
ผมตอบ " ไม่เคยครับ พ่อสอนหน่อยดิ(ไม่รู้ตอนนั้นพูดไปได้ไง
"
พ่อผมก็หัวเราะ จากนั้นท่านก็เดินไปปิดทีวีแล้วบอกว่า
"เร็วไปน่า ยังเด็กอยู่แท้ๆนอนเถอะ"
พ่อกำลังจะเดินไปปิดไฟ ตอนนี้ผมคิดแล้วว่าเป็นไงเป็นกัน หน้าด้านมาถึงนี่แล้ว ผมก็ร้องเสียงดังขึ้นมา
" โอ๊ยพ่อ ไม่รู้เป็นไร เจ็บในเป้าจัง "
ผมแกล้งเอามือกุมเป้าและดิ้นไปมา พ่อผมตกใจวิ่งเข้ามาขอดูด้วยความเป็นห่วง
" ไหนๆดูสิ สงสัยดูหนังมากไป"
จากนั้นพ่อผมก็อุ้มผมไปนอนบนเตียง ท่านบรรจงถอดกางบอลตัวจิ๋วผมออก เจ้าควยตัวดีของผมก็ดีดผึงขึ้นมา ขันสู้ทันที ผมอายได้แต่หลับตาแต่ร้องว่าปวด พ่อผมก็ถามว่าปวดตรงไหนท่านก็จับควยผม พลิกไปมา ซ้ายขวา ล่นหนังหุ้มผมลงก็แล้วผมยังบอกว่าไม่หายปวด
" เวลาผู้ชายมีอารมณ์มากๆไม่ได้ระบายออกก็เป็นแบบนี้แหละ"
ท่านพูด ตอนนี้ผมกล้าที่จะมองหน้าท่าน ผมมองดูภาพมือสากๆของพ่อผมกำลังคลึงเคล้าเพื่อให้ผมหายปวดลง ท่านนอนอยู่ข้างผม ผมเริ่มสังเกตว่าตอนนี้พ่อผมก็มีอารมณ์เหมือนกัน ท่อนลำตัวเขื่องดุนดันกางเกงแพรแทบปริ
ผมสบตาท่านท่านสบตาผม ผมเอื้อมมือไปลูบเคลาสากๆของท่านเบาๆ สายใยความรักความผูกพันเชื่อมถึงกันทางสายตาและการสัมผัส ผมรวมความกล้าเข้าไปจูบท่าน ริมฝีปากประกบริมฝีปากท่านส่งลิ้นตอบสนองผมเป็นอย่างดี
" ผมรักพ่อ ยอมเป็นของพ่อครับ"
เรามองตากันอีกครั้ง วินาทีนี้เป็นเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด จากนั้นพ่อก็บรรจงจูบที่แก้มและที่ปากผมต่ออย่างดูดดื่ม ไซร้เรื่อยมาที่คอ หัวนม2ข้าง ไรหนวดอ่อนๆของท่านยิ่งทำให้เสียวซ่านยิ่งนัก ท่านดูดเม้มเลียที่หัวนมสีชมพู 2 ข้างของผมอย่างหื่นกระหาย คงเป็นเพราะท่านไม่ค่อยได้ยุ่งกับผู้หญิงมานาน ท่านไซร้เลื้อยลิ้นมาจนถึงควยของผม ท่านล่นหนังหุ้มลงและดูด เม้มเลียหมดลำควย ผมเสียวจนต้องร้องออกมาไม่เป็นส่ำ ท่านไล่ลิ้น เลียตวัดไข่ของผม2ข้าง เรื่อยมาถึงรูสวรรค์
"โอว .." ผมเสียวอย่างที่สุด ท่านเลียอย่างชำนาญผมเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก ผมต้องพุ่งน้ำรักออกมามากมายด้วยความสุข ท่านยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า
" หายปวดหรือยัง"
ผมยิ้มตอบ จากนั้นผมก็มาจัดการกับเจ้าตัวดีของผมบ้าง ท่อนลำตัวเขื่องหัวแดง น้ำใสๆเยิ้มอยู่ที่หัว มันอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว ผมดูดเลียอย่างมีความสุขเหมือนเด็กเพิ่งหัดกินไอสครีม พ่อผมครางออกมาด้วยความสุข
" อ้าา....ดีมากโจ้ ดูดแรงๆ"
