วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฉากรัก [เรื่องสั้น]

ในท้องทุ่งนาที่กำลังตั้งท้องอร่ามไปด้วยสีทองเมื่อกระทบกับแสงแดด เด็กๆ วิ่งเล่นไล่จับกันไม่กลัวสีผิวจะเปลียน ผมกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาตัดสินใจเรื่องบางอย่างที่กลัดกลุ้มในหัวใจผม นัสเป็นเด็กบ้านนอกที่ผมได้รู้จักเขานัสเป็นเด็กที่ซื่อบริสุทธิ์ไม่เคยรู้เรื่องความรักแบบชู้สาวมาก่อน เหตุที่ผมได้รู้จักคือผมได้มาแสดงมโนราห์ที่วัดบ้านเขา เขามาดูกับแม่และเหตุบังเอิญที่ผมได้เจอนัส ตอนที่ผมได้แสดงมโนราห์เสร็จเกิดหิวขึ้นมาก็ออกมาหาอะไรทานในบริเวณวัดผมได้เจอนัสที่ร้านขายอาหารและเขากำลังหาของกินเช่นกัน นัสเข้ามาทักผม ‘’พี่คือคนที่แสดงมโนราห์ใช่ไหมครับ’’  ‘’ ครับทำไมหรือ’’ พร้อมพยักหน้าตอบรับ ‘’คือว่า ….นัสดูพี่รำแล้วสวยดี อยากทำความรู้จักด้วยได้ไหมครับ’’  ‘’ ยินดีครับ น้องชาย ‘’ ผมตอบรับเขาไป ผมก็เลยชวนนัสทานข้าวด้วยกันนัสพูดเรื่องเขามากมายจนผมจำอะไรไม่ถูก เมื่อทานเสร็จเรียบร้อย ‘’นัสกลับก่อนนะครับ แม่กำลังคอยอยู่ ตอนนี้ก็ดึกแล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านลำบาก ‘’ ผมพยักหน้าตอบรับ ‘’นัสจะมาหาพี่ตอนเช้านะครับ’’ ผมรับคำ ‘’ ขอบคุณนะครับสำหรับอาหาร’’  ‘’ ไม่เป็นไรพี่เต็มใจเลี้ยง’’ แล้วนัสก็เดินจากไป บรรยากาศตอนเช้าในบริเวณวัดเงียบสงัดพระกลับมาจากบิณฑบาตร เดินเป็นแถวสีเหลืองนวลตา สายตามองไปเห็นนัสเดินมาแต่ไกล นัสถือของกินมากมาย ‘’ นอนหลับดีไหมครับ ในวัดน่ากลัวสักหน่อยนะ เมื่อคืนผมคิดถึงพี่ทั้งคือ พี่ว่างหรือเปล่า นัสอยากจะชวนพี่ไปเที่ยวน้ำตกด้วยกัน ผมบอกตกลงเขาไปเพราะตอนเช้าไม่มีงานอะไรทำ ในระยะทางที่เดินไปด้วยกันนั้น สองข้างทางเต็มไปด้วยสวนยางและสวนสัปรด มากมาย สลับไปด้วยแปลงสวนผัก ‘’ถ้านัสมีพี่ชายแบบพี่สักคนก็ดีนะครับ ‘’ ‘’ ทำไมล่ะ’’  ผมถามนัส ‘’ เพราะพี่เก่งมั้ง ไม่รู้ทำไมผมถูกชะตากับพี่จังเลย ‘’ และอีกหลายๆเรื่องที่นัสสรรหามาคุยเดินมาไม่นานเท่าไหร่ก็เดินมาถึงบริเวณน้ำตกน้ำตกที่นี่ร่มรื่นน่าดูเพราะห่างจากตัวเมืองมาก ไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว มีเฉพาะชาวบ้านตามระแวกนั้น เท่านั้น เมื่อเลือกที่เหมาะๆได้แล้ว ผมก็นั่งพิงกับโขดหินใต้ต้นไม้ ‘’ พี่ไม่ลงเล่นน้ำหรือครับ’’ นัสถามขึ้น ‘’ นั่งสักพักครู่ให้หายเหนื่อยก่อน นัสลงเล่นก่อนก็ได้นี่ครับ ‘’ เขาถอดเสื้อออกหมดเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวแล้วกระโจนลงเล่นน้ำ ‘’ พี่ชื่ออะไรครับ นัสก็ลืมถามคุยเสียตั้งนาน’’  ‘’ พี่ชื่ออัฐครับ’’ นัสเล่นน้ำตั้งนานพึ่งสังเกตรูปร่างนัส รูปร่างของนัส