ยามเมื่ออรุณเบิกฟ้า
แสงสีทองเริ่มสาดส่องเรืองรองรถทัวร์โดยสารจากแม่สายแล่นมาจอดสนิทสถานีขนส่งสายเหนือประตูรถเปิดออก
ผู้โดยสารต่างหอบหิ้วกระเป๋าโดยสารทยอยกันลง รวมทั้งปอนด์
หนุ่มหล่อมาดแมนที่เดินทางมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯเขาลงมายืนงงอยู่พักหนึ่ง เพราะที่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่เขาเดินทางเข้ามาเมืองหลวงที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน
จากนั้นจึงเดินทางจากที่นั่นไปยังป้ายรถเมล์ รอรถประจำทางสาย 3 เพื่อไปวงเวียนใหญ่ตามที่ได้รับรู้มา
และโทรศัพท์ให้พี่สาวออกมารับตามที่นัดแนะไว้ เขามองหาเลขสายของรถจนพบ
กระชับสายสะพายกระเป๋ามั่นแล้วรีบก้าวเท้าขึ้นรถ พอขึ้นไปได้ก็โล่งอก
หลังจากต้องยืนคอยจ้องมองรถเมล์ที่ผ่านมาแต่ละสายเสียจนตาลาย
ยังเช้าอยู่มากรถเมล์จึงไม่แน่น ปอนด์สามารถหาที่นั่งได้สบาย’’ถึงวงเวียนใหญ่ช่วยบอกด้วยนะครับ’’ เขาบอกพนักงานเก็บค่าโดยสาร เมื่อจ่ายเงินค่าโดยสารพร้อมรับเงินทอนมาเรียบร้อย
พนักงานผู้นั้นพยักหน้ารับแล้วขยับกระบอกตั๋วเดินเก็บค่าโดยสารคนอื่นต่อไป
ปอนด์อดไม่ได้ต้องส่ายตามองสองข้างทางซ้ายขวาอย่างตื่นเต้นกับตึกใหญ่โตระฟ้าที่มีมากมายเกลื่อนกลาดแล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามที่เขานั่งอยู่คนเดียวที่จ้องมองดูเขาด้วยดวงตาดำขลับใสแจ๋ว
แล้วโดยที่ไม่คาดฝัน หนุ่มน้อยผู้นั้นก็ยกมือขึ้นไหว้ เขารีบรับไหว้อย่างงงๆ
หนุ่มน้อยขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อยแล้วหันมองไปทางด้านหน้ารถโดยไม่ได้หันมาทางเขาอีก
ปอนด์คิดไม่ออก เขาพยายามคิดแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยพบกันที่ไหนแม้จะชำเลืองมองดูอยู่หลายครั้งเพื่อทบทวนความทรงจำก็ตาม
ใบหน้าขาวสะอาดหมดจด ตาดำขลับ จมูกโด่งเป็นสันจนน่ากัด
รวมทั้งปากบางเฉียบกับใบหน้ารูปไข่
หนุ่มน้อยผู้นั้นชำเลืองมองมาทางเขาอีกแวบหนึ่งแล้วเมินกลับเขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปนั่งด้วยข้างๆ
หนุ่มน้อยหน้าใสรีบขยับตัวเข้าไปด้านในสุดและมองหน้าเขาอย่างงุนงงสงสัย ‘’ขอโทษครับ
ผมจำไม่ได้ว่าเราเคยพบกันที่ไหน’’ ปอนด์เอ่ยถามขึ้นด้วยถ้อยคำสุภาพหนุ่มน้อยหน้าใสส่ายหน้าแทนคำตอบ
ใบหน้าเย็นชา จนงุนงง ‘’เราไม่รู้จักกันหรอกครับ’’ ปอนด์พยายามถามต่อไปให้แน่ใจคำตอบก็คือ