ผมดูดเลียอยู่นานจนท่านบอกให้พอก่อน จากนั้นพ่อผมก็จับผมนอนหงายถ่างขาออกกว้าง จากนั้น ท่านก้มหน้าลงเลียรูสวรรค์ผมอีกครั้งจนแฉะไปหมด
" อ้าาา .." ผมคราง
จากนั้นพ่อก็เอาน้ำลายทาที่ท่อนควยของท่านจนมันเลื่อมน่ากลัว ท่านจับขาผมพาดบ่าท่าน2ข้าง จากนั้นก็ค่อยๆดันควยเข้าไป จากส่วนหัว ลำตัว จนมิดลำ ผมร้องด้วยความเจ็บ ท่านประกบปากจูบผมอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ผมผ่อนคลาย จากนั้นท่านก็ค่อยโยกมันเข้าออก ในเวลานี้เป็นเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด ที่ได้เห็นผู้ชายที่ผมรักที่สุดกำลังตักตวงความสุขที่ผมมอบให้ ภาพที่เจ้าท่อนลำควยผลุบเข้าออกในรูของผม ภาพชายที่ผมรักกำลังโยกเอว ล่อนสะโพกบนตัวผมอย่างมีความสุข มันเป็นภาพที่ผมลืมไม่ได้จริง พ่อผมโยกผมอีก 2-3 ครั้ง จากนั้นนั้นท่านก็พุ่งน้ำรักใส่ในรูของผม
ผมมีความสุขมากที่ได้รู้สึกถึงว่ามีน้ำรักของท่านพุ่งอยู่ในตัว พ่อนอนกอดผมอย่างเหนื่อยล้า
"พ่อรักโจ้"พ่อพูด "ครับโจ้ก็รักพ่อ" ผมตอบ
คืนนั้นเรานอนกอดกันทั้งคืน หลังจากนั้นเป็นเวลา2ปีแล้ว ที่ผมทำหน้าที่เป็นภรรยาของพ่อ ทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นภรรยาที่ดี พ่อผมมีความสุขมาก พ่ออารมณ์ดีทุกวัน ก่อนไปทำงานท่านจะจูบผมทุกครั้ง และทุกคืนเราต้องมีอะไรกัน เรามีความสุขมาก ผมสามารถเดินจูงมือกับท่าน สามารถเดินคล้องคอท่านหรือขี่หลังท่าน โดยไม่แคร์สายตาใครเพราะในสังคมเราเป็นพ่อลูกกัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าการได้ใช้ชีวิตคู่เกย์กันอย่างเปิดเผย และสังคมยอมรับนั้นคงจะมีความสุขมากๆ แน่นอน เรื่องผมก็มีเพียงเท่านี้
ตอนนี้ผมอายุ 17 ปี ผมเกิดในต่างจังหวัด เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างดี พ่อผมทำงานบริษัทปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกใหญ่โต แม่ผมทำงานธุรกิจเช่นกัน ด้วยความที่ไม่เข้าใจกันอาจเป็นเพราะท่านไม่มีเวลาให้กันมาก จึงทำให้ท่านทั้งสองต้องแยกทางกันตั้งแต่ผมอายุได้ 6 ขวบ
ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็อยู่กับพ่อตลอด แม่ผมทิ้งผมไปแต่งงานใหม่กับฝรั่งเจ้าของธุรกิจที่เมืองนอก นานๆจะกลับมาเยี่ยมผมสักครั้ง คุณพ่อผมท่านทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้อย่างไม่มีที่ติ ท่านรักและเอาใจใส่ผมมาก ตอนนั้นผมรู้แต่เพียงว่าผมรักพ่อแล้วพ่อก็รักผม ทุกวันเราจะทานข้าวด้วยกัน นั่งดูทีวีด้วยกัน เล่นกีฬา นอนด้วยกัน ลืมบอกไปว่าพ่อผมเป็นนักกีฬา และท่านอยากให้ผมเป็นนักกีฬาด้วย จึงไม่น่าแปลกว่าทำไมปัจจุบันท่านอายุตั้ง 44 ปี แล้วท่านยังแข็งแรง หล่อและหุ่นดีอยู่เลย
