วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อาจารย์ครับ...ผมขอโทษ [เรื่องสั้น]

ผมยังคงนอนคิดอะไรต่างๆเรื่อยไป เพราะวันนี้เป็นวันแรกของการปิดภาคเรียน สบายใจที่ได้ไม่ต้องปวดหัวกับเหล่านักเรียนจอมกวนที่วิทยาลัย แต่สิ่งที่ผมอยากทำในขณะนี้คือ การอธิบายความจริงและเหตุผลให้’’เขา’’ ได้รับรู้ ผมไม่สบายใจ ไม่ใช่ว่า ‘’ เขา’’ จะมีอิทธิพลเหนือจิตใจ หากกลัวเขาจะเสียอนาคตต่างหากถ้าเขาทำอะไรลงไปเป็นการประชดชีวิตตัวเองและตัวผมมันจะเป็นบาปที่ตราในความทรงจำกันแน่นอน ผมเคยประสบปัญหาในครอบครัวจึงทำให้เข้าใจสภาพที่โดดเดี่ยวของ’’ เขา’’ การเป็นลูกโทนของนายทหารกับแม่ผู้ทำธุรกิจโรงแรมชั้นหนึ่ง ‘’เขา’’ ถูกปล่อยให้อยู่กับอาหารปิ่นโตที่ผูกรายเดือน กับเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่พ่อใส่ซองแล้วเสียบไว้ที่ประตูห้องนอน ‘’ผมไม่เคยมีใครที่ให้ความอบอุ่น ให้กำลังใจหรือรับรู้และปรึกษาเหมือนกับอาจารย์ครับ’’ ผมจึงจำดวงตาเศร้า หม่นๆ ขณะระบายความคับแค้นใจนั้นได้ ‘’ผมคุยกับอาจารย์ได้ใกล้ชิดกับอาจารย์สบายใจครับ’’ เขาบีบมือผมเบาๆ เป็นการย้ำคำพูด’’บอยครูจะเป็นกำลังใจให้เธอและปรารถนาดีกับเธอตลอดไป’’ คิดว่าฉันต้องอธิบายความเข้าใจให้เขาได้รับรู้ นี่ถ้าไม่เป็นเพราะว่าอยู่ในช่วงปิดภาคคงต้องเจอตัวเขาแน่นอน นึกไปก็ได้แต่เสียใจในการพูดอะไรบางอย่างตรงเกินไป ก็ใครล่ะจะมาเข้าใจความรู้สึกในส่วนลึกของจิตใจผมได้แม้จะไขว่คว้าหามันอยู่ เรียกร้องต้องการสิ่งที่ปรารถนา ซึ่งอาจเป็นเพียงสิ่งชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปนานแล้วก็ตาม ฉันจำเป็นต้องแสดงการกระทำภายนอกให้มันตรงข้าม อาการ’’ปกปิด’’ ของผมดำเนินควบคู่ไปกับคำว่า ‘’จรรยาบรรณครู’’ ยิ่งเป็นอาจารย์ฝ่ายแนะแนวอย่างที่เป็นอยู่ยิ่งต้องทน ฉันคงไม่ปฏิเสธหรอก หากใครคนนั้นไม่ได้ชื่อว่า’’ ลูกศิษย์’’ ของผมเองนับแต่ที่นักศึกษาปีที่ 3 แผนกบัญชีคนนี้เข้ามาในความดูแลของฝ่ายแนะแนวเนื่องจากปัญหาการเรียนไม่ทันเพื่อน เพราะเอาเวลาส่วนหนึ่งไปเล่นดนตรี จึงทำให้เขามาสนิทสนมกับผมมากกว่าอาจารย์ท่านอื่น ผมเองยอมรับว่าบอยหรือสนธยา เป็นนักเรียนที่มีอัธยาศัย และสุภาพดีคนหนึ่ง พูดจากเปิดเผยแต่อารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหวตามแบบฉบับนักดนตรีวัยรุ่น ผมพยายามเข้าใจและให้ความใกล้ชิดกับเขามาก ดูเหมือนเขาเองก็พอใจมาคุยปรึกษาปัญหาอยู่เสมอ ‘’เพราะอาจารย์เข้าใจผม