‘’ไม่รู้จัก’’ ‘’แล้วคุณไหว้ผมทำไมล่ะครับ’’ ‘’ไหว้เหรอ’’ หนุ่มน้อยหน้าสวยทวนคำ แล้วยิ้มให้เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้’’เมื่อกี้รถวิ่งผ่านวัด
ผมไหว้พระแก้วมรกต ไม่ใช่ไหว้คุณ’’ ใบหน้าของปอนด์จืดลง…นี่กระมังที่เขาเรียกกันว่าหน้าแตก
เขายกมือขึ้นเกาหัวแกรก ทั้งที่มันไม่ได้คันสักหน่อย ‘’ขอโทษครับที่เข้าใจผิด’’
‘’ไม่เป็นไรครับ ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าคุณยกมือไหว้อะไรเพราะฝั่งตรงข้ามมีแต่กระทรวงกลาโหมกับปืนใหญ่’’ โดยแซวแบบนี้หน้าที่ไร้สีเลือดของปอนด์ก็แดงเข้มขึ้น ‘’คุณคิดว่าผมบ้ายังงั้นเหรอ’’
‘’เปล่าครับ เพียงแค่สงสัยเท่านั้น’’
‘’ เลิกสงสัยได้เลยเพราะผมไม่ใช่คนบ้า ผมนึกว่าคุณไหว้ผม ผมก็เลยรับไหว้เพราะกลัวคุณจะเขินเท่านั้นเอง’’ คราวนี้หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ ส่ายหน้าไปมาอย่างน่ารัก มองหน้าปอนด์คล้ายสมเพชอะไรบ้างอย่าง ‘’ คุณครับ ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าคุณกับผมมองหน้ากันตั้งแต่ขึ้นรถถ้าผมรู้จักคุณ ผมไหว้คุณตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว…ทำไมถึงเพิ่งมาไหว้ทีหลังล่ะ’’ ปอนด์ถึงกับหน้าแตกชนิดเย็บไม่ติดเป็นครั้งที่สอง เขาหัวเราะเบาๆ แก้เก้อ นั่นนะซิ ทำไมคิดไม่ถึงนะ เขาได้แต่คิดในใจ พูดอะไรไปก็กลัวจะอายมากกว่านี้จึงลุกขึ้นไปนั่งที่เดิมนานๆ จึงชำเลืองมองหนุ่มหน้าสวยอีกครั้ง หนุ่มหน้าสวยมองมาทางเขาแล้วยกมือไหว้อีกครั้ง ปอนด์รีบเหลียวมองออกไปทางข้างนอก เขาเห็นอนุสาวรีย์ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรีเด่นสง่าอยู่ จึงยกมือไหว้ตามบ้าง จากนั้นก็หันไปมองหนุ่มน้อยที่กำลังยิ้มให้อย่างหวานจ๋อย เขายิ้มให้อย่างแห้ง เพียงไม่นานหนุ่มน้อยผู้นั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู พอดีกับเสียงของพนักงานเก็บค่าโดยสารร้องบอกว่าถึงวงเวียนใหญ่แล้ว ปอนด์จึงลุกขึ้น รถจอดป้าย หนุ่มน้อยก้าวลงไปก่อน ปอนด์ก้าวลงมาตามมองตามหลังหนุ่มหน้าขาวที่ถือกระเป๋าขนาดย่อมเดินตรงไปยังตู้โทรศัพท์เขาจึงคิดได้ เดินตามไปบ้าง ทันกันที่ตู้พอดี เพราะหนุ่มผู้นั้นไปหยุดยืนล้วงเศษเหรียญกับเบอร์โทร.ที่ต้องการออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ‘’คุณตามผมมาทำไมครับ’’ เสียวหวานใสเอ่ยถามขึ้นเหมือนไม่พอใจที่เห็นเขาเข้ามายืนข้างๆ ‘’ ผมมาโทรศัพท์เหมือนกันครับ’’ หนุ่มน้อยทำท่าค้อนนิดๆ ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป ยกหูโทร.