ทุกวันเราจะมีกิจกรรมแบบนี้ร่วมกัน แม้กระทั่งเวลาอาบน้ำเราก็มักจะอาบด้วยกันเสมอ มีหลายครั้งที่ผมมองพ่อด้วยความสงสัย ถามท่านอยู่ประจำว่าทำไมของผมไม่ใหญ่เหมือนของพ่อ ทำไมไม่มีไรขนอ่อนเหมือนกัน บางครั้งเวลาอาบน้ำผมแอบสังเกตว่า ของพ่อมันแข็งตัวขึ้นเป็นลำเวลาท่านฟอกสบู่ ผมก็มักจะถามเหตุผลเสมอว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งท่านก็มักจะตอบว่าเดี๋ยวโตขึ้นก็รู้เอง ซึ่งผมก็คงหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น เพราะความไร้เดียงสานั่นเอง
ช่วงเวลานั้นเราสองพ่อลูกมีความสุขมาก พ่อไม่เคยทำให้ผมต้องเสียใจเลยสักครั้ง จะมีบ้างก็บางครั้งที่พ่อพาเพื่อนหญิงเข้าบ้าน ผมร้องไห้ไม่ยอมหยุด พ่อก็บอกถึงความหวังดีของท่านว่า อยากหาใครสักคนมาดูแลท่านและผมแทนแม่ ซึ่งผมก็เข้าใจ แต่ผมทำใจไม่ได้ที่จะมีใครมาแบ่งความรักของพ่อไปจากผม
ผมบอกกับพ่อเสมอว่าถ้าไม่มีใครเดี๋ยวผมจะดูแลพ่อเอง ซึ่งนับจากวันนั้นพ่อก็ไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านอีกเลย แม้จะมีหลายๆคนมาสนใจก็ตาม
มันเป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนผมอายุได้ 15 ปี วัยที่เริ่มจะรู้เรื่องราวต่างๆมากขึ้น วัยที่ในความคิดมีแต่ความสงสัย ผมรู้จักการช่วยตัวเอง และรู้จักประสบการณ์ทางเพศครั้งแรก จากเพื่อนชายของผมเอง นับจากวันนั้นนั่นเอง ทุกครั้งที่ผมอยู่กับพ่อ ผมจะมีความรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก หลายครั้งที่ผมอาบน้ำกับพ่อ ผมเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆผมเริ่มสังเกตเรือนร่างของพ่อ รูปร่างของท่านน่ามองยิ่งนัก ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าท้องเป็นรอนสวย ไม่มีแม้ไขมันที่บ่งบอกถึงคนอายุ 44 ไรขนอ่อนๆบริเวณหน้าอก ไล่ลงมาบริเวณสะดือและเนินหัวหน่าว ท่อนลำที่กวัดแกว่งไปมาเวลาท่านฟอกสบู่ ยิ่งเวลาท่านล่นหนังหุ้ม เพื่อทำความสะอาดมันเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก ผมไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ควยแข็งขึ้นมาเวลาอาบน้ำกับพ่อ จนผมต้องสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองทุกครั้ง มีหลายครั้งที่พ่อผมเห็นเวลาควยของผมแข็งแล้วท่านก็ยิ้มแปลกๆ ซึ่งผมมักพูดค้อนใส่ท่านว่า ก็ผมโตเป็นหนุ่มแล้วนี่ครับ ท่านก็มักจะตอบว่าเหรอ และตรงเข้ามาปลุกปล้ำบีบและคลึงควยของผม และท่านก็บอกว่าอืม โตขึ้นจริงๆด้วย ซึ่งทุกครั้งมันจะเป็นเช่นนี้ ซึ่งตอนนั้นผมรู้ว่าท่านคงไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากการหยอกล้อกันด้วยความรัก แต่ผมสิกลับรู้สึกมีความสุขมากทุกครั้งที่ท่านทำแบบนั้น