ผมคิดตลอดเวลาที่พบอาจารย์ว่า อาจารย์คือพี่ชายผมครับ’’ นี่เป็นเหตุผลที่เขาให้กับผม ‘’ถ้าผมไม่เล่นดนตรีแก้เหงา แก้เซ็ง ป่านนี้ผมคงติดยาหรือไม่ก็เป็นไอ้ขี้เมาไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้อาจารย์คอยเป็นผู้ที่เอาใจใส่ดูแลผม ยิ่งทำให้ผมมานะและสู้กับปัญหาทุกสิ่ง ที่สำคัญผมหายเหงาได้มากเลย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน’’ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมาคลุกคลีในห้องพักของผมที่ฝ่ายแนะแนวทุกครั้งที่ว่างจากการเรียนหรือหลังเลิกเรียนก็จะรอกลับบ้านพร้อมกับผมเสมอ บางครั้งมันก็ทำให้จิตใจผมไขว้เขวหวั่นไหว เผลอใจเป็นสุขที่มีคนเคียงข้างแต่ดูเหมือนพระเจ้าจะแกล้งทดสอบความรู้สึกสงบลึกของผม หรือผมคงกำลังถูกไฟปรารถนาหลอมละลายให้อ่อนไหว บวกกับความโดดเดี่ยวของสนธยาเอง วันนั้นเขาตามผมไปที่ห้องพัก ‘’ผมเหงาเซ็งๆไม่อยากไปซ้อมดนตรีไม่อยากอยู่คนเดียว คงไม่รบกวนอาจารย์นะครับ เขาบอกถึงสาเหตุที่มาหา ประโยคหลังพูดเป็นเชิงขออนุญาตพลางหย่อนตัว นั่งที่มุมห้องซึ่งผมจัดไว้เป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนและรับแขก ‘’อาจารย์จัดห้องน่ารักจังผมอยากอยู่ที่นี่เสียแล้ว’’ เขาพูดขณะสำรวจดูห้องพัก ‘’งั้นเหรอ’’ ผมเดินไปเปิดสเตอริโอเบาๆ ‘’ชอบฟังเพลงเก่าๆไหม’’ ‘’ LET’S KEEP IT THAT WAY ‘’ เขาพึมพำขึ้นมาเมื่อได้ยินเพลงนั้น ผมนึกไม่ถึงว่าเด็กอย่างเขาจะสนใจเพลงรุ่นนี้ ‘’รู้ด้วย บอยรู้จักฟังเพลงของ ANNE MURRAY ด้วยเหรอ ‘’ ผมยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ‘’เพลงโปรดของผมคือ JUST FALL IN LOVE AGAINไงครับ’’ ผมอดหวั่นไหวไม่ได้ มันเหมือนเขารู้ความในใจของผมหมดสิ้น ผมไม่กล้าหันมาสบตาเขา ‘’อาจารย์ครับ…’’ เขารีบผมเบาเหมือนไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรออกมาดีไหม’’มีอะไรเหรอ…’’ ผมมองเขาอย่างงงๆ เมื่อเขาลุกเดินมายืนใกล้ตัว ‘’ผม…’’ ท่าทางเขาอึดอัดมาก ผมเอื้อมไปจับไหล่เขาไว้ มองด้วยสายตาที่ให้เขาเกิดความมั่นใจขึ้นมา’’ มีอะไรพูดเถอะ บอยเองเคยพูดอะไรกับครูตั้งมากมาย อย่าลืมซิ ครูเป็นที่ปรึกษาของเธอนะ’’เขายิ้มให้ผม แต่สีหน้านั้นหม่นๆ ลงไป เขาก้มหน้ารวบมือผมไปบีบเบาๆ ‘’อาจารย์อาจารย์จะรังเกียจผมไหมครับถ้าผมมีความรู้สึกว่าผมรักอาจารย์ยิ่งกว่าความเป็นพี่ชาย’’ เขาถอนหายใจเฮือกเมื่อได้หลุดคำพูดนั้นออกมา ผมตกใจ นึกไม่ถึงว่า การกระทำของผมที่ผ่านมาจะส่งผลตอบแทนแปรเปลี่ยนความรู้สึกของเขาได้ถึงเพียงนี้ และผมก็อดหวั่นไหวไม่ได้’’บอยฟังเพลง LET’SKEEP IT THAT WAY ซิ ผมขอให้มันเป็นทางเลือกวิถี มันควรไปตามทางของมัน ขอให้ความปรารถนาที่ดีมีแต่ความบริสุทธิ์ต่อกันเถอะ บอย…’’ ผมยิ้มให้เขา บีบมือที่เขายังไม่ยอมปล่อยตั้งแต่แรก ‘’ใช่ว่าครูจะรังเกียจเธอนะ เธอคงเข้าใจ แม้ครูจะรักเธอมากเพียงใด ครูก็ให้ได้เพียงคำว่า ‘’พี่ชาย’’ นั่นมันก็เกินขอบเขตแล้วรู้ไหม อย่าให้ครูต้องทำลายจรรยาบรรณของตัวเองเลย’’ ผมพยายามปลอบใจ และอธิบายให้เขาฟัง ดูเหมือนว่าเขาผิดหวังมาก ทำให้ผมรู้สึกสงสารแต่เพื่อความรู้สึกดีงาม… ‘’สนธยา..เธอควรได้พบกับวิถีชีวิตที่ดีงามและถูกต้อง’’ใบหน้าที่เงยมองดูผมเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำใสๆ จากดวงตาที่บอกถึงความผิดหวังและเสียใจ ผมปกป้องตัวเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกที่เปราะบางของเขาหรือนี่ เขาคงเจ็บปวดร้าวรานเช่นที่ผมเคยรู้สึก สนธยาปัดมือที่ผมจับอยู่และหันหลังกลับเดินตรงไปยังประตู ‘’ สนธยาบอยฟังครูก่อน’’ ผมเรียกลนลานเขาหันมาด้วยใบหน้าที่นองน้ำตา ‘’ อย่าไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก พอกันทีอาจารยทำร้ายจิตใจผม อาจารย์หลอกให้ผมรักอาจารย์ที่แท้อาจารย์ก็ไม่ได้จริงใจกับผม ผมจะไม่มาให้อาจารย์เห็นหน้าต่อไป’’ เขาถล้นวิ่งออกจากห้องไป จากวันนั้นจนถึงวันปิดภาคเรียน สนธยาไม่เคยแวะเวียนไปหาสู่ผมเหมือนแต่ก่อนเลย ‘’อย่าให้ครูต้องได้ชื่อว่าทำลายอนาคตเธอเลยนะ’’ ผมนอนนึกภาวนาให้เขามีทางออกที่ดีและมีสติคิดอะไรอย่างมีเหตุผล เสียงเพลง LET’SKEEP IT THAT WAY ที่เปิดอยู่ดังแว่วๆ ก่อนจะถูกแทรกด้วยเสียงเคราะประตู ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ‘’อาจารย์ครับเปิดประตูด้วย ผมเอง บอยไงครับ’’ ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิด รีบลุกจากเตียงไปเปิดประตูออก ใบหน้าเขาแดงก่ำ เหงื่อชุ่มเสื้อยืดคอกลมสีขาวที่ใส่กางเกงบอลสีขาวทำให้ร่างนั้นดูล่ำสัน แม้จะไม่ได้เล่นกีฬาก็ตามกลิ่นเหล้าโชยมาเข้าจมูกผม ผมขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย ‘’ บอยไปไหนมา อย่างกับวิ่ง แต่ทำไมสภาพไม่ผิดกับคนเมา…’’ เขาไม่พูด ได้แต่เดินไปนั่งที่ปลายเตียงผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้า เปิดตู้เย็นหยิบน้ำเย็นมาชุบเพื่อเช็ดหน้าให้เขา’’ เป็นอะไร ถามไม่พูด’’ ‘’ เมา แล้วเดินจากปิ่นเกล้ามาถึงที่นี่ มาดูหน้าคนใจร้าย ‘’เขาพูดห้วนๆ ท่าทางโกรธปนน้อยใจ พลางนอนหงายแผ่หราบนเตียง โดยไม่ใส่ใจกับชุดที่สวมใส่ว่ามันจะเผยให้เห็นอะไรบ้าง ผมจึงเลี่ยงจากภาพบาดความรู้สึกมาชุบผ้ากับน้ำเย็นบิดหมาดๆ แล้วนั่งลงข้างลำตัวของเขา เมื่อเอื้อมมือจะเช็ดใบหน้าให้ เขาเบี่ยงหน้าหลบ ‘’ไม่ต้อง..อย่ามายุ่งกับผม คนใจร้าย อาจารย์ใจดำ’’ เขาลุกขึ้นจ้องมองผม ด้วยสายตาดุดัน ผมตกใจเพราะไม่เคยเห็นอาการแบบนี้ของเขามาก่อนเลยผมสะดุ้งเมื่อเขากระชากร่างผมเข้าไปกอดอย่างแรง ใบหน้าผมปะทะกับอกที่ชุ่มเหงื่อ รู้สึกถึงเสียงหายใจหนักๆ ของเขาผมพยายามดิ้น เขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น พร้อมระดมจูบทั่วใบหน้า ซอกคอ ใบหู และประกบปากนิ่งแนบอยู่เนิ่นนาน ลิ้นกระหวัดชอนไชจนผมหวาบหวิว สะท้านไปทั่วร่าง ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหนหมด อาการดิ้นรนขัดขืนผลักหนีกลับโต้ตอบคล้อยตาม โอบรัดร่างแข็งแกร่งนั้น รู้สึกสะท้านวูบเมื่อร่างของผมถูกเปลือยเปล่าพร้อมๆกับเขา ผมได้สัมผัสกับไฟปรารถนาที่ร้อนระอุเนื่องด้วยถูกเก็บกดมาเนิ่นนาน เขาปลดเปลื้องความร้อนรนอย่างนุ่มนวล สลับกับรุนแรง จนเป็นที่พอใจและเปี่ยมสุขทั้งสองฝ่าย ‘’ ผมมีความสุขที่สุดเลย’’ เขากระซิบด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบ หลังจากปล่อยอุ่นไอของความรักไว้ในร่างผม ‘’บอยนะบอยครูคิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะกล้ากับครูแบบนี้’’ ‘’โกรธเหรอ ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ ผมคงผิดหวัง และทุกข์ทรมานใจไปตลอด’’ เขาดึงร่างผมเข้าไปกอดและจูบที่หน้าอกเปรอะเปื้อนพยานแห่งความสุขนั้น ผมได้รู้สึกว่าเขา’’พร้อม’’ อีกครั้ง ทั้งๆที่ผมยังเจ็บระบมไม่หาย อาจารย์ครับ ตอนนี้อาจารย์เป็นเมียผมแล้ว’’เขาพูดขณะซุกไซร้ไปตามลำตัวผม ‘’ ‘’ บ้า พูดออกมาได้ ครูเป็นครูของเธอนะ’’ ‘’ ก็ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว...และผมก็รักอาจารย์มากด้วย ผมจะพิสูจน์ให้เห็นเดี๋ยวนี้อีกครั้ง’’ผมคล้อยตามจังหวะความรักที่เขามอบให้จนถึงที่สุดของที่สุด เขาพลิกกายตะแคงกอดก่ายจ้องหน้าผม ยิ้ม แล้วก็ก้มลงจูบที่ปากและแก้ม ก่อนเงยขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน’’อาจารย์ครับผมขอโทษ’’

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น