หมายเลขที่ต้องการ ไม่นานก็กรอกเสียงไปตามสาย ปอนด์ยืนมองดูกิริยาท่าทางการพูดอย่างน่ารักนั้นตลอดเวลา แม้จะไม่ได้ยินเสียงพูดเสียงพูดคุยแต่เขาก็รู้ว่าต้องเป็นคนสนิทกันมากทีเดียว ชั่วครู่หนุ่มน้อยผู้นั้นก็โทร.เสร็จกลับออกมา ปอนด์จึงเข้าไปโทร.บ้างอดชำเลืองตามองหนุ่มน้อยที่ยืนอยู่หน้าตู้ที่ยังไม่ได้ไปไหนไม่ได้กดหมายเลขชั่วครู่ก็มีสัญญาณตอบรับ พร้อมเสียงพูด ‘’สวัสดีค่ะ’’ ‘’พี่ปอเหรอ นี่ปอนด์นะ ผมมาถึงแล้ว’’ ‘’ ถึงแล้วเหรออยู่ตรงไหนล่ะ ‘’ ‘’ป้ายรถเมล์วงเวียนใหญ่ครับ’’ ‘’รอพี่ที่นั่นนะ…เออ เห็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเธอหรือเปล่า เมื่อกี้โทร.มาบอกพี่ว่าอยู่แถวนั้น’’ ปอนด์หันกลับไปมองหนุ่มน้อยผู้นั้นทันทีอย่างสงสัย ‘’มีอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า …ใครกันครับ’’ ‘’น้องชายเพื่อนที่อยู่เชียงราย เขาจะมาเรียนต่อ เพื่อนเลยฝากให้มาอยู่ด้วย ถามเขาซิว่าชื่อกอล์ฟหรือเปล่า’’ ‘’ขาวๆเล็กๆ ใช่ไหมครับ’’ ‘’ไม่รู้ซิ ไม่ได้พบกันนานแล้ว จำไม่ได้ เขาบอกว่าใส่กางเกงยืนเสื้อยืดสีฟ้า’’ ‘’ชัดเลยพี่ อยู่หน้าตู้นี่เอง พี่รีบมานะครับ หวัดดีครับ’’ ปอนด์วางหูลงกับแท่น เปิดประตูตู้ออกไปยืนอยู่ใกล้ๆ หนุ่มน้อยผู้นั้น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หนุ่มน้อยหน้าหวานหันมามอง ปอนด์ส่งยิ้มให้อย่างทะเล้น ‘’คุณมายืนทำไมที่นี่ ยังไม่ไปอีกเหรอ’’ ‘’ แล้วคุณล่ะ ทำไมไม่ไป มายืนคอยผมทำไม’’ เมื่อถูกถามปอนด์ตอบแหย่อย่างกวนๆ ‘’ผมไม่ได้ยืนคอยคุณ ผมคอยพี่สาวผม’’ ‘’งั้นผมคอยด้วย ยืนเป็นเพื่อนคุณ’’ ปอนด์กวนต่อเขาอยากรู้เหมือนกันว่าหนุ่มหน้าหวานจะทำอย่างไร’’ก็พี่สาวเราแท้ๆ กลับมาบอกว่าพี่สาวตัวเอง’’ ‘’คุณไม่มีอะไรจะทำหรือไง’’ หนุ่มน้อยเริ่มเสียงเข้ม ไม่พอใจกับการรังควานของปอนด์ จะเดินหนีก็ไม่ได้ เพราะนัดกับเพื่อนพี่สาวไว้ที่นี่ ‘’ไม่มีครับ ตกงานอยู่’’ หนุ่มน้อยหน้าหวานอยากจะด่าให้ลั่นกับความทะเล้นของปอนด์แต่ยังมีความอดทนพอ ทำได้แต่เพียงเดินหนีออกห่าง แต่ปอนด์ก็เดินตามไปยืนข้างๆอีก ‘’คุณจะเอายังไงกันแน่’’ หนุ่มหน้าหวานเริ่มเปลี่ยนเป็นหน้ายักษ์ ถามเสียงดังเหลืออด แต่ปอนด์ก็ยังทำหน้าทะเล้นเหมือนเดิม ‘’อยากอยู่ใกล้ๆเป็นเพื่อนคุณ ดีกันนะ…นะ’’ ปอนด์ชูนิ้วก้อยส่งให้ แต่หนุ่มน้อยทำเมินไม่มอง ‘’น่านะ กอล์ฟ เป็นเพื่อนกับปอนด์นะ นะ’’ คราวนี้หนุ่มน้อยหันมาตามเสียงออดอ้อน