จากวันนั้นผมนอนกอดพ่อด้วยความรู้สึกแปลกๆ นอนบนแผ่นอกที่มีไรขน และมีแต่มัดกล้าม อืม...ผมลืมบอกไปว่าท่านมักจะชอบนอนถอดเสื้อ สวมกางเกงแพรบางและไม่ชอบใส่กางเกงใน ผมต้องนอนใจสั่นระทึกทุกคืน มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ซึ่งเวลานั้นมันไม่เหลือแล้วซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในหัวผม ผมรู้แต่เพียงว่าผมยอมมอบทั้งกายและหัวใจให้พ่อ เพราะผมรักพ่อและผมรู้ว่าท่านก็รักผมมากด้วย
จากวันนั้นผมจึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้พ่อเป็นของผม เริ่มจากทุกครั้งเวลาที่อาบน้ำผมมักจะยืนอาบน้ำที่ฝักบัว (ซึ่งปกติมักชอบอาบในอ่างกัน
ถูสบู่นานผิดปกติ เคล้นคลึงตามหน้าอก ขา และแก้มก้นทั้ง 2 ข้าง รูปร่างผิวพรรณผมจัดว่าดีมาก คงเป็นเพราะชอบเล่นกีฬานั่นเอง ซึ่งผมรู้ว่าพ่อก็คงมองผมอยู่
หลายครั้งที่ผมเหลือบไปเห็นท่อนลำควยของพ่อแข็งตัวขึ้นมา ขนาด 7 นิ้วได้ หัวแดง เหยียดตรง มันช่างน่าจับน่าดูดยิ่งนัก พ่อคงห่างผู้หญิงนานเหมือนกันเลยมีอารมณ์ง่ายขนาดนี้ ผมอาบน้ำจนของผมแข็งตัวทุกครั้ง และมักจะอวดพ่อว่าของผมใหญ่กว่าพ่ออีก พ่อมักตอบว่าเหรอ และลงท้ายด้วยตรงเข้ามาจับควยผมเช่นเคย และบอกให้ผมรีบอาบน้ำและเช็ดตัวทุกที และคืนที่ผมมีความสุขมากก็มาถึง ผมบอกกับตัวเองว่าเป็นไงเป็นกัน คืนนั้นผมใส่กางเกงบอลตัวโปรดตัวเดียวโชว์ต้นขาขาว ขากว้างลึกจนเห็นแก้มก้น ส่วนพ่อก็นุ่งกางเกงแพร เปลือยอกเช่นเดิม พ่อนอนดูทีวีอยู่ในห้องนอนอย่างสบาย ผมเดินมาทางด้านหลังพ่อเห็นท่านนอนเปลือยอก เหยียดขาเอกเขนก ผ้าแพรแนบเนื้อตามกล้ามขาแข็งและท่อนลำควย ให้ได้จินตนาการถึงอะไรต่อมิอะไร ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ยิ่งนัก ผมอุ่นนมร้อนและชามาให้พ่อดื่ม พ่อผมก็เอื้อมมือมาหยิกแก้มผมแล้วพูดว่า
"วันนี้น่ารักเชียวนะเรา จะขออะไรพ่อหละ"
ผมก็อ้ำอึ้งอยู่นาน ผมก็รวบรวมความกล้าตอบไปว่า
" ผมอยากรู้ครับว่าผู้ชายกับผู้หญิงเค้ามีอะไรกันยังไง"
ลืมบอกไปพ่อผมท่านมีวีซีดีเอ็กซ์หลายแผ่น เก็บไว้ในตู้อย่างดี ท่านไม่อยากให้ผมดู แต่อย่างว่าครับเด็กอยากรู้อยากเห็นอย่างผม รู้ที่เก็บกุญแจก็เลยดูซะเกลี้ยงแล้วสิครับ
" ไม่เคยรู้เลยเหรอ เพื่อนๆก็ไม่บอกหรือให้ดูหนังอย่างว่าบ้างเหรอ" ท่านตอบ
" ไม่เลยครับ นะพ่อนะ(ผมอ้อน
เดี๋ยวเพื่อนมันล้อผมแย่" สักครู่ท่านก็ใจอ่อน เดินไปหยิบวีซีดีจากในตู้ซึ่งทุกเรื่องผมดูจนปรุหมดแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่เคยดู แถมแซวท่านอีกว่า
" มีของดีไม่ยอมบอกเลยน้า"
ท่านก็ยิ้ม หลังจากเปิดหนังได้สักพัก ผมก็สังเกตดูท่านสูดหายใจแรงขึ้นๆ แขนของท่านที่คล้องคอผมเริ่มมีเหงื่อกาฬไหล ท่อนลำที่อยู่ในกางเกงแพรของพ่อเริ่มพองโต ซึ่งของผมก็เหมือนกัน เวลานั้นหัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก
" พ่อ ทำไมเค้าจึงมีน้ำสีขาวขุ่นไหลพุ่งออกมา" ผมถาม พ่อตอบว่า
" เค้าเรียกว่าถึงจุดสุดยอด เวลาเราร่วมเพศกันถ้าถึงจุดที่มีความสุขที่สุด ก็จะมีน้ำอสุจิพุ่งออกมา พ่อก็มี โจ้(ชื่อผม
ก็มี ผู้ชายทุกคนก็จะมี"
พ่อถามต่อ " อ้าว แล้วอย่าบอกนะว่าไม่เคยช่วยตัวเอง"
ผมตอบ " ไม่เคยครับ พ่อสอนหน่อยดิ(ไม่รู้ตอนนั้นพูดไปได้ไง
"
พ่อผมก็หัวเราะ จากนั้นท่านก็เดินไปปิดทีวีแล้วบอกว่า
"เร็วไปน่า ยังเด็กอยู่แท้ๆนอนเถอะ"
พ่อกำลังจะเดินไปปิดไฟ ตอนนี้ผมคิดแล้วว่าเป็นไงเป็นกัน หน้าด้านมาถึงนี่แล้ว ผมก็ร้องเสียงดังขึ้นมา
" โอ๊ยพ่อ ไม่รู้เป็นไร เจ็บในเป้าจัง "
ผมแกล้งเอามือกุมเป้าและดิ้นไปมา พ่อผมตกใจวิ่งเข้ามาขอดูด้วยความเป็นห่วง
" ไหนๆดูสิ สงสัยดูหนังมากไป"
จากนั้นพ่อผมก็อุ้มผมไปนอนบนเตียง ท่านบรรจงถอดกางบอลตัวจิ๋วผมออก เจ้าควยตัวดีของผมก็ดีดผึงขึ้นมา ขันสู้ทันที ผมอายได้แต่หลับตาแต่ร้องว่าปวด พ่อผมก็ถามว่าปวดตรงไหนท่านก็จับควยผม พลิกไปมา ซ้ายขวา ล่นหนังหุ้มผมลงก็แล้วผมยังบอกว่าไม่หายปวด
" เวลาผู้ชายมีอารมณ์มากๆไม่ได้ระบายออกก็เป็นแบบนี้แหละ"
ท่านพูด ตอนนี้ผมกล้าที่จะมองหน้าท่าน ผมมองดูภาพมือสากๆของพ่อผมกำลังคลึงเคล้าเพื่อให้ผมหายปวดลง ท่านนอนอยู่ข้างผม ผมเริ่มสังเกตว่าตอนนี้พ่อผมก็มีอารมณ์เหมือนกัน ท่อนลำตัวเขื่องดุนดันกางเกงแพรแทบปริ
ผมสบตาท่านท่านสบตาผม ผมเอื้อมมือไปลูบเคลาสากๆของท่านเบาๆ สายใยความรักความผูกพันเชื่อมถึงกันทางสายตาและการสัมผัส ผมรวมความกล้าเข้าไปจูบท่าน ริมฝีปากประกบริมฝีปากท่านส่งลิ้นตอบสนองผมเป็นอย่างดี
" ผมรักพ่อ ยอมเป็นของพ่อครับ"
เรามองตากันอีกครั้ง วินาทีนี้เป็นเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด จากนั้นพ่อก็บรรจงจูบที่แก้มและที่ปากผมต่ออย่างดูดดื่ม ไซร้เรื่อยมาที่คอ หัวนม2ข้าง ไรหนวดอ่อนๆของท่านยิ่งทำให้เสียวซ่านยิ่งนัก ท่านดูดเม้มเลียที่หัวนมสีชมพู 2 ข้างของผมอย่างหื่นกระหาย คงเป็นเพราะท่านไม่ค่อยได้ยุ่งกับผู้หญิงมานาน ท่านไซร้เลื้อยลิ้นมาจนถึงควยของผม ท่านล่นหนังหุ้มลงและดูด เม้มเลียหมดลำควย ผมเสียวจนต้องร้องออกมาไม่เป็นส่ำ ท่านไล่ลิ้น เลียตวัดไข่ของผม2ข้าง เรื่อยมาถึงรูสวรรค์
"โอว .." ผมเสียวอย่างที่สุด ท่านเลียอย่างชำนาญผมเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก ผมต้องพุ่งน้ำรักออกมามากมายด้วยความสุข ท่านยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า
" หายปวดหรือยัง"
ผมยิ้มตอบ จากนั้นผมก็มาจัดการกับเจ้าตัวดีของผมบ้าง ท่อนลำตัวเขื่องหัวแดง น้ำใสๆเยิ้มอยู่ที่หัว มันอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว ผมดูดเลียอย่างมีความสุขเหมือนเด็กเพิ่งหัดกินไอสครีม พ่อผมครางออกมาด้วยความสุข
" อ้าา....ดีมากโจ้ ดูดแรงๆ"
ผมดูดเลียอยู่นานจนท่านบอกให้พอก่อน จากนั้นพ่อผมก็จับผมนอนหงายถ่างขาออกกว้าง จากนั้น ท่านก้มหน้าลงเลียรูสวรรค์ผมอีกครั้งจนแฉะไปหมด
" อ้าาา .." ผมคราง
จากนั้นพ่อก็เอาน้ำลายทาที่ท่อนควยของท่านจนมันเลื่อมน่ากลัว ท่านจับขาผมพาดบ่าท่าน2ข้าง จากนั้นก็ค่อยๆดันควยเข้าไป จากส่วนหัว ลำตัว จนมิดลำ ผมร้องด้วยความเจ็บ ท่านประกบปากจูบผมอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ผมผ่อนคลาย จากนั้นท่านก็ค่อยโยกมันเข้าออก ในเวลานี้เป็นเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด ที่ได้เห็นผู้ชายที่ผมรักที่สุดกำลังตักตวงความสุขที่ผมมอบให้ ภาพที่เจ้าท่อนลำควยผลุบเข้าออกในรูของผม ภาพชายที่ผมรักกำลังโยกเอว ล่อนสะโพกบนตัวผมอย่างมีความสุข มันเป็นภาพที่ผมลืมไม่ได้จริง พ่อผมโยกผมอีก 2-3 ครั้ง จากนั้นนั้นท่านก็พุ่งน้ำรักใส่ในรูของผม
ผมมีความสุขมากที่ได้รู้สึกถึงว่ามีน้ำรักของท่านพุ่งอยู่ในตัว พ่อนอนกอดผมอย่างเหนื่อยล้า
"พ่อรักโจ้"พ่อพูด "ครับโจ้ก็รักพ่อ" ผมตอบ
คืนนั้นเรานอนกอดกันทั้งคืน หลังจากนั้นเป็นเวลา2ปีแล้ว ที่ผมทำหน้าที่เป็นภรรยาของพ่อ ทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นภรรยาที่ดี พ่อผมมีความสุขมาก พ่ออารมณ์ดีทุกวัน ก่อนไปทำงานท่านจะจูบผมทุกครั้ง และทุกคืนเราต้องมีอะไรกัน เรามีความสุขมาก ผมสามารถเดินจูงมือกับท่าน สามารถเดินคล้องคอท่านหรือขี่หลังท่าน โดยไม่แคร์สายตาใครเพราะในสังคมเราเป็นพ่อลูกกัน ดังนั้นผมจึงคิดว่าการได้ใช้ชีวิตคู่เกย์กันอย่างเปิดเผย และสังคมยอมรับนั้นคงจะมีความสุขมากๆ แน่นอน เรื่องผมก็มีเพียงเท่านี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)