รูปร่างเขาดูแข็งแกร่งสวยงามมาก หน้าอกขึ้นกล้ามเป็นมัด หน้าท้องเป็นล่อนสวยงาม และนัสขึ้นมาพักเหนื่อยข้างที่ผมนั่งอยู่ ‘’ พี่มีแฟนหรือยังครับ’’ อยู่ดีๆ นัสก็ถามขึ้นมา ‘’ ถ้าบอกว่ายังไม่มีนัสก็ไม่เชื่อ เอาเป็นว่าพี่มีเพื่อนมากก็แล้วกัน แล้วนัสล่ะ ‘’ ผมถามย้อน ‘’ ยังเลยครับ ‘’ เขาหน้าแดงขึ้น เมื่อผมมองหน้าเขา ‘’ผมยังหาใครที่ถูกใจยังไม่ได้’’ นัสกระเถิบเข้ามาหาผมและจับมือผมมาขึ้นกุม ‘’ ถ้าเกิดว่าผมรักพี่ นัสจะผิดหรือเปล่าครับ ‘’ ผมตะลึงกับคำพูดของนัส ‘’ มันผิดนะนัส’’ ผมเตือน ‘’ นัสไม่แคร์’’  ‘’มันเร็วเกินไปนะ’’ ผมหาทางหลีกเลี่ยง ทั้งที่หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น ‘’ ความรักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่และโอกาส หรือพี่รังเกียจนัส ‘’ ผมเกิดความสงสารขึ้นมาพร้อมความต้องการของหัวใจส่วนลึก ‘’ พี่ก็นึกรักนัสตั้งแต่แรกเห็น’’ ผมจับนัสจูบปาก นัสตอบรับอย่างแผ่วเบา รสสัมผัสแรกที่ได้รับเนื้อตัวของนัสสั่นสะท้านส่วนมือของผมก็สัมผัสอาวุธของนัสที่รอการสัมผัสโดยที่มีกางเกงในนั่นเองที่ขว้างกั้นอยู่ อารมณ์ปรารถนาที่ครุ่นขึ้น เราสองคนได้ตอบสนองอารมณ์ของกันและกันโดยไร้ขอบเขตจำกัด ฝ่ายหนึ่งสอน อีกฝ่ายหนึ่งเรียนารู้ได้รวดเร็วจ ถึงแม้เป็นครั้งแรกก็ตาม จากหนึ่งเป็นสองเรื่อยๆ จนต่างฝ่ายพอใจในรสรักที่มอบให้กัน ‘’นัสจะรักพี่คนเดียวถึงแม้ว่าพี่จะมีคนอื่นแล้วก็ตาม นัสจะไม่มีใครให้พี่เสียใจ สำหรับนัสได้ทุกอย่าง’’ ผมเริ่มเข้าใจในตัวนัสมากขึ้น ทุกคืนนัสจะมาดูผมรำมโนราห์ ดูเหมือนว่านัสจะผูกพันกับผมมากขึ้น เมื่อคืนสุดท้ายของการแสดงมาถึง ‘’ พี่อัฐคงจากนัสไปแล้วซินะ ไม่รู้ทำไมนัส จึงมาหลงรักพี่ได้ เมื่อนัสรักพี่แล้ว ทำไมต้องให้พี่จากนัสไปด้วย ‘’  ‘’นัสต้องเข้าใจนะ  พี่เป็นนักแสดงต้องออกต่างจังหวัดบ่อย ถ้าพี่ไม่ใช่นักแสดงพี่ก็ไม่มีโอกาสพบนัส ‘’ คืนนั้นผมกับนัสพร่ำพรอดกันจนถึงเข้าผมก็ให้ที่อยู่นัสไป ‘’ นัสจะรักพี่จนตายครับ’’ นัสบอกผมก่อนจะออกจากวัดไป ลาก่อนนัสคงมีวันที่เราพบกันอีก ถ้าชาตินี้มาอนาคต ผมบอกกับตัวเองในใจหลังจากนั้นผมก็ได้รับจดหมายจากนัสอาทิตย์หนึ่งราวสามฉบับผมก็ตอบไปเรื่อยๆ จนระยะหลังๆ ผมต้องออกต่างจังหวัดบ่อย ก็เลยห่างๆออกไปเป็นเดือนตอบครั้ง จนกลายเป็นสอง- สามเดือนตอบครั้ง จนมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงผม ‘’พี่อัฐที่รัก พี่ครับ ทำไมพี่หายเงียบไปละครับ 3 เดือนแล้วล่ะครับ รู้หรือเปล่าครับ ผมคิดถึงพี่มาก พี่คงไม่มีใจต่อนัสเลย จึงลืมเขียนจดหมายถึงนัส พี่ครับ นัสอยากให้พี่มาหานัสจังเลย อาทิตย์หน้านะครับ ถ้าพี่ไม่มานัสจะฆ่าตัวตาย ถ้าพี่ไม่เขื่อรอฟังข่าวแล้วกัน ไม่ใช่เขียนมาเพื่อเรียกร้องความสนใจเขียนมาเพื่อจะให้พี่รู้ว่านัสรักพี่เพียงใดตายเสียดีกว่าที่จะอยู่อย่างหมดหวัง รักสุดหัวใจ ….นัส ‘’ ผมเริ่มใจหายเมื่ออ่านจดหมายนัส จบ นัสเป็นได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ผมไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย ผมเริ่มคิดหนัก ผมจะทำอย่างไรดี ไปหานัสหรือ วันรุ่งขึ้น ผมเก็บผ้าใส่กระเป่า เพื่อทำสิ่งที่ค้างคาอยู่ ผมมายืนตรงจุดเดิม ท้องนาที่เคยเดินเล่นใต้ต้นประดู่ที่เคยนั่งคุย สะพานที่ยืนทอดตามองดูปลาว่ายน้ำ ทำให้ผมคิดถึงวันเก่าที่ผ่านมา ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผมได้ไปหานัสที่บ้านพบแต่แม่ของนัส แม่ของนัสดีใจที่ผมมา ‘’ นัสนอนป่วยอยู่บนบ้านอยู่หลายวันแล้วโรงเรียนก็ไม่ได้ไป ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน อุตสาห์คาดคั้นแล้วมันก็ไม่ยอม มันบอกว่าจะรอคุณ’’ ผมน้ำตาคลอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สงสารขึ้นมาจับใจ ผมขึ้นบ้านตามแม่ของนัสไป นัสนอนป่วยอยู่ในห้อง นัสนอนหลับอยู่ ผมมองดูแล้วร่างกายของนัสซูบผอมลง ผมมองไปร้องไห้ไปผมนั่งดูสักครู่นัสก็ตื่นขึ้นมา เมื่อเขามองเห็นผมนัสลุกขึ้นมากอดผมโดยไม่อายต่อหน้าแม่เขาเลย นัสร้องไห้ฟูมฟายและต่อว่าผม ‘’ พี่ลืมผมแล้วใช่ไหม พี่สัญญาต่อผมว่าจะเขียนจดหมายมาหา แล้วพี่ก็หายไปพี่ลืมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วหรือครับ’’ ผมได้แต่แก้ตัวให้เขาฟัง หลังจากนั้นผมได้อยู่กับนัสหลายวัน ดูเขากินอาหารได้มาก และแข็งแรงขึ้น ร่าเริงดูดีขึ้นจนผิดตา ‘’ แม่นัสบอกว่า ‘’ มันรักคุณมาก ฉันไม่ว่าอะไรหรอกที่มันมารักคุณ มันขาดพ่อตั้งแต่มันไม่เกิด ถือว่าฉันมีกรรมก็แล้วกัน เลี้ยงได้แต่ตัว แล้วคุณล่ะจะเอาอย่างไรกับมัน’’ ผมได้แต่อึ้งไปผมบอกว่าขอคิดดูก่อนและผมจะให้คำตอบ ผมมาอยู่ได้เกือบเดือน ผมก็กลับ’’ ต้นเดือนหน้าพี่จะมาให้คำตอบ’’ ผมบอกนัสรอที่ท่ารถประจำอำเภอ ‘’ พี่อย่าลืมนะว่านัสคอยพี่คอยความรักจากพี่’’ วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ซ และวันตัดสินใจก็มาถึง เหตุการณ์ที่เหมือนเดิมผมได้มายืนอยู่หน้าบ้านนัส พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ‘’ นัสนัส ผมเรียกนัส นัสลงมาจากบ้านตามเสียงเรียก นัสเมื่อเห็นผมดีใจมากมาย’’  ‘’พี่จะมาขออยู่กับนัสด้วยคนได้หรือเปล่า’’  ‘’ ได้ครับ ‘’ นัสพูดพร้อมน้ำตาและเสียงสะอื้น ‘’ นัสจะเลี้ยงพี่เองครับ นัสจะรีบเรียนให้จบไวๆ จนจบปริญญา’’ น้ำตาผมกับนัสออกมาผสมผสานกัน เรากอดกันแน่นหนาเพื่อเป็นสัญญาว่าเราจะไม่ผลัดพรากจากกันอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น