พร้อมคำถาม’’คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง’’ ‘’พรายกระซิบ’’ กอล์ฟถอนใจยาว เอือมระอากับความขี้เล่นของเขา ‘’ถ้าคุณอยากจะเป็นเพื่อนผม ตอบความจริงมาดีกว่า’’ ‘’ก็บอกแล้วไงว่าพรายกระซิบ’’ ‘’พรายบ้าบอที่ไหนกัน’’ ‘’ไม่ใช่พรายบ้าบอ แต่พรายชื่อปอครับผม’’ กอล์ฟเริ่มมึนงง ยืนมองหน้าปอนด์ตะลึง หน้าแดงก่ำ ‘’คุณแอบฟังผมโทรศัพท์’’ ปอนด์หยุดหน้าทะเล้นทันที ที่เห็นกอล์ฟเข้าใจผิด ท่าทางพร้อมจะเอาเรื่อง เขาจึงรีบอธิบาย ‘’สาบานได้ ไม่ได้แอบฟัง พี่ปอบอกผมจริงๆ เมื่อกี้นี้ผมโทร.ไปหา…เขาบอกว่ากอล์ฟรออยู่ ให้ผมดูแลด้วย เดี๋ยวพี่ปอจะมารับ ผมเป็นน้องชายพี่ปอ’’ คราวนี้ถึงคราวที่กอล์ฟจะหน้าแตกบ้างนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ เขาได้แต่จ้องหน้าปอนด์นิ่ง พูดอะไรไม่ออก ปอนด์จึงต้องพูดต่อเอง พร้อมยืนมือส่งให้ ‘’นะกอล์ฟนะ เป็นเพื่อนกันนะ’’ นั่นแหละกอล์ฟจึงยื่นมือออกไปด้วยการส่งค้อนให้ ‘’ อยู่นี่กันเอง มาขึ้นรถเร็วทั้งสองคน’’ เสียงพี่ปอที่ยื่นหน้าออกมาจากรถเก๋งที่เข้ามาจอดเทียบใกล้ๆ ปอนด์กับกอล์ฟยกมือไหว้ แล้วรีบพากันเปิดประตูเข้าไปนั่งตอนหลังของรถ จากนั้นรถก็เคลื่อนออก พามิตรภาพที่เพิ่งจะเริ่มต้นของหนุ่มทั้งสองออกไปจากที่ตรงนั้น เพื่อสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นในวันข้างหน้าต่อไป…
‘’ไม่เป็นไรครับ ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าคุณยกมือไหว้อะไรเพราะฝั่งตรงข้ามมีแต่กระทรวงกลาโหมกับปืนใหญ่’’ โดยแซวแบบนี้หน้าที่ไร้สีเลือดของปอนด์ก็แดงเข้มขึ้น ‘’คุณคิดว่าผมบ้ายังงั้นเหรอ’’
‘’เปล่าครับ เพียงแค่สงสัยเท่านั้น’’
‘’ เลิกสงสัยได้เลยเพราะผมไม่ใช่คนบ้า ผมนึกว่าคุณไหว้ผม ผมก็เลยรับไหว้เพราะกลัวคุณจะเขินเท่านั้นเอง’’ คราวนี้หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ ส่ายหน้าไปมาอย่างน่ารัก มองหน้าปอนด์คล้ายสมเพชอะไรบ้างอย่าง ‘’ คุณครับ ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าคุณกับผมมองหน้ากันตั้งแต่ขึ้นรถถ้าผมรู้จักคุณ ผมไหว้คุณตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว…ทำไมถึงเพิ่งมาไหว้ทีหลังล่ะ’’ ปอนด์ถึงกับหน้าแตกชนิดเย็บไม่ติดเป็นครั้งที่สอง เขาหัวเราะเบาๆ แก้เก้อ นั่นนะซิ ทำไมคิดไม่ถึงนะ เขาได้แต่คิดในใจ พูดอะไรไปก็กลัวจะอายมากกว่านี้จึงลุกขึ้นไปนั่งที่เดิมนานๆ จึงชำเลืองมองหนุ่มหน้าสวยอีกครั้ง หนุ่มหน้าสวยมองมาทางเขาแล้วยกมือไหว้อีกครั้ง ปอนด์รีบเหลียวมองออกไปทางข้างนอก เขาเห็นอนุสาวรีย์ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรีเด่นสง่าอยู่ จึงยกมือไหว้ตามบ้าง จากนั้นก็หันไปมองหนุ่มน้อยที่กำลังยิ้มให้อย่างหวานจ๋อย เขายิ้มให้อย่างแห้ง เพียงไม่นานหนุ่มน้อยผู้นั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู พอดีกับเสียงของพนักงานเก็บค่าโดยสารร้องบอกว่าถึงวงเวียนใหญ่แล้ว ปอนด์จึงลุกขึ้น รถจอดป้าย หนุ่มน้อยก้าวลงไปก่อน ปอนด์ก้าวลงมาตามมองตามหลังหนุ่มหน้าขาวที่ถือกระเป๋าขนาดย่อมเดินตรงไปยังตู้โทรศัพท์เขาจึงคิดได้ เดินตามไปบ้าง ทันกันที่ตู้พอดี เพราะหนุ่มผู้นั้นไปหยุดยืนล้วงเศษเหรียญกับเบอร์โทร.ที่ต้องการออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ‘’คุณตามผมมาทำไมครับ’’ เสียวหวานใสเอ่ยถามขึ้นเหมือนไม่พอใจที่เห็นเขาเข้ามายืนข้างๆ ‘’ ผมมาโทรศัพท์เหมือนกันครับ’’ หนุ่มน้อยทำท่าค้อนนิดๆ ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป ยกหูโทร.หมายเลขที่ต้องการ ไม่นานก็กรอกเสียงไปตามสาย ปอนด์ยืนมองดูกิริยาท่าทางการพูดอย่างน่ารักนั้นตลอดเวลา แม้จะไม่ได้ยินเสียงพูดเสียงพูดคุยแต่เขาก็รู้ว่าต้องเป็นคนสนิทกันมากทีเดียว ชั่วครู่หนุ่มน้อยผู้นั้นก็โทร.เสร็จกลับออกมา ปอนด์จึงเข้าไปโทร.บ้างอดชำเลืองตามองหนุ่มน้อยที่ยืนอยู่หน้าตู้ที่ยังไม่ได้ไปไหนไม่ได้กดหมายเลขชั่วครู่ก็มีสัญญาณตอบรับ พร้อมเสียงพูด ‘’สวัสดีค่ะ’’ ‘’พี่ปอเหรอ นี่ปอนด์นะ ผมมาถึงแล้ว’’ ‘’ ถึงแล้วเหรออยู่ตรงไหนล่ะ ‘’ ‘’ป้ายรถเมล์วงเวียนใหญ่ครับ’’ ‘’รอพี่ที่นั่นนะ…เออ เห็นหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเธอหรือเปล่า เมื่อกี้โทร.มาบอกพี่ว่าอยู่แถวนั้น’’ ปอนด์หันกลับไปมองหนุ่มน้อยผู้นั้นทันทีอย่างสงสัย ‘’มีอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า …ใครกันครับ’’ ‘’น้องชายเพื่อนที่อยู่เชียงราย เขาจะมาเรียนต่อ เพื่อนเลยฝากให้มาอยู่ด้วย ถามเขาซิว่าชื่อกอล์ฟหรือเปล่า’’ ‘’ขาวๆเล็กๆ ใช่ไหมครับ’’ ‘’ไม่รู้ซิ ไม่ได้พบกันนานแล้ว จำไม่ได้ เขาบอกว่าใส่กางเกงยืนเสื้อยืดสีฟ้า’’ ‘’ชัดเลยพี่ อยู่หน้าตู้นี่เอง พี่รีบมานะครับ หวัดดีครับ’’ ปอนด์วางหูลงกับแท่น เปิดประตูตู้ออกไปยืนอยู่ใกล้ๆ หนุ่มน้อยผู้นั้น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หนุ่มน้อยหน้าหวานหันมามอง ปอนด์ส่งยิ้มให้อย่างทะเล้น ‘’คุณมายืนทำไมที่นี่ ยังไม่ไปอีกเหรอ’’ ‘’ แล้วคุณล่ะ ทำไมไม่ไป มายืนคอยผมทำไม’’ เมื่อถูกถามปอนด์ตอบแหย่อย่างกวนๆ ‘’ผมไม่ได้ยืนคอยคุณ ผมคอยพี่สาวผม’’ ‘’งั้นผมคอยด้วย ยืนเป็นเพื่อนคุณ’’ ปอนด์กวนต่อเขาอยากรู้เหมือนกันว่าหนุ่มหน้าหวานจะทำอย่างไร’’ก็พี่สาวเราแท้ๆ กลับมาบอกว่าพี่สาวตัวเอง’’ ‘’คุณไม่มีอะไรจะทำหรือไง’’ หนุ่มน้อยเริ่มเสียงเข้ม ไม่พอใจกับการรังควานของปอนด์ จะเดินหนีก็ไม่ได้ เพราะนัดกับเพื่อนพี่สาวไว้ที่นี่ ‘’ไม่มีครับ ตกงานอยู่’’ หนุ่มน้อยหน้าหวานอยากจะด่าให้ลั่นกับความทะเล้นของปอนด์แต่ยังมีความอดทนพอ ทำได้แต่เพียงเดินหนีออกห่าง แต่ปอนด์ก็เดินตามไปยืนข้างๆอีก ‘’คุณจะเอายังไงกันแน่’’ หนุ่มหน้าหวานเริ่มเปลี่ยนเป็นหน้ายักษ์ ถามเสียงดังเหลืออด แต่ปอนด์ก็ยังทำหน้าทะเล้นเหมือนเดิม ‘’อยากอยู่ใกล้ๆเป็นเพื่อนคุณ ดีกันนะ…นะ’’ ปอนด์ชูนิ้วก้อยส่งให้ แต่หนุ่มน้อยทำเมินไม่มอง ‘’น่านะ กอล์ฟ เป็นเพื่อนกับปอนด์นะ นะ’’ คราวนี้หนุ่มน้อยหันมาตามเสียงออดอ้อน พร้อมคำถาม’’คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง’’ ‘’พรายกระซิบ’’ กอล์ฟถอนใจยาว เอือมระอากับความขี้เล่นของเขา ‘’ถ้าคุณอยากจะเป็นเพื่อนผม ตอบความจริงมาดีกว่า’’ ‘’ก็บอกแล้วไงว่าพรายกระซิบ’’ ‘’พรายบ้าบอที่ไหนกัน’’ ‘’ไม่ใช่พรายบ้าบอ แต่พรายชื่อปอครับผม’’ กอล์ฟเริ่มมึนงง ยืนมองหน้าปอนด์ตะลึง หน้าแดงก่ำ ‘’คุณแอบฟังผมโทรศัพท์’’ ปอนด์หยุดหน้าทะเล้นทันที ที่เห็นกอล์ฟเข้าใจผิด ท่าทางพร้อมจะเอาเรื่อง เขาจึงรีบอธิบาย ‘’สาบานได้ ไม่ได้แอบฟัง พี่ปอบอกผมจริงๆ เมื่อกี้นี้ผมโทร.ไปหา…เขาบอกว่ากอล์ฟรออยู่ ให้ผมดูแลด้วย เดี๋ยวพี่ปอจะมารับ ผมเป็นน้องชายพี่ปอ’’ คราวนี้ถึงคราวที่กอล์ฟจะหน้าแตกบ้างนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้ เขาได้แต่จ้องหน้าปอนด์นิ่ง พูดอะไรไม่ออก ปอนด์จึงต้องพูดต่อเอง พร้อมยืนมือส่งให้ ‘’นะกอล์ฟนะ เป็นเพื่อนกันนะ’’ นั่นแหละกอล์ฟจึงยื่นมือออกไปด้วยการส่งค้อนให้ ‘’ อยู่นี่กันเอง มาขึ้นรถเร็วทั้งสองคน’’ เสียงพี่ปอที่ยื่นหน้าออกมาจากรถเก๋งที่เข้ามาจอดเทียบใกล้ๆ ปอนด์กับกอล์ฟยกมือไหว้ แล้วรีบพากันเปิดประตูเข้าไปนั่งตอนหลังของรถ จากนั้นรถก็เคลื่อนออก พามิตรภาพที่เพิ่งจะเริ่มต้นของหนุ่มทั้งสองออกไปจากที่ตรงนั้น เพื่อสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นในวันข้างหน้าต่